เหตุผลที่เกิดแรงบันดาลใจ ความจำเป็น ปัญหาหรือความต้องการที่จะทำผลงาน
ปัจจุบันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นยังคงเป็นหนึ่งในวาระแห่งชาติที่บั่นทอนความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และธรรมาภิบาลของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกฝังจิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริตให้หยั่งรากลึกในสังคมตั้งแต่เยาว์วัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลิตและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของชาติ จึงได้กำหนดนโยบายและขับเคลื่อน "โครงการโรงเรียนสุจริต" ขึ้น เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันและปลูกฝังคุณลักษณะ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต ได้แก่ มีทักษะการคิด มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต อยู่อย่างพอเพียง และมีจิตสาธารณะ ให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเริ่มจากการฝึกให้นักเรียนเคารพกฎกติกาพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เช่น การเข้าแถว ไม่พูดปด
ไม่ขีดเขียนฝาผนัง ไม่หยิบของที่ไม่ใช่ของตนเอง มีความซื่อสัตย์ เป็นต้น เพื่อเป็นการปฏิบัติเบื้องต้นที่ถูกต้องและในอนาคตจะได้เคารพกฎใหญ่ของสังคมอย่างไม่มีปัญหา (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2563)
ในฐานะสถานศึกษาที่มุ่งมั่นสร้างคนดีและคนเก่ง โรงเรียนบ้านตะโละดารามัน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มีความตระหนักอย่างยิ่งถึงบริบทเฉพาะของสังคมและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการศึกษาที่ต้องบูรณาการหลักคำสอนทางศาสนาอิสลามควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะทางโลก อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์สภาพปัญหาภายในโรงเรียน พบว่าแม้จะมีการปลูกฝังคุณธรรมศาสนามาอย่างต่อเนื่อง แต่การนำหลักธรรมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน ความซื่อสัตย์สุจริต และคุณลักษณะของพลเมืองที่ดีตามแนวทางโรงเรียนสุจริต ยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังขาดแนวทางที่ชัดเจนและเป็นระบบในการพัฒนาทักษะพื้นฐานที่จำเป็น เช่น การอ่านและเขียนภาษาไทย การอ่านอัลกุรอานซึ่งเป็นประตูสำคัญสู่การเรียนรู้และเข้าใจหลักธรรม และยังขาดทักษะอาชีพพื้นฐานที่จะช่วยให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต
ที่สำคัญยิ่งคือ ความต้องการของผู้ปกครองและชุมชนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคาดหวังที่จะได้เห็นบุตรหลานของตนเอง สามารถอ่านอัลกุรอานจนจบเล่มก่อนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และสามารถ ท่องจำซูเราะห์สำคัญและจำเป็นได้ ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของการดำเนินชีวิตตามหลักศาสนาอิสลาม และเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองให้ความสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้ผู้ปกครองยังต้องการให้บุตรหลานมีทักษะการอ่านเขียนภาษาไทยได้คล่องแคล่วและสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้และการประกอบอาชีพในอนาคต
จากปัญหาและความต้องการดังกล่าวข้างต้น ประกอบกับแรงบันดาลใจจากการได้ศึกษา Best Practice คุณธรรมนำวิถี สร้างคนดี ด้วยยุทธศาสตร์เสริมสร้างพลังครูสู่นักเรียน ของนางสุนิษา ทองแผน ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเทพมงคล จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ชัดเจนของความสำเร็จในการบูรณาการคุณธรรมเข้ากับการจัดการศึกษา ทำให้ข้าพเจ้าในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตะโละ-
ดารามัน เล็งเห็นความสำคัญจึงได้บริหารจัดการสถานศึกษา โดยใช้นวัตกรรม คุณธรรมนำวิถี สร้างคนดี 4 อ. เสริมสร้างพลังครูสู่นักเรียน สู่วิถีโรงเรียนสุจริต เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมีความประพฤติดี เป็นคนดีของสังคม ตามคุณลักษณะ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต คือ มีทักษะกระบวนการคิด มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต อยู่อย่างพอเพียง และมีจิตสาธารณะ ได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมทั้งซึมซับคุณค่าแห่งความดี มีจิตสำนึกดี แยกแยะผิดชอบชั่วดี ภูมิใจในการทำความดี รังเกียจการโกง การทำความชั่ว สร้างจิตสำนึกเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริตอย่างถูกต้อง
1.2 แนวคิดและหลักการสำคัญ
โรงเรียนบ้านตะโละดารามัน เป็นโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 18 คน นักเรียน 117 คน โรงเรียนมีบทบาทความรับผิดชอบเกี่ยวกับการบริหารการจัดการศึกษา ให้ความสำคัญกับการเตรียมการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในสถานศึกษา เพื่อวางรากฐานการปลูกจิตสำนึก ซึ่งเป็นกลไกในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประเทศชาติ
นวัตกรรม คุณธรรมนำวิถี สร้างคนดี 4 อ. เสริมสร้างพลังครูสู่นักเรียน ได้รับการออกแบบอย่างรอบคอบโดยอ้างอิงแนวคิดและหลักการสำคัญทางวิชาการที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน ดังนี้
ประการแรก หัวใจสำคัญของนวัตกรรมนี้ คือ แนวคิดโรงเรียนสุจริตของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างและปลูกฝังคุณลักษณะ 5 ประการในผู้เรียน ได้แก่ การมีทักษะการคิด มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต อยู่อย่างพอเพียง และมีจิตสาธารณะ โรงเรียนบ้านตะโละดารามันได้นำคุณลักษณะเหล่านี้มาเป็นแกนหลักในการจัดกิจกรรม โดยเฉพาะการเน้นย้ำถึง ความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเป็นพลเมืองที่ดีและเป็นการตอบสนองนโยบายระดับประเทศในการต่อต้านการทุจริต นอกจากนี้ นวัตกรรมยังมุ่งมั่นที่จะทำให้นักเรียนซึมซับคุณค่าแห่งความดี มีจิตสำนึกดี แยกแยะผิดชอบชั่วดี ภูมิใจในการทำความดี และรังเกียจการโกง การทำความชั่ว ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของการดำเนินโครงการโรงเรียนสุจริต
ประการที่สอง โรงเรียนได้นำหลัก "4 อ." มาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนคุณธรรมจริยธรรมให้เข้าถึงผู้เรียนอย่างเป็นระบบและสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน รวมถึงความต้องการของผู้ปกครองและชุมชน โดยมีความสำคัญและบทบาทในการพัฒนาผู้เรียน ดังนี้
1) อัลกุรอ่าน (เสริมสร้างจิตวิญญาณและคุณธรรม): ในบริบทของโรงเรียนบ้านตะโละดารามัน
ซึ่งมีนักเรียนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม อัลกุรอ่าน ถือเป็นแกนหลักทางจิตวิญญาณและจริยธรรม
การเรียนรู้อัลกุรอ่านมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างจิตวิญญาณและคุณธรรมของผู้เรียน การเข้าใจและปฏิบัติตามคำสอนในอัลกุรอ่านช่วยให้ผู้เรียนมีชีวิตที่สมดุล มีสติ และมีคุณธรรมในการดำเนินชีวิต
การเรียนรู้อัลกุรอ่านไม่เพียงแค่การท่องจำเท่านั้น แต่ยังสามารถนำคำสอนมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
เพื่อเสริมสร้างจิตวิญญาณและคุณธรรมให้กับตนเองและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบโจทย์หรือตอบสนองความต้องการของผู้ปกครองและชุมชน ที่ต้องการให้บุตรหลานสามารถอ่านอัลกุรอานจนจบเล่มก่อนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และท่องจำซูเราะห์ที่สำคัญและจำเป็นได้ ซึ่งสะท้อนถึงการปลูกฝังความซื่อสัตย์ (Al-Amanah) ความยุติธรรม (Al-Adl) การรักษาสัญญา (Al-Wafa’) และการไม่คดโกง (Al-Ghulul)
จากรากฐานความเชื่ออันศักดิ์สิทธิ์
2) อ่านคล่อง เขียนคล่อง (เสริมสร้างความรู้และทักษะการสื่อสาร): การพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนทั้งภาษาอาหรับ (ซึ่งเป็นภาษาของอัลกุรอ่าน) และภาษาไทย (ภาษาหลักในการสื่อสารและการแสวงหาความรู้) เป็นพื้นฐานสำคัญในการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต การอ่านช่วยเสริมสร้างความรู้และทักษะการคิดวิเคราะห์ ขณะที่การเขียนช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารและการถ่ายทอดความคิด การสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการอ่านและการเขียนในโรงเรียน การใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาทักษะเหล่านี้ และการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการอ่านและการเขียน จะช่วยให้นักเรียนมีทักษะชีวิตที่จำเป็นและพร้อมในการดำเนินชีวิตในสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ และยังตอบสนองความต้องการของผู้ปกครองและชุมชนที่ต้องการเห็นบุตรหลานสามารถอ่านและสื่อสารภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว
3) อาชีพ (เตรียมความพร้อมในการดำรงชีวิต): การฝึกทักษะอาชีพเป็นกระบวนการที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมสำหรับการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ การฝึกทักษะอาชีพควรเน้นการพัฒนาทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน การเรียนรู้ตลอดชีวิต การฝึกปฏิบัติจริง การบูรณาการกับการเรียนรู้ทั่วไป การส่งเสริมทักษะอ่อน (Soft Skill) และการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม การประยุกต์ใช้หลักการเหล่านี้ในการฝึกทักษะอาชีพจะช่วยให้นักเรียนมีความพร้อมในการประกอบอาชีพและดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกฝังความซื่อสัตย์สุจริตในการประกอบสัมมาอาชีพ และการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2562)
4) อัคลาค (พัฒนามารยาทและจริยธรรม): การพัฒนามารยาทและจริยธรรมมีบทบาทสำคัญในการสร้างบุคลิกภาพที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม การให้ความรู้ การเป็นตัวอย่างที่ดี การสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริม การส่งเสริมความเข้าใจและการเห็นคุณค่า และการสร้างแรงจูงใจเป็นหลักการสำคัญที่ช่วยให้การพัฒนามารยาทและจริยธรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การประยุกต์ใช้หลักการเหล่านี้ในครอบครัว โรงเรียน และชุมชนจะช่วยเสริมสร้างบุคคลที่มีมารยาทและจริยธรรมที่ดี ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่สงบสุขและเจริญก้าวหน้า สอดคล้องกับการพัฒนาวินัยและจิตสาธารณะในตัวผู้เรียน
ประการที่สาม การเสริมสร้างพลังครู (Teacher Empowerment) เพื่อให้การขับเคลื่อนคุณธรรมบรรลุเป้าหมายอย่างยั่งยืน โรงเรียนได้ใช้แนวคิด การเสริมสร้างพลังครู (Teacher Empowerment) เป็นกลไกหลักในการดำเนินงาน แนวคิดนี้มีรากฐานมาจากทฤษฎีการบริหารจัดการและจิตวิทยาองค์กร ที่เชื่อว่าการพัฒนาประสิทธิภาพขององค์กรอย่างยั่งยืนนั้น จะต้องมาจากพลังและความสามารถที่ได้รับการส่งเสริมจากบุคลากรระดับปฏิบัติการ โดยเฉพาะครูผู้สอนซึ่งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้เรียนและเป็นผู้ส่งมอบนโยบายสู่การปฏิบัติโดยตรง การเสริมสร้างพลังครูไม่ใช่เพียงการมอบอำนาจ (Delegation) เท่านั้น แต่เป็นการทำให้ครูรู้สึกถึง ความเป็นเจ้าของ (Ownership) ในภารกิจ รู้สึกว่าตนเองมี ความสามารถ (Competence) ในการปฏิบัติงาน มี ผลกระทบ (Impact) ต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น มี โอกาสในการเลือก (Choice) วิธีการทำงาน และมีความหมาย (Meaningfulness) ในสิ่งที่ตนเองทำ (Spreitzer, 1995; Conger & Kanungo, 1988) หรือในบริบทไทย
อาจอธิบายได้ว่าคือการสร้างแรงจูงใจภายในและการเพิ่มขีดความสามารถของครูให้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและพัฒนาการศึกษาอย่างเต็มศักยภาพ (ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์, 2553)
8.2 การดำเนินงานอย่างเป็นระบบและยืดหยุ่น
ประยุกต์ใช้หลัก PDCA: นำวงจรคุณภาพ PDCA (Plan-Do-Check-Act) มาใช้เป็นกรอบในการบริหารจัดการในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผน การดำเนินงาน การติดตามประเมินผล และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง
บูรณาการกิจกรรม 4 อ. เข้ากับหลักสูตรและชีวิตประจำวัน: ไม่จำเป็นต้องจัดกิจกรรม 4 อ. แยกเป็นเอกเทศ แต่ควรสอดแทรกและบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนในทุกกลุ่มสาระวิชา และกิจกรรมในชีวิตประจำวันของนักเรียน เพื่อให้คุณธรรมแทรกซึมไปในทุกอณูของการเรียนรู้และพฤติกรรม
เน้นการปฏิบัติจริงและเป็นรูปธรรม: การปลูกฝังคุณธรรมต้องเน้นการลงมือปฏิบัติและประสบการณ์จริง (Learning by Doing) มากกว่าการสอนเชิงทฤษฎีเพียงอย่างเดียว เช่น กิจกรรมตลาดนัดเพื่อฝึกความซื่อสัตย์ในการค้าขาย หรือการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสร้างจิตสาธารณะ
เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ และค่อยๆ ขยายผล: หากไม่สามารถดำเนินการได้ครบทุกมิติในคราวเดียว ควรเริ่มต้นจากกิจกรรมที่สำคัญและสามารถทำได้ง่ายในบริบทของตนเองก่อน เมื่อประสบความสำเร็จแล้วจึงค่อย ๆ ขยายผลไปยังกิจกรรมอื่น ๆ
8.3 ติดตาม ประเมินผล และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
สร้างระบบการติดตามและประเมินผลที่ชัดเจน: กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมสำหรับแต่ละกิจกรรม รวมถึงคุณลักษณะ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต และหลัก 4 อ. ใช้เครื่องมือที่หลากหลายในการเก็บข้อมูล เช่น แบบสังเกต แบบสอบถาม แบบทดสอบ และบันทึกพฤติกรรม
นำผลการประเมินมาปรับปรุง: ใช้ข้อมูลจากการติดตามและประเมินผลเป็นฐานในการวิเคราะห์หาจุดแข็ง จุดอ่อน และโอกาสในการพัฒนา จัดให้มีการถอดบทเรียน (Lesson Learned) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงนวัตกรรมและวิธีการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สร้างเครือข่ายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้: แลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้กับโรงเรียนหรือหน่วยงานที่ดำเนินงานคล้ายคลึงกัน เพื่อเรียนรู้จากความสำเร็จและความท้าทายของผู้อื่น ซึ่งจะช่วยยกระดับการพัฒนาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
นวัตกรรม "คุณธรรมนำวิถี สร้างคนดี 4 อ. เสริมสร้างพลังครูสู่นักเรียน" เป็นต้นแบบที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างคนดีและคนเก่งไปพร้อมกันได้ การนำไปประยุกต์ใช้ด้วยความเข้าใจบริบท การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีต่อเยาวชนและการพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืน