ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนเขาดินประชานุกูล ด้วย KP-CARE MODEL

การดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นภารกิจสำคัญที่ทุกสถานศึกษาต้องดำเนินการอย่างมีระบบและต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนได้รับการดูแลทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา คุณธรรม และสังคม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่ให้ความสำคัญกับการ “คุ้มครองและดูแลความปลอดภัยของนักเรียนในทุกมิติ” และมุ่งเน้นสถานศึกษาให้เป็น “พื้นที่ปลอดภัยและเป็นสุข” โดยเฉพาะตามโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งเน้นทักษะชีวิต ความปลอดภัย และสุขภาวะที่ดีของผู้เรียน (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๖๕)

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้กำหนดนโยบายให้ทุกสถานศึกษาดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเข้มแข็ง โดยประกอบด้วยการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล การคัดกรอง การส่งเสริม การป้องกันแก้ไข และการส่งต่อ โดยเน้นให้ครูทุกคนมีส่วนร่วมและใช้ข้อมูลสารสนเทศเป็นฐานในการวางแผนดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ (สพฐ., ๒๕๖๕) สำหรับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตรัง-กระบี่ ได้กำหนดนโยบายเร่งรัดสถานศึกษาให้จัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่รัดกุม เน้นความปลอดภัยในสถานศึกษา การพัฒนาทักษะชีวิต การป้องกันเหตุความรุนแรง การละเมิดสิทธิเด็ก และการป้องกันยาเสพติดและพฤติกรรมเสี่ยงในวัยรุ่น (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตรัง-กระบี่, ๒๕๖๕) นโยบายนี้สะท้อนถึงความจำเป็นของโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดตรังและกระบี่ที่ต้องเผชิญกับปัญหาความหลากหลายทางสังคม เศรษฐกิจ และครอบครัวของผู้เรียน ทำให้ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นกลไกสำคัญในการปกป้อง ดูแล และเสริมสร้างโอกาสการเรียนรู้ให้เด็กทุกคนอย่างเท่าเทียม (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๖๕)

จากการศึกษางานวิจัยหลายฉบับ เช่น งานวิจัยของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสถาบันศึกษาทางการศึกษา พบว่า ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีประสิทธิภาพต้องมีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ การมีข้อมูลรายบุคคลที่ถูกต้อง การคัดกรองอย่างเป็นระบบ การมีเครือข่ายความร่วมมือ และการติดตามช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง (สกว., ๒๕๖๕) การทำงานเชิงรุกและความร่วมมือจากผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานภายนอกจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการลดปัญหาพฤติกรรม ความเสี่ยง และส่งเสริมความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, ๒๕๖๐)

เมื่อพิจารณาบริบทของ โรงเรียนเขาดินประชานุกูล ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กในชุมชนกึ่งชนบท มีนักเรียนที่มาจากครอบครัวฐานะยากจน ครอบครัวแตกแยก ผู้ปกครองทำงานนอกพื้นที่ และมีนักเรียนจำนวนหนึ่งต้องอาศัยอยู่กับปู่ย่าตายาย ทำให้การดูแลใกล้ชิดในครอบครัวมีข้อจำกัด ส่งผลต่อการเรียน การปรับตัว และพฤติกรรมของนักเรียน นอกจากนี้ ยังพบปัญหาด้านความปลอดภัยในเส้นทางเดินทางไป–กลับโรงเรียน ความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต ความเครียด และการใช้สื่อออนไลน์ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญที่ต้องได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วนและเป็นระบบ แม้โรงเรียนจะมีการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามนโยบายมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น การใช้ข้อมูลยังไม่เป็นระบบเดียวกัน การขาดเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงให้เห็นภาพชัดเจน การขาดการประสานงานที่เป็นเอกภาพระหว่างครู ผู้ปกครอง และชุมชน รวมถึงการตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ซึ่งมักต้องอาศัยการช่วยเหลือแบบเร่งด่วนและสหวิชาชีพ ทำให้เกิดความจำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาระบบที่ครบวงจร ยืดหยุ่น และเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนขนาดเล็ก

จากสภาพปัญหาและข้อจำกัดดังกล่าว โรงเรียนเขาดินประชานุกูล จึงได้พัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยการใช้ KP-CARE MODEL ซึ่งเป็นโมเดลที่ออกแบบมาเพื่อให้การดูแลนักเรียนมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนขนาดเล็กในชุมชนกึ่งชนบท โดยการใช้โมเดลนี้จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีระบบ ประกอบด้วย K - Knowledge (ความรู้) การเสริมสร้างความรู้ให้กับครูและบุคลากรในการใช้ข้อมูลสารสนเทศเพื่อวิเคราะห์ปัญหาของนักเรียนอย่างถูกต้อง และการใช้เครื่องมือในการคัดกรองที่มีความแม่นยำ เพื่อให้สามารถเข้าถึงปัญหาของนักเรียนแต่ละคนได้อย่างรวดเร็ว P - Participation (การมีส่วนร่วม) เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและติดตามการพัฒนานักเรียน โดยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียน, ผู้ปกครอง, และหน่วยงานภายนอก C - Care (การดูแล) การดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด โดยการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลและจัดกิจกรรมที่เหมาะสมเพื่อลดความเครียดและปัญหาทางสุขภาพจิตของนักเรียน A - Awareness (การตระหนักรู้) การสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องความปลอดภัยทั้งในและนอกโรงเรียน โดยการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการป้องกันอุบัติเหตุและการใช้สื่อออนไลน์อย่างปลอดภัย R - Response (การตอบสนอง) การตอบสนองต่อปัญหาของนักเรียนอย่างรวดเร็ว โดยการใช้แผนการจัดการที่มีประสิทธิภาพและมีขั้นตอนที่ชัดเจน E - Evaluation (การประเมินผล) การประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงและพัฒนาแนวทางการดูแลให้ตรงกับความต้องการของนักเรียนและบริบทของโรงเรียน การใช้ KP-CARE MODEL จะช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเป็นระบบและมีความยืดหยุ่น รองรับการพัฒนาอย่างยั่งยืน

วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนเขาดินประชานุกูล โดยใช้ KP-CARE MODEL เพื่อให้การดูแลและสนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียนมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน ๒. เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างโรงเรียน, ผู้ปกครอง, ชุมชน และหน่วยงานภายนอกในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในด้านการพัฒนาทักษะชีวิตและความปลอดภัย ๓. เพื่อพัฒนากระบวนการคัดกรอง ป้องกัน และการตอบสนองต่อปัญหาของนักเรียนในทุกมิติอย่างมีระบบและต่อเนื่อง

ผลการดำเนินงานพบว่า ๑. ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนเขาดินประชานุกูลได้รับการพัฒนาตาม KP-CARE MODEL อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถตอบสนองความต้องการของนักเรียนทั้งในด้านวิชาการ, สุขภาพจิต, พฤติกรรม และคุณภาพชีวิต KP-CARE MODEL ช่วยให้การดูแลนักเรียนมีความเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนขนาดเล็ก โดยมุ่งเน้นการดูแลที่เชื่อมโยงกับความเสี่ยงและปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ๒. ความร่วมมือระหว่างโรงเรียน, ผู้ปกครอง, ชุมชน, และหน่วยงานภายนอกมีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ โดยภาคีเครือข่ายทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ที่เสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยของนักเรียน การทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนทำให้การดูแลนักเรียนครอบคลุมทุกด้าน และส่งผลให้นักเรียนได้รับการดูแลและช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีคุณภาพในทุกมิติ ๓. กระบวนการคัดกรองนักเรียนได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างมีระบบ ทำให้โรงเรียนสามารถระบุและจัดกลุ่มนักเรียนตามความเสี่ยงหรือปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ การตอบสนองต่อปัญหาของนักเรียนในทุกมิติ เช่น ปัญหาพฤติกรรม สุขภาพจิต หรือปัญหาครอบครัว ได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที พร้อมทั้งระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่สมบูรณ์ ซึ่งช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และช่วยให้นักเรียนสามารถกลับเข้าสู่การเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิผล

เชิงปริมาณ

๑. โรงเรียนดำเนินการตามระบบ KP-CARE MODEL อย่างครบถ้วน โดยมีการคัดกรองและดูแลนักเรียนทุกคนอย่างทั่วถึง ทั้งในด้านพฤติกรรม สุขภาพจิต และความปลอดภัย ส่งผลให้มีนักเรียนที่ได้รับการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพถึงร้อยละ ๑๐๐

๒. การดำเนินการตามแผนการดูแลช่วยเหลือและความปลอดภัย ทำให้ปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงและอุบัติเหตุในโรงเรียนลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยอัตราการเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ลดลงเกินกว่าร้อยละ ๕๐ เมื่อเปรียบเทียบกับปีการศึกษาที่ผ่านมา

๓. โรงเรียนจัดกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและความปลอดภัยให้กับนักเรียน ทำให้มีนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมและได้รับการพัฒนาในด้านทักษะชีวิตและความปลอดภัยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๑๐๐

เชิงคุณภาพ

๑. นักเรียนสามารถปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยได้ดี มีทักษะในการดูแลตนเองและป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในและนอกโรงเรียน เช่น การใช้ถนนอย่างปลอดภัย การป้องกันจากบุคคลแปลกหน้า และการใช้สื่อออนไลน์อย่างปลอดภัย

๒. ครูและบุคลากรได้รับการอบรมและพัฒนาทักษะในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถใช้ข้อมูลที่ได้รับจากการคัดกรองนักเรียนในการออกแบบการช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมตามความต้องการของนักเรียน

๓. จากการประเมินความพึงพอใจจากผู้ปกครอง พบว่าโรงเรียนได้รับความพึงพอใจสูงถึงร้อยละ ๙๐ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความปลอดภัยในโรงเรียน

๔. โรงเรียนได้รับการยอมรับจากชุมชนและผู้ปกครองว่าเป็นสถานศึกษาที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน และมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ทั้งด้านวิชาการและด้านการพัฒนาทักษะชีวิต โดยมีมาตรการความปลอดภัยที่ชัดเจนและการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

โพสต์โดย เทวัน : [24 พ.ย. 2568 (10:30 น.)]
อ่าน [42507] ไอพี : 125.27.222.166
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,404 ครั้ง
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)

เปิดอ่าน 14,634 ครั้ง
ดีท็อกซ์ร่างกาย ล้างพิษสมอง ชำระขยะใจ รับ "สุขมหาศาล" ทั้งปี 2556
ดีท็อกซ์ร่างกาย ล้างพิษสมอง ชำระขยะใจ รับ "สุขมหาศาล" ทั้งปี 2556

เปิดอ่าน 13,922 ครั้ง
ความลับของ ลูกแพร์หน้าทารก ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตจีน
ความลับของ ลูกแพร์หน้าทารก ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตจีน

เปิดอ่าน 3,415 ครั้ง
เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว
เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว

เปิดอ่าน 13,296 ครั้ง
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย มีระบบใดบ้าง?
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย มีระบบใดบ้าง?

เปิดอ่าน 12,986 ครั้ง
ส้มป่อย สุดยอดผักเพิ่มภูมิคุ้มกัน
ส้มป่อย สุดยอดผักเพิ่มภูมิคุ้มกัน

เปิดอ่าน 1,857 ครั้ง
ฟิลเลอร์ใต้ตา เคลียร์ปัญหาใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา เห็นผลในครั้งแรก
ฟิลเลอร์ใต้ตา เคลียร์ปัญหาใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา เห็นผลในครั้งแรก

เปิดอ่าน 18,564 ครั้ง
5 วิธีทำให้รวยเร็ว
5 วิธีทำให้รวยเร็ว

เปิดอ่าน 27,862 ครั้ง
จิตรกรรมไทยแบบประเพณี
จิตรกรรมไทยแบบประเพณี

เปิดอ่าน 25,862 ครั้ง
มาตราวัด มาตราชั่ง กับมาตราเงินของสยาม
มาตราวัด มาตราชั่ง กับมาตราเงินของสยาม

เปิดอ่าน 15,549 ครั้ง
ครูจีนสุดโหด! ตบเด็กอนุบาลไม่ยั้ง โมโหตอบโจทย์เลขไม่ได้
ครูจีนสุดโหด! ตบเด็กอนุบาลไม่ยั้ง โมโหตอบโจทย์เลขไม่ได้

เปิดอ่าน 11,571 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์
ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์

เปิดอ่าน 33,122 ครั้ง
เข้าทางใครบางคนแน่ๆ นักวิจัยเผย "มนุษย์ชอบทำห้องรก" ยิ่งวางของเกะกะยิ่งฉลาด
เข้าทางใครบางคนแน่ๆ นักวิจัยเผย "มนุษย์ชอบทำห้องรก" ยิ่งวางของเกะกะยิ่งฉลาด

เปิดอ่าน 5,573 ครั้ง
กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2
กว่าจะเป็นครู : สรุปให้รู้ตามทันโลกการศึกษา EP.2

เปิดอ่าน 45,593 ครั้ง
วิกฤต... "บัณฑิตแห่ตกงาน" อีกหนึ่งความล้มเหลว... อุดมศึกษาไทย
วิกฤต... "บัณฑิตแห่ตกงาน" อีกหนึ่งความล้มเหลว... อุดมศึกษาไทย

เปิดอ่าน 16,693 ครั้ง
คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้ว
คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้ว
เปิดอ่าน 116,572 ครั้ง
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับป้ายบอกสถานที่และชื่อห้องในโรงเรียน
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับป้ายบอกสถานที่และชื่อห้องในโรงเรียน
เปิดอ่าน 31,510 ครั้ง
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการจัดงาน
การปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการจัดงาน
เปิดอ่าน 25,308 ครั้ง
เรือวิกตอเรีย เป็นเรือลำแรกที่เดินทางรอบโลกได้สำเร็จ
เรือวิกตอเรีย เป็นเรือลำแรกที่เดินทางรอบโลกได้สำเร็จ
เปิดอ่าน 12,558 ครั้ง
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ