ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การนำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการเพื่อเตรียมความพร้อมพัฒนาผู้เรียน เข้าสู่ศตวรรษที่ ๒๑

รายละเอียดการนำเสนอผลงานนวัตกรรม

1. ความสำคัญของนวัตกรรม

1.1 ที่มาและความสำคัญของนวัตกรรม

เทคโนโลยีมีผลกระทบต่อการบริหารงานของสถานศึกษาในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นการบริหารงานวิชาการ การจัดการเรียนการสอน การบริหารทรัพยากรบุคคล การบริหารอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อม การบริหารกิจการนักเรียน และการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน ซึ่งงานของสถานศึกษาในทุกด้านจะต้องมีระบบจัดการฐานข้อมูลของสถานศึกษาเพื่อการตัดสินใจในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ICT (Information and Communication Technology) มาใช้การเพื่อสร้างระบบฐานข้อมูลเพื่อการบริหารและการจัดการความรู้ในงานด้านต่างๆ

ทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 มีสาระวิชามีความสำคัญแต่ไม่เพียงพอสำหรับการเรียนรู้เพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ปัจจุบันการเรียนรู้สาระวิชา (content หรือ subject matter) ควรเป็นการเรียนจากการค้นคว้าเองของนักเรียน โดยครูช่วยแนะนำ และช่วยออกแบบกิจกรรมที่ช่วยให้นักเรียนแต่ละคนสามารถประเมินความก้าวหน้าของการเรียนรู้ของตนเองได้ สาระวิชาหลัก (Core Subjects) ประกอบด้วย ภาษาแม่ และภาษาสำคัญของโลก ศิลปะคณิตศาสตร์ การปกครองและหน้าที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์โดยวิชาแกนหลักนี้จะนำมาสู่การกำหนดเป็นกรอบแนวคิดและยุทธศาสตร์สำคัญต่อการจัดการเรียนรู้ในเนื้อหาเชิงสหวิทยาการ (Interdisciplinary) หรือหัวข้อสำหรับศตวรรษที่ 21 โดยการส่งเสริมความเข้าใจ ในเนื้อหา วิชาแกนหลัก และสอดแทรกทักษะ 3R8C (Reading, wRiting, aRithmetic, Critical thinking, Communication, Collaboration, Creativity, Computing, and Citizenship) ให้กับผู้เรียนเป็นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ที่จะช่วยเตรียมพร้อมผู้เรียนให้สามารถรับมือกับความท้าทายในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทักษะเหล่านี้สามารถสอดแทรกในการเรียนการสอนได้หลายวิธี เช่น

1. การอ่าน (Reading)

1.1 ส่งเสริมให้ผู้เรียนอ่านหนังสือหรือบทความที่หลากหลาย เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านและการตีความ เน้นการอ่านที่สามารถเชื่อมโยงกับประเด็นต่างๆ และการคิดวิพากษ์วิเคราะห์สิ่งที่อ่าน

1.2 การอ่านสาระสำคัญ หรือบทความที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาวิชานั้นๆ เพื่อเสริมความเข้าใจ

2. การเขียน (Writing)

2.1 สอนการเขียนเรียงความ หรือการเขียนรายงานที่ต้องการการคิดวิเคราะห์และสะท้อนความคิดเห็นจากข้อมูลที่ได้อ่าน

2.2 ใช้การเขียนเป็นเครื่องมือในการสื่อสารความคิดเห็นหรือทัศนคติ เพื่อฝึกการถ่ายทอดความคิดให้ชัดเจน

3. การคำนวณ (Arithmetic)

3.1 การฝึกทักษะคำนวณที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การคำนวณต้นทุนหรือการประเมินค่าใช้จ่ายเพื่อพัฒนาทักษะด้านตัวเลข

3.2 ใช้การคำนวณในวิชาคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์เพื่อเสริมความเข้าใจในหลักการต่างๆ

4. การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking)

4.1 การกระตุ้นให้ผู้เรียนตั้งคำถามและวิเคราะห์ข้อมูล หรือปัญหาจากหลายๆ มุมมอง

4.2 ใช้การอภิปรายกลุ่มเพื่อฝึกการคิดเชิงวิพากษ์ในการแก้ปัญหา

5. การสื่อสาร (Communication)

5.1 สอนทักษะการสื่อสารทั้งการฟังและการพูด เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำเสนอความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.2 จัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ฝึกการนำเสนอข้อมูลหรือการพูดในที่สาธารณะ

6. การทำงานร่วมกัน (Collaboration)

6.1 ส่งเสริมการทำงานกลุ่ม เพื่อฝึกทักษะการทำงานร่วมกัน การแบ่งงานและการประสานงาน

6.2 ใช้กิจกรรมที่ให้ผู้เรียนร่วมมือในการแก้ปัญหาหรือทำโครงการร่วมกัน

7. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

7.1 กระตุ้นให้ผู้เรียนคิดนอกกรอบด้วยการใช้กิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เช่น การออกแบบโครงการ หรือกิจกรรมศิลปะ

7.2 ใช้การเล่นบทบาทหรือการทดลองเพื่อกระตุ้นจินตนาการและการสร้างสรรค์

8. การใช้เทคโนโลยี (Computing)

8.1 สอนทักษะการใช้เครื่องมือดิจิทัลหรือโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เช่น การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์ข้อมูล หรือการพัฒนาโครงการ

8.2 ฝึกทักษะการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้หรือการทำงานกลุ่ม

9. การเป็นพลเมืองที่ดี (Citizenship)

9.1 สอนให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อสังคม เช่น การทำงานอาสาสมัคร หรือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

9.2 กระตุ้นให้ผู้เรียนตระหนักถึงการเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในสังคม โดยการมีจริยธรรมและค่านิยม

ที่ดี

การสอดแทรกทักษะ 3R8C ทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาวิชาและทักษะต่างๆ ที่จำเป็นในชีวิตจริง เพื่อนำไปสู่การเรียนรู้ที่มีความหมายและสามารถนำไปใช้ได้จริงในอนาคต

1.2 หลักการ แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง

หลักการ

การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการโรงเรียน เป็นแนวทางสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพของการบริหาร การเรียนการสอน และการบริการทางการศึกษา เพื่อให้การดำเนินงานของโรงเรียนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ ทั้งยังช่วยลดภาระงานเอกสารและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชนการศึกษา

โรงเรียนจึงควรใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทุกมิติ ทั้งด้านวิชาการ งานบุคลากร งานงบประมาณ งานทั่วไป และการประกันคุณภาพการศึกษา โดยยึดหลักการสำคัญดังนี้

1. ประสิทธิภาพและความโปร่งใส – ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ และตรวจสอบได้ในการดำเนินงาน

2. คุ้มค่าและยั่งยืน – เลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบท งบประมาณ และสามารถดูแลต่อเนื่องได้จริง

3. การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน – ส่งเสริมให้ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนเข้ามามีบทบาทในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาโรงเรียน

4. การบริหารจัดการด้วยข้อมูล (Data-Driven Management) – ใช้ข้อมูลสารสนเทศในการวางแผน ตัดสินใจ และประเมินผล

5. ความปลอดภัยและจริยธรรมดิจิทัล – ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ

6. การพัฒนาศักยภาพบุคลากร – สนับสนุนให้บุคลากรได้รับการอบรมและพัฒนาในการใช้เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

7. ความยืดหยุ่นและทันสมัย – พร้อมปรับตัวต่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ และแนวทางการบริหารในยุคดิจิทัล

แนวคิด

1. จัดทำระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ เช่น ระบบข้อมูลนักเรียน ครู งบประมาณ และผลงานวิชาการ

2. พัฒนาเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ของโรงเรียนเพื่อประชาสัมพันธ์และให้บริการข้อมูลแก่ผู้ปกครองและชุมชน

3. ใช้ระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Document / E-Office) ในการจัดการหนังสือราชการและ

เอกสารภายใน

4. จัดให้มีระบบการเรียนรู้และอบรมออนไลน์สำหรับครูและนักเรียน

5. ใช้เทคโนโลยีในการติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการดำเนินงานของโรงเรียน

6. จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูล (Data Security) และนโยบายการใช้เทคโนโลยี

อย่างปลอดภัย

7. สนับสนุนการสร้างนวัตกรรมดิจิทัลภายในโรงเรียน เช่น แอปพลิเคชันหรือระบบช่วยงานที่

พัฒนาโดยครูและนักเรียน

8. ประเมินและปรับปรุงระบบเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุค

ดิจิทัล

ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง

1. ทฤษฎีระบบ (Systems Theory) – Ludwig von Bertalanffy มององค์กรหรือโรงเรียนเป็นระบบที่ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อย ๆ ที่เชื่อมโยงและทำงานร่วมกัน การนำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารจะช่วยให้การทำงานของแต่ละส่วนเชื่อมต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ฐานข้อมูลกลางของโรงเรียน

2. ทฤษฎีการบริหารโดยใช้ข้อมูล (Data-Driven Decision Making Theory)การตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลจริง ช่วยให้ผู้บริหารสามารถวางแผนและประเมินผลอย่างมีหลักฐานสนับสนุน ซึ่งสอดคล้องกับการใช้ระบบสารสนเทศในโรงเรียน

3. ทฤษฎีการจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management Theory) – Kurt Lewinการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ในองค์กรต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของบุคลากร ซึ่งต้องผ่านขั้นตอน “Unfreeze – Change – Refreeze” เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเกิดผลสำเร็จและยั่งยืน

4. แนวคิดการจัดการความรู้ (Knowledge Management – KM)เทคโนโลยีช่วยเก็บ จัดการ และเผยแพร่ความรู้ในองค์กร ส่งผลให้โรงเรียนสามารถใช้ความรู้เป็นฐานในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

5. แนวคิดโรงเรียนอัจฉริยะ (Smart School Concept)เป็นแนวทางที่นำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้บริหารจัดการและสนับสนุนการเรียนรู้ เพื่อให้โรงเรียนมีระบบบริหารจัดการที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อผู้เรียนยุคดิจิทัล

2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการพัฒนานวัตกรรม

2.1 วัตถุประสงค์

2.1.1 เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการของโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ด้วยเทคโนโลยี

2.1.2 เพื่อให้ผู้บริหาร ครู และบุคลากรสามารถใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงานและสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

2.1.3 เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนมีฐานข้อมูลสารสนเทศที่ถูกต้อง ทันสมัย และใช้ประโยชน์ได้จริงในการวางแผนและตัดสินใจ

2.1.4 เพื่อพัฒนาโรงเรียนให้ก้าวสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล (Digital Organization) ตามแนวทางโรงเรียนอัจฉริยะ

2.1.5 เพื่อเสริมสร้างให้ผู้เรียนทักษะเพื่อเข้าสูศตวรรษที่ 21 (3r8c)

2.2 เป้าหมาย

2.2.1 เชิงปริมาณ

2.2.๑.1 ครูผู้สอนมีการอบรมพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพสู่ศตวรรษที่ ๒๑ ร้อยละ ๑๐๐

2.2.1.2 ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามมาตรฐานสูงขึ้น ผ่านร้อยละ ๑๐๐

2.2.1.3 ผลสัมฤทธิ์ทางเรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านทางตรง(ไพบูลย์สงเคราะห์)

เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ ๓

2.2.2 เชิงคุณภาพ

2.๒.2.1 ผู้บริหาร พัฒนาสถานศึกษาในรูปแบบ Dimension Model

2.๒.๒.2 สถานศึกษา ใช้กลยุทธ์ในการบริหารจัดการเสริมสร้างพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะ 3r8c จำเป็นในการเรียนรู้ในศตรวรรษที่ ๒๑ สถานศึกษามีการจัดสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ พัฒนาวิชาครูชีพสู่ศตวรรษที่ ๒๑

2.๒.2.3 ผลสัมฤทธิ์ทางเรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านทางตรง(ไพบูลย์สงเคราะห์) เพิ่มสูงขึ้น

3. ขั้นตอนการดำเนินงาน/การออกแบบนวัตกรรม

3.1 ขั้นตอนการดำเนินงาน

วางแผน (P – Plan)

ศึกษาวิเคราะห์สภาพปัญหาปัจจุบันเพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ เป็นกรอบแนวทางในการกำหนดกลยุทธ์เพื่อพัฒนาสถานศึกษาการปฏิบัติตามแผน ประชุมชี้แจง ระดมความคิด กำหนดเป้าหมายแนวทางพัฒนาองค์กรร่วมกันกำหนดนโยบาย จุดเน้น พร้อมทั้งจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก

การปฏิบัติตามแผน (D – DO)

สร้างกลยุทธ์ในการบริหารจัดการเพื่อนำพาวิสัยทัศน์ให้บรรลุจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยกลยุทธ์ที่ตั้งไว้ต้องสอดคล้องกับการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการให้ผู้เรียนมีทักษะ 3R8C

3.1.1 การกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision)

“สถานศึกษาปลอดภัย บริหารจัดการด้วยเทคโนโลยี สร้างโอกาสที่ดีในการเรียนรู้ พัฒนาผู้เรียนควบคู่คุณธรรม น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชุมชนมีส่วนร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม มีทักษะนำไปสู่ศตวรรษที่ ๒๑ อย่างยั่งยืน”

3.1.2 กำหนดพันธกิจ (Mission)

3.1.2.1 พัฒนาสิ่งแวดล้อมอาคารสถานที่ ให้มีความปลอดภัยและพร้อมในการจัดการเรียนการสอน

3.1.2.2 พัฒนาระบบบริหารจัดการโดยนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนบริหารจัดการ

3.1.2.3 ส่งเสริม สนับสนุนพัฒนาระบบกระบวนการเรียนรู้ตามแนวทาง Active Learning โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน

3.1.2.4 พัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

3.1.2.5 พัฒนาสื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในการจัดการเรียรรู้สู่ศตวรรษที่ 21

3.1.2.6 พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

3.1.3 เป้าประสงค์ (Goals)

3.1.3.1 สภาพแวดล้อมสวยงาม สะอาด สะดวกและเป็นสถานศึกษาปลอดภัย

3.1.3.2 สถานศึกษามีการนำเทคโนโลยีเข้ามาด้านบริหารจัดการ ด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้

3.1.3.3 สถานศึกษามีสื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมเหมาะกับการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

3.1.3.4 สถานศึกษามีหลักสูตรที่ส่งเสริมความเป็นเป็นเลิศ ตอบสนองความถนัด และศักยภาพตาม

ความต้องการของผู้เรียน มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา

3.1.3.5 นักเรียนมีความรับผิดชอบ มีวินัย มีคุณธรรม มีความรู้และมีความรักในความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ และน้อมนำปรัชญาของเศรษกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิตประจำวันและปรับตัวเข้ากับสภาวการณ์ของโลก

3.1.3.6 นักเรียนมีทักษะจำเป็นในศตวรรษที่ 21

3.1.4 กลยุทธ์ (Strategy)

กลยุทธ์ในการดำเนินงาน ๔ กลยุทธ์ ดังนี้

กลยุทธ์ที่ ๑ พัฒนาสถานศึกษาสวยงาม สะอาด สะดวก ปลอดภัย ปรับปรุงระบบเทคโนโลยีเครือข่าย

กลยุทธ์ที่ ๒ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาควบคู่คุณธรรมนำความรู้สู่ศตวรรษที่ ๒๑

กลยุทธ์ที่ ๓ พัฒนาการเรียนการสอนโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

กลยุทธ์ที่ ๔ พัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ปฏิบัติงานเต็มตามศักยภาพอย่างครูมืออาชีพ

โครงการหรือกิจกรรมที่สนับสนันกลยุทธ์

กลยุทธ์ โครงการที่รองรับ

กลยุทธ์ที่ ๑ พัฒนาสถานศึกษาสวยงาม สะอาด สะดวก ปลอดภัย มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีในการบริหารงานและด้านการจัดการเรียนการสอน

๑. โครงการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมภายใน

สถานศึกษา

2. โครงการปรับปรุง พัฒนา อาคารสถานที่

๓. โครงการบริหารความเสี่ยงในสถานศึกษา

๔. โครงการสถานศึกษาปลอดภัย

5. โครงการปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

กลยุทธ์ โครงการที่รองรับ

กลยุทธ์ที่ ๒ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาควบคู่คุณธรรมนำความรู้สู่ศตวรรษที่ ๒๑

๑. โครงการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาพัฒนาสู่

สตวรรษที่ ๒๑

2. โครงการส่งเสริมแข่งขันทักษะวิชาการ

๓. โครงการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา

๔. โครงการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน

๕. โครงการพัฒนาศักยภาพและสุนทรียภาพ

๖. โครงการสถานศึกษาสีขาว

๗. โครงการปัจฉิม

๘. โครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม

๙. โครงการเศรษฐกิจพอเพียง

๑๐. โครงการส่งเสริมทักษะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

๑๑. โครงการวิถีพุทธ

๑๒. โครงการอบรมพัฒนาครูให้มีทักษะด้าน ICT

13. โครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

14. แผนยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพิ่มทักษะ 3r8c

กลยุทธ์ โครงการที่รองรับ

กลยุทธ์ที่ ๓ พัฒนาการเรียนการสอนโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

๑. โครงการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

2. โครงการแปลงผักปลอดสารพิษ

๓. โครงการส่งเสริมการออม

กลยุทธ์ โครงการที่รองรับ

กลยุทธ์ที่ ๔ พัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ปฏิบัติงานเต็มตามศักยภาพอย่างครูมืออาชีพ

๑. โครงการพัฒนาครูและบุคลากรสู่ครูมืออาชีพ

2. โครงการอบรมศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้

๓. โครงการพัฒนาและแก้ไขปัญหานักเรียนด้วยกิจกรรม PLC

การออกแบบนวัตกรรม

Safe (ความปลอดภัยในสถานศึกษา)

การศึกษามีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ในฐานะที่เป็นกระบวนการหนึ่งที่มีบทบาทโดยตรงต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการและทิศทางของประเทศ การศึกษาจึงหมายถึงการพัฒนาบุคคลให้มีความเจริญงอกงามทุกด้าน ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม การสร้างความปลอดภัยให้แก่นักเรียนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะความปลอดภัยเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน การพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าประสงค์ขึ้นอยู่กับความสุขและการมีชีวิตที่ปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา สามารถป้องกันหรือได้รับการป้องกันตนเองจากปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ มีความรู้ ความเข้าใจ จิตสำนึก และเจตคติที่ดี และมีทักษะในการป้องกันภัยสามารถหรือได้รับการแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ดังนั้น จึงเป็นภารกิจสำคัญที่สถานศึกษาจะต้องมีแนวนโยบายสถานศึกษาปลอดภัยให้เกิดขึ้น

Technology (เทคโนโลยีการเพื่อการศึกษา)

เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาหมายถึง การนำหลักการทางวิทยาศาสตร์มา ประยุกต์ใช้เพื่อการออกแบบและส่งเสริมระบบการเรียนการสอน โดนเน้นที่วัตถุประสงค์ทางการศึกษาที่ สามารถวัดได้อย่างถูกต้องแน่นอน มีการยึดหลักผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนมากกว่ายึดเนื้อหาวิชามีการใช้ การศึกษาเชิงปฏิบัติโดยผ่านการวิเคราะห์และการใช้โสตทัศนูปกรณ์รวมถึงเทคนิคการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่น ๆ จึงสรุปสำคัญของเทคโนโลยีการศึกษาดังนี้

1. เทคโนโลยีการศึกษาทำให้การเรียนการสอน มีความหมายมากขึ้น ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ กว้างขวาง เรียนได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้สอนมีเวลาให้ผู้เรียนมากขึ้น

2. เทคโนโลยีการศึกษาสามารถตอบสนองความแตกต่างของผู้เรียน ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตาม ความสามารถของผู้เรียน การเรียนการสอนจะเป็นการตอบสนองความสนใจและความต้องการของแต่ละ บุคคลได้ดี

3. เทคโนโลยีการศึกษาทำให้การจัดการศึกษา ตั้งบนรากฐานของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทำให้การจัด การศึกษาเป็นระบบและเป็นขั้นตอน

4. เทคโนโลยีการศึกษาช่วยให้การศึกษามีพลังมากขึ้น การนำเทคโนโลยีด้านสื่อเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ จะทำให้การศึกษาพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด

5. เทคโนโลยีการศึกษาทำให้เปิดโอกาสทางการศึกษาทั้งๆ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และ การศึกษาตามอัธยาศัย

Moral (ผู้เรียนมีคุณธรรม)

สิ่งที่จะเป็นพื้นฐานของนักเรียนในยุคปฏิรูปการศึกษา อันจะนำไปสู่การพัฒนาการศึกษายั่งยืนและมีความมั่นคง คือ คุณธรรม เพราะว่าคุณธรรมมีลักษณะที่สำคัญทางด้านจิตใจมากที่สุด และคุณธรรมยังมีความหมายสำคัญต่อบุคคล สังคม และชาติบ้านเมือง สังคมใดมีสมาชิกของสังคมที่ไร้คุณธรรม จำนวนมาก การทำงานในที่นี้ หมายถึงสังคมนั้นจะมีแต่ความวุ้นวายและยากแก่การพัฒนาในสังคม โดยเฉพาะตามความหมายและประเภทของคุณธรรม จึงหมายถึง ความเคยชินในการประพฤติอย่างใดอย่างหนึ่งตรงข้ามกับกิเลส ซึ่งได้แก่ ความเคยชินในการประพฤติผิดอย่างใดอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งคุณธรรมและกิเลสไม่มีขอบเขตที่แน่นอนสำหรับแบ่งประเภทย่อยลงไป จึงไม่น่าแปลกใจที่มีแบ่งได้หลายวิธี แม้จะแบ่งได้หลายวิธีหรือดีสักเพียงใด ก็อดที่จะเหลื่อมล้ำกันไม่ได้อยู่นั้นเอง ซึ่งความประพฤติแต่ละครั้งสืบเนื่องมาจากคุณธรรมหลายอย่าง และเมื่อฝึกคุณธรรมใดคุณหนึ่ง คุณธรรมอื่นๆ มักจะพลอยได้ไปด้วย และทำนองเดียวกัน การปล่อยตัวให้กิเลสอย่างใดอย่างหนึ่งมาเกาะกุมจะพลอยให้มีกิเลสอีกหลายๆ อย่างติดตัวไปโดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างเยาวชนให้เกิดพฤติกรรมที่ดีต่อสังคมและเกิดความยั่งยืน

Future(สถานศึกษาในศตวรรษที่ ๒๑)

สถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นโลกของเทคโนโลยีและนวัตกรรม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การศึกษาจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ สถานศึกษาจึงต้องมีความตื่นตัวและปรับเปลี่ยนการจัดการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนมีทักษะสาหรับการดำเนินชีวิตในโลกศตวรรษที่ 21 ต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ด้านการบริหารสถานศึกษาเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย ทันกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ผู้บริหารสถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบที่จะบริหารสถานศึกษาให้บรรลุเป้าหมาย จึงมีความจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะในการบริหารสถานศึกษาให้ประสบความสำเร็จ ในบทความวิชาการนี้จึงขอเสนอประเด็นเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย การจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 การบริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 และทักษะของผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ซึ่งประกอบด้วย 4 ทักษะ คือ

(1) ทักษะการคิดวิเคราะห์และการคิดสร้างสรรค์

(2) ทักษะ การสื่อสาร

(3) ทักษะทางเทคโนโลยีและการใช้ดิจิทัล

(4) ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ เพื่อนำไปสู่การบริหารสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ จึงจะสามารถจัดการศึกษาให้ได้ผลผลิตและผลลัพธ์ที่ดีเลิศได้

Chance (โอกาสทางการศึกษา และความเสมอภาคทางการศึกษา)

การพัฒนาจะเกิดผลที่ดีได้ ย่อมเกิดจากการมีจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ดี มีการศึกษาที่พร้อมให้เรียนรู้และมีโอกาสให้พัฒนาตัวเองตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อให้เขาเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต และสามารถที่จะพัฒนาประเทศให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ และนี่คือพื้นฐานในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศกษาเป็นรากฐานสำคัญสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน หากเด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ จะส่งผลให้เติบใหญ่เป็นพลเมืองที่มีศักยภาพ มีพลังสร้างสรรค์ สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกให้กับสังคม และประเทศชาติ

Innovation (นวัตกรรม)

นวัตกรรมที่ช่วยให้การศึกษาและการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิผลสูงกว่าเดิม เกิดแรงจูงใจในการเรียนด้วยนวัตกรรมเหล่านั้น และประหยัดเวลาในการเรียนได้อีกด้วย ในปัจจุบันมีการใช้นวัตกรรมการศึกษามากมายหลายอย่างซึ่งมีทั้งนวัตกรรมที่ใช้กันแพร่หลายแล้วและประเภทที่กำลังเผยแพร่ เช่น การสอนใช้คอมพิวเตอร์ช่วย การใช้แผ่นวีดิทัศน์เชิงโต้ตอบ สื่อหลายมิติ และอินเทอร์เน็ต เหล่านี้เป็นต้น

Sufficiency(น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง)

ระบบการศึกษาบนพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียงจะต้องสอนให้นักเรียนนักศึกษาคำนึงถึง ความพอประมาณในการดำเนินชีวิต ไม่โลภ ไม่ฟุ้งเฟ้อ มีการตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ ฝึกให้มีการมองไปข้างหน้า และเตรียมตัวให้พร้อมกับความผันผวนของเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างรู้เท่าทัน รวมถึงการหมั่นแสวงหาความรู้ เพื่อให้เกิดความรอบรู้ในด้านต่าง ๆ ฝึกฝนตนเองให้มีความรอบคอบและระมัดระวัง โดยใช้สติปัญญาในการทำงานและดำเนินชีวิต และที่สำคัญเศรษฐกิจพอเพียงยังเน้นให้นักเรียนนักศึกษามีคุณธรรม มีความอดทน ความขยันหมั่นเพียร ความซื่อสัตย์ การไม่เบียดเบียนผู้อื่น การแบ่งปันและช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต เนื่องจากความรู้ต่าง ๆ จะไม่สามารถก่อประโยชน์ให้กับตนเองหรือผู้อื่นได้อย่างเต็มที่ และถูกต้องหากผู้นำไปใช้ขาดคุณธรรม

Sustainable (การจัดการที่ยั่งยืน)

ประเทศไทยกำหนดให้การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 โดยที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคเอกชน ภาควิชาการและภาคประชาสังคม ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม อันจะส่งผลให้เกิดความก้าวหน้าและบรรลุผลตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณธรรมและความรอบรู้จึงควรเริ่มตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั้งจบการศึกษาภาคบังคับ เพื่อเติมโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและเกิดความยั่งยื่นต่อไป

การตรวจสอบ (C – Check)

1. นิเทศ ติดตามการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของสถานศึกษาในรูปแบบนิเทสที่หลากหลาย

2. ประเมินผลที่ได้จากการนำกลยุทธ์ในการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อนำผลการประเมินมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ ปรับปรุงระบบงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การปรับปรุงการดำเนินการ (A – Act)

1. สรุปโครงการและกิจกรรม

2. นำผลการวิเคราะห์โครงการมา PLC เพื่อปรับปรุงพัฒนารูปแบบการดำเนินการต่อไป

4. ผลสำเร็จของนวัตกรรม

4.1 ผลที่เกิดขึ้นกับสถานศึกษา

4.1.1 สถานศึกษามีแผนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของโรงเรียนบ้านทางตรง(ไพบูลย์สงเคราะห์)

4.1.2 สถานศึกษามีระบบบริหารจัดการงานธุรการในระบบออนไลน์ซึ่งทำให้ประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อกระดาษ หมึกพิมพ์ และยังสามารถบริหารจัดการหนังสือราชการได้ตลอดเวลาเพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือหรือระบบเครือข่าย Internet

4.1.3 สถานศึกษามีการจัดเก็บผลงานของครูในรูปแบบ ออนไลน์

4.1.4 สถานศึกษามีการจัดเก็บผลงานนักเรียนในรูปแบบ ออนไลน์

4.1.5 สถานศึกษากำลังพัฒนาระบบออมเงินในรูปแบบ ออนไลน์ เพื่อให้ครูบริหารจัดการได้อย่างสะดวกและโปร่งใส ผู้บริหารและผู้ปกครองสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ในรูปแบบ ออนไลน์

4.1.6 สถานศึกษากำลังพัฒนาระบบ เช็คแปรงฟัน และดื่มนมในรูปแบบออนไลน์ ของนักเรียนเพื่อให้สะดวกและสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา

4.1.7 สถานศึกษาผ่านการประเมินจาก สมศ.(สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน)) ทุกตัวชี้วัด (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวก ก)

4.1.8 สถานศึกษาได้รับรางวัลผลงานดีมาก กิจกรรมผลงานสื่อสร้างสรรค์ ภาพยนต์สั้นต่อต้านการทุจริต ระดับประถมศึกษา โครงการโรงเรียนสุจริต ประจำปีงบประมาณ 2568 (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวก ก)

4.1.9 สถานศึกษาได้รับรางวัล ผลงานที่มีคุณภาพดีเยี่ยม การประกวดกิจกรรมผลงานจัดทำหนังสือเล่มเล็กจากผลการใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ภายใต้โครงการเสริมสร้างคุณธรรม และธรรมมาภิบาลในสถานศึกษา (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวก ข)

4.1.10 สถานศึกษาได้รับการคัดเลือกห้องเรียนมาตรฐานระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 “ระดับดีเยี่ยมปีการศึกษา 2568 กลุ่มโรงเรียนศรีราชา 5 (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวก ข)

4.2 ผลที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารสถานศึกษา

4.2.1 ผู้บริหารสามารถเข้าถึงข้อมูลสาระสนเทศได้อย่างสะดวกและตลอดเวลา ในรูปแบบออนไลน์

4.2.2 ผู้บริหารได้รับเกียรติบัตร เป็นผู้ส่งเสริม สนับสนุนพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามตัวชี้วัดในการประเมินห้องเรียนคุณภาพต้นแบบโครงการห้องเรียนคุณภาพสู่คุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน ปีการศึกษา

4.2.3 ผู้บริหารได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาข้าราชาการครูและบุคลากรทางการศึกษาในหัวข้อเรื่อง “การอบรมพัฒนาภาษาอังกฤษและคุณธรรม เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการทำงานสู่ยุค 5G (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวก ค)

4.2.4 ผู้บริหารเข้ารบการอบรมออนไลน์การพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลและเทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

(เอกสารอ้างอิง ภาคผนวก ค)

4.3 ผลที่เกิดกับครู

4.3.1 ครูได้รับการส่งเสริมให้พัฒนาความรู้และส่งเสริมทักษะในการจัดการเรียนการสอนใน

รูปแบบที่ทันสมัยต่อปัจจุบันที่หลากหลายเพื่อเตรียมความพร้อมในการศึกษาสู่ ศตวรรษที่ 21 เช่น

- การอบรมผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (ICT Talent) ภาครัฐ

- การอบรมหลักสูตรพัฒนาดิจิทัล AI

- การอบรมเชิงปฏิบัติการ การสร้างนวัตกรรมการส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์

- การอบรมการตลาดออนไลน์ E-Market สู่ Learn to Earn สำหรับโรงเรียน

และอื่นๆ อีกมากมายสามารถแสกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเข้าดูเพิ่มเติม

4.3.2 ครูได้รับรางวัลผลงานการประกวดห้องเรียนคุณภาพ (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวก ข)

4.4 ผลที่เกิดกับนักเรียน

4.4.1 ด้านความรู้ (Knowledge)

4.4.1.1 นักเรียนมีความรู้รอบด้าน ทั้งความรู้พื้นฐานและความรู้เฉพาะทาง ผ่านหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรท้องถิ่น

4.4.1.2 เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก เช่น เทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม และ

สิ่งแวดล้อม

4.4.1.3 สามารถบูรณาการความรู้จากหลายสาขาเพื่อแก้ปัญหาได้จริง

4.4.2 ด้านทักษะ (Skills) นักเรียนมีการพัฒนา ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 (3R + 8C)

4.4.3 ด้านเจตคติและคุณลักษณะ (Attitudes & Attributes)

4.4.3.1 มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ และมีวินัยในตนเอง

4.4.3.2 มีความมั่นใจในตนเอง กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม

4.4.3.3 รักการเรียนรู้และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้

4.4.3.4 มีคุณธรรม จริยธรรม และจิตสำนึกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

4.4.4 ด้านสมรรถนะหลัก (Core Competencies)

4.4.4.1 สมรรถนะในการสื่อสาร

4.4.4.2 สมรรถนะในการคิดขั้นสูง

4.4.4.3 สมรรถนะในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

4.4.4.4 สมรรถนะในการจัดการตนเองและการทำงานร่วมกับผู้อื่น

4.4.4.5 สมรรถนะในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพในศตวรรษที่ 21

4.4.5 ผลลัพธ์โดยรวม (Overall Impact) นักเรียนจะเป็น “พลเมืองคุณภาพของสังคม”

4.4.5.1 มีทั้งความรู้ ความคิด และคุณธรรม

4.4.5.2 ใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์

4.4.5.3 อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างมีความสุข

4.4.5.4 พร้อมเรียนรู้และทำงานในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

4.4.6 นักเรียนมีผลงานการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา สามารถเข้ารับชมได้ทางคิวอาร์โค้ดเพิ่มเติม

5. ประโยชน์ที่ได้รับ

5.1 ประโยชน์ที่เกิดกับ “โรงเรียน”

5.1.1 ยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการ ด้วยระบบฐานข้อมูล (Data Management) ที่ถูกต้อง รวดเร็ว และตรวจสอบได้

5.1.2 ลดภาระงานเอกสาร เช่น ระบบทะเบียนวัดผล ระบบกิจการนักเรียน ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์

5.1.3 เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารภายในองค์กร ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ไลน์ OA, LMS, ระบบประกาศข่าวสาร

5.1.4 สร้างภาพลักษณ์โรงเรียนทันสมัย และดึงดูดความเชื่อมั่นจากผู้ปกครองและชุมชน

5.1.5 บริหารทรัพยากรได้คุ้มค่า เช่น ระบบยืม–คืนอุปกรณ์ การใช้พลังงานอัจฉริยะ

5.2. ประโยชน์ที่เกิดกับ “ผู้บริหาร”

5.2.1 ตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น จากข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น ข้อมูลผลการเรียน ข้อมูลการมาเรียน การเข้า–ออกงานของครู

5.2.2 กำกับติดตามงานได้สะดวก ผ่านระบบออนไลน์ เช่น Google Workspace, School MIS

5.2.3 สนับสนุนการพัฒนาสถานศึกษาเชิงยุทธศาสตร์ ตามทักษะอนาคต (Future Skills)

5.2.4 ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Innovation-driven Culture)

5.2.5 สื่อสารกับครู–นักเรียน–ผู้ปกครองได้ง่ายและเร็วขึ้น

5.3 ประโยชน์ที่เกิดกับ “ครู”

5.3.1 พัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้ทันสมัย เช่น การใช้สื่อดิจิทัล, ห้องเรียนออนไลน์, AR/VR

5.3.2 ออกแบบการเรียนรู้แบบ Active Learning ได้มีประสิทธิภาพ

5.3.3 ติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียนรายบุคคล ผ่านระบบวิเคราะห์ข้อมูลผู้เรียน (Learning Analytics)

5.3.4 แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครูทั่วประเทศ/ทั่วโลก ผ่านชุมชนออนไลน์

5.3.5 ลดเวลาเตรียมการสอน ด้วยคลังสื่อดิจิทัล และเครื่องมืออัตโนมัติ (AI Assistants)

5.3.6 พัฒนาทักษะดิจิทัลของครูเอง รองรับมาตรฐานครูในศตวรรษที่ 21

5.4 ประโยชน์ที่เกิดกับ “นักเรียน”

5.4.1 ได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลายและตรงกับความสนใจ เช่น เกมการเรียนรู้, สื่อเชิงโต้ตอบ, การเรียนรู้แบบโครงงาน

5.4.2 เข้าถึงความรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มการเรียนรู้

5.4.3 พัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เช่น

- ทักษะดิจิทัล

- การคิดวิเคราะห์–แก้ปัญหา

- การสื่อสาร

- การทำงานร่วมกัน

- ความคิดสร้างสรรค์

5.4.4 เรียนรู้แบบรายบุคคล (Personalized Learning) จากระบบที่ปรับเนื้อหาให้ตรงระดับของนักเรียน

5.4.5 เตรียมพร้อมต่อโลกการทำงานในอนาคต ที่ต้องใช้เทคโนโลยีและข้อมูลอย่างเข้มข้น

โพสต์โดย สิทธิโชค : [17 พ.ย. 2568 (10:37 น.)]
อ่าน [57266] ไอพี : 223.204.217.17
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 28,110 ครั้ง
"กระถางแก้มลิง" โฉมใหม่!! รดน้ำหนเดียวอยู่เป็นเดือน
"กระถางแก้มลิง" โฉมใหม่!! รดน้ำหนเดียวอยู่เป็นเดือน

เปิดอ่าน 39,352 ครั้ง
การวิเคราะห์และการตีความหมายข้อมูล (Analysis and Interpretation of Data)
การวิเคราะห์และการตีความหมายข้อมูล (Analysis and Interpretation of Data)

เปิดอ่าน 21,142 ครั้ง
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษาและเอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา 2563 : 8 กลุ่มสาระ โรงเรียนวัดหนองดินแดง (ประชารัฐอุทิศ)
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษาและเอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา 2563 : 8 กลุ่มสาระ โรงเรียนวัดหนองดินแดง (ประชารัฐอุทิศ)

เปิดอ่าน 10,650 ครั้ง
คนไทย80% กินอาหารเกินจำเป็นร่างกาย
คนไทย80% กินอาหารเกินจำเป็นร่างกาย

เปิดอ่าน 13,597 ครั้ง
ปวดข้อให้กินแอปเปิล แกล้มด้วยเหล้าไวน์แดงวันละแก้วทุกวัน
ปวดข้อให้กินแอปเปิล แกล้มด้วยเหล้าไวน์แดงวันละแก้วทุกวัน

เปิดอ่าน 20,000 ครั้ง
เทคนิคเจ๋งๆ ผสมไข่เเดงให้เข้ากัน ทำอย่างไรไปชมกันเลย
เทคนิคเจ๋งๆ ผสมไข่เเดงให้เข้ากัน ทำอย่างไรไปชมกันเลย

เปิดอ่าน 12,149 ครั้ง
พลิกโฉม"แผนการศึกษาแห่งชาติ"แผนงานชัด-อ่านง่าย-ใช้ได้จริง
พลิกโฉม"แผนการศึกษาแห่งชาติ"แผนงานชัด-อ่านง่าย-ใช้ได้จริง

เปิดอ่าน 29,706 ครั้ง
การ์ตูนเป็ดโดนัลด์ดั๊ก อายุ 75 ปีแล้วนะ
การ์ตูนเป็ดโดนัลด์ดั๊ก อายุ 75 ปีแล้วนะ

เปิดอ่าน 133,550 ครั้ง
รวมคลิปสุดแสบ ในการ "ปลุก" ภาวนาอย่ามีเพื่อนแบบนี้เลย
รวมคลิปสุดแสบ ในการ "ปลุก" ภาวนาอย่ามีเพื่อนแบบนี้เลย

เปิดอ่าน 40,472 ครั้ง
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542  หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา(2)
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา(2)

เปิดอ่าน 5,310 ครั้ง
เอเปก หรือ เอเปค
เอเปก หรือ เอเปค

เปิดอ่าน 20,059 ครั้ง
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่

เปิดอ่าน 18,787 ครั้ง
คลิป งูกินงู กินกลืนกันสดๆ งูหางกระดิ่ง VS King Snake
คลิป งูกินงู กินกลืนกันสดๆ งูหางกระดิ่ง VS King Snake

เปิดอ่าน 21,080 ครั้ง
ลำดับเสนาบดี รมว.ธรรมการ รมว.ศึกษาธิการ ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๓๕ -ปัจจุบัน
ลำดับเสนาบดี รมว.ธรรมการ รมว.ศึกษาธิการ ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๓๕ -ปัจจุบัน

เปิดอ่าน 272,006 ครั้ง
Pronouns  ( คำสรรพนาม )
Pronouns ( คำสรรพนาม )

เปิดอ่าน 58,672 ครั้ง
"ครูเอฟฟี่" คุณครูสายบ้า! ฉีกกฎเกณฑ์การสอนหนังสือแบบเดิม คลิปจากรายการเล่นใหญ่ จัดใหญ่ (12 ก.พ. 61)
"ครูเอฟฟี่" คุณครูสายบ้า! ฉีกกฎเกณฑ์การสอนหนังสือแบบเดิม คลิปจากรายการเล่นใหญ่ จัดใหญ่ (12 ก.พ. 61)
เปิดอ่าน 23,083 ครั้ง
สรรพากร เผย รายการลดหย่อนภาษี ปี 2559 "ชุดใหญ่ ไฟกระพริบ"
สรรพากร เผย รายการลดหย่อนภาษี ปี 2559 "ชุดใหญ่ ไฟกระพริบ"
เปิดอ่าน 12,016 ครั้ง
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี
12 สุขลักษณะ การนอนที่ดี
เปิดอ่าน 19,539 ครั้ง
ไม่ยากเกินความพยายาม 10 วิธีง่ายๆ ช่วยให้ลูกเก่งภาษา
ไม่ยากเกินความพยายาม 10 วิธีง่ายๆ ช่วยให้ลูกเก่งภาษา
เปิดอ่าน 17,223 ครั้ง
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ