ชื่อผู้ส่งผลงาน ศิริพร ทองบุญ
ขนาดสถานศึกษา ขนาดกลาง
ผลงานด้าน วิชาการ
โรงเรียน/ศูนย์พัฒนาวิชาการ โรงเรียนนบพิตำวิทยา
1. ความสำคัญของผลงาน
1.1 ความสำคัญสภาพปัญหา
จากการประเมินและสังเกตสภาพการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ผู้เรียนส่วนใหญ่ยังขาดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ สำคัญ เช่น การตั้งสมมติฐาน การออกแบบการทดลอง และการสรุปผลอย่างเป็นระบบ ทำให้ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน อยู่ในระดับที่ควรได้รับการพัฒนาอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้น การบรรยายเนื้อหาวิชาเป็นหลัก ทำให้ผู้เรียนขาดความกระตือรือร้น เบื่อหน่าย และ มีปฏิสัมพันธ์ต่ำ ใน ชั้นเรียน ซึ่งส่งผลให้การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ขาดความหมาย และผู้เรียนไม่สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วย ตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ อาภรณ์ ใจเที่ยง (2550 : 140-141) กล่าวว่า ข้อจำกัดของการสอนโดยใช้ การบรรยาย คือ ผู้เรียนไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็น (บางครั้งมีได้บ้างแต่น้อย) ทำให้ขาดโอกาสในการ ฝึกความคิดวิเคราะห์ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนน้อย ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย หมดความสนใจได้ง่าย ทิศนา แขมมณี (2550 : 329) กล่าวว่า การสอนแบบบรรยายเป็นวิธีสอนที่ผู้เรียนมีบทบาทน้อยจึงอาจทำ ให้ผู้เรียนขาดความสนใจในการบรรยาย จึงต้องใช้กระบวนการวิจัยมาแก้ปัญหาโดยการจัดการเรียนรู้วัฏ จักรการเรียนรู้ 5Es และโปรแกรม Kahoot มาใช้กับนักเรียนเพื่อเป็นการพัฒนาพฤติกรรมการเรียน ส่งเสริมศักยภาพและดึงดูดความสนใจของนักเรียน ให้เกิดการเรียนรู้เต็มศักยภาพและความสามารถของ ตนเอง
1.2 แนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนา
เพื่อแก้ไขสภาพปัญหาดังกล่าว จึงได้พัฒนาแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศนี้ขึ้น ภายใต้ชื่อ "การจัดการ เรียนรู้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธุกรรม โดยใช้ Kahoot ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 " โดยมีแนวทางสำคัญในการดำเนินการ 2 ส่วน คือ
1. ใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es เป็นรากฐาน เพื่อเป็นกรอบหลักในการออกแบบกิจกรรมที่ส่งเสริม ให้ผู้เรียนได้ ลงมือปฏิบัติ สำรวจ ค้นหา อธิบาย และขยายความรู้ด้วยตนเองในแต่ละขั้นตอน (Engage, Explore, Explain, Elaborate, Evaluate) กมลวรรณ กันยาประสิทธิ์ (2558) กล่าวว่า การสอนแบบสืบ เสาะหาความรู้จะมีความสำคัญ คือ 1.ผู้เรียนตั้งคำถามทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นผู้สอนควรจะเป็นผู้ช่วย เป็นผู้แนะนำให้นักเรียนใช้กระบวนการคิดหรือปรับข้อคำถามให้เป็นคำถามที่สามารถสำรวจตรวจสอบ (Testable question) หรือสามารถตั้งสมมติฐานที่ตรวจสอบได้ผ่านนกระบวนการทำงานทาง วิทยาศาสตร์ 2.ผู้เรียนให้ความสำคัญกับหลักฐานหรือประจักษ์พยานของคำถามที่ตั้งขึ้น ดังนั้นครูจึงควร ให้ความสำคัญกับการฝึกทักษะการปฏิบัติการเบื้องต้นก่อนการใช้การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 3. ผู้เรียนสร้างคำอธิบายจากข้อมูลและหลักฐานที่มี ผู้เรียนควรได้ทำการสืบค้น เพื่อศึกษาเพิ่มเติมว่าจาก องค์ความรู้ที่ผู้เรียนได้นั้น มีความสอดคล้องหรือแตกต่างจากองค์ความรู้ 5.ผู้เรียนสื่อสารและประเมินองค์ ความรู้อย่างมีเหตุผล การที่ผู้เรียนได้สร้างองค์ความรู้จากการลงมือปฏิบัติและสืบเสาะด้วยตนเอง จะช่วย ให้ผู้เรียนได้รู้สึกเห็นคุณค่าของการทำงานดังเช่นนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
2. บูรณาการเครื่องมือ Kahoot เพื่อเสริมแรงจูงใจและการประเมิน นำแพลตฟอร์มเกม การศึกษาออนไลน์อย่าง Kahoot มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานและท้าทาย โดยเฉพาะ ในขั้นการสร้างความสนใจและการประเมินผล ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้ และ ได้รับผลป้อนกลับทันที (Immediate Feedback) กิตติ จุ้ยกำจร (2561) กล่าวว่า เป็นตัวช่วยทำให้ผู้เรียน เกิดการตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เป็นการฝึกทักษะของการจดจำ ผู้เรียนรู้สึกสนุกและตื่นเต้น รอคอยคำถาม แต่ละข้อ เมื่อคำถามปรากฎผู้เรียนจะรีบคิดและตัดสินใจ เป็นการจฝึกทักษะทางปัญญาฝึกคิด ฝึกตัดสินใจ การรวมคะแนนเป็นรายข้อทำให้ผู้เรียนเห็นลำดับคะแนนของตนเอง และมีความพยายามที่จะเร่งทำ คะแนนให้สูงขึ้นในข้อถัดไป ฝึกให้เกิดการวางแผนและเร่งลงมือทำให้สำเร็จ แนวทางนี้จึงมุ่งหวังที่จะ ยกระดับทั้งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ให้สูงขึ้นอย่างยั่งยืน
2. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย
2.1 วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พันธุกรรม ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ใน รายวิชาวิทยาศาสตร์
2. เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธุกรรม ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 ในรายวิชาวิทยาศาสตร์
3. เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้วัฏจักรการ เรียนรู้ 5Es โดยใช้ Kahoot รายวิชาวิทยาศาสตร์
2.2 เป้าหมาย
เป้าหมายเชิงปริมาณ
1. ร้อยละ 80 ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนผ่านเกณฑ์ที่ กำหนด (ร้อยละ 70)
2. ร้อยละ 80 ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังเรียน อยู่ในระดับ ดี ขึ้นไป
3. ร้อยละ 80 ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้วัฏจักรการ เรียนรู้ 5Es โดย ใช้ Kahoot รายวิชาวิทยาศาสตร์ ในระดับมากขึ้นไป
เป้าหมายเชิงคุณภาพ
1. ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มี ที่ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด (ร้อยละ 70)
2. ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังเรียน อยู่ในระดับ ดี ขึ้นไป
3. ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ ในระดับมากขึ้นไป
3. กระบวนการผลิตผลงานหรือขั้นตอนการดำเนินงาน
3.1 การออกแบบผลงาน/วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ/นวัตกรรม
แนวทางในการการออกแบบผลงาน การจัดการเรียนรู้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es เพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธุกรรม โดยใช้ Kahoot ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้นำหลักการบริหารวงจรเดมมิ่ง PDCA มาใช้ใน การขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ ดังนี้
1. ศึกษาหลักสูตรของโรงเรียน ศึกษาเอกสารประกอบหลักสูตรและวิเคราะห์หลักสูตร
2. ออกแบบหน่วยการเรียนรู้และจัดทำแผนการเรียนรู้อย่างชัดเจน ซึ่งในแผนการจัดการเรียนรู้ นอกจากจะกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดแล้ว จะกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ครอบคลุม ทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านพุทธพิสัย ด้านจิตพิสัย และด้านทักษะพิสัย
3. ระบุเทคนิควิธีการในการจัดการเรียนรู้ ระบุใช้สื่อ/นวัตกรรมที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่เหมาะสมสอดคล้องกับเนื้อหาสาระและผู้เรียน
4. กำหนดวิธีการวัดและประเมินผลพร้อมเครื่องมือการวัดและประเมินผลไว้อย่างชัดเจน
5. นำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ใช้สื่อ/นวัตกรรม อย่างหลากหลายประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รวมทั้งออกแบบและสร้างเครื่องมือวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ให้ครอบคลุมตามตัวชี้วัดและมาตรฐานการเรียนรู้
3.2 การดำเนินงานตามกิจกรรม (ตามวงจร PDCA)
การดำเนินงานการจัดการเรียนรู้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธุกรรม โดยใช้ Kahoot ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้ดำเนินงานโดยใช้แนวคิด PDCA มีลำดับ ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 การเตรียม/วางแผน (Plan) เป็นขั้นตอนการจัดทำแผนในการดำเนินการสร้าง นวัตกรรม การจัดการเรียนรู้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รายวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธุกรรม โดยใช้ Kahoot ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 ดังนี้
1. ศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนนบพิตำวิทยา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในด้านสาระการ เรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้
2. ศึกษาและวิเคราะห์ตัวบ่งชี้และสาระการเรียนรู้สาระที่ควรเรียนรู้หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
3. ศึกษาปัญหาที่พบจากผลการจัดการเรียนการสอนที่ผ่านมาในช่วงปีการศึกษา 2567
4. ศึกษาแนวคิด ทฤษฎีการจัดการเรียนรู้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es และ Kahoot
5. นําการจัดการเรียนรู้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es โดยใช้ Kahoot ไปขอคำแนะนําจากผู้บริหารและ คณะครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยใช้ระบวนการ PLC เข้ามาช่วยในการแก้ไข ปัญหาร่วมกัน เพื่อมาปรับปรุงแก้ไขพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ขั้นที่ 2 การดําเนินงานตามแผน (Do) นำกิจกรรมการจัดการเรียนรู้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es เรื่อง พันธุกรรม โดยใช้ Kahoot ที่ผ่านการปรับปรุงแล้วไปจัดการเรียนรู้กับกลุ่มเป้าหมาย
ขั้นที่ 3 การตรวจสอบและประเมินผล ( Check)
1. ประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
2. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
3. เก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมาย
4. จัดทำรายงานผลการจัดการเรียนรู้
ขั้นที่ 4 นำผลการประเมินมาปรับปรุงและแก้ไข (Action) เป็นการนำผลการสรุปและการ ประเมินมาวิเคราะห์ว่า ควรปรับปรุง แก้ไขในส่วนของขั้นตอนใด หรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
1. พัฒนารูปแบบกิจกรรมให้มีความหลากหลายเพื่อดึงดูดใจผู้เรียนในการทำงาน
2. นำรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es โดยใช้ Kahoot ไปปรับใช้กับชั้น อื่นๆในโอกาสต่อไป
3.3 ประสิทธิภาพของการดำเนินงาน
จากผลการดำเนินงานตามด้วยกระบวนการการจัดการเรียนรู้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es โดยใช้ Kahoot ครูผู้สอนได้พัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่ดีขึ้น ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ เรื่องพันธุกรรม สูงขึ้น ซึ่งกระบวนการการจัดการเรียนรู้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es โดยใช้ Kahoot เน้นการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ฝึกให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ การทดลอง การนำเสนอ การค้นคว้าข้อมูลด้วยตนเอง ทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
3.4 การใช้ทรัพยากร
โรงเรียนมีการจัดทำโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ อาคารสถานที่ เพื่อใช้ปรับปรุงภูมิทัศน์ และ ซ่อมแซมอาคารที่มีอยู่ให้แข็งแรง มีความปลอดภัยสำหรับใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับ นักเรียนอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
4.ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ
4.1 ผลที่เกิดตามวัตถุประสงค์
จากผลการดำเนินงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง พันธุกรรม ด้วยกระบวนการการจัดการเรียนรู้วัฏจักรการเรียนรู้ 5Es โดยใช้ Kahoot รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
1. ผู้เรียน ร้อยละ 89.66 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด (ร้อยละ 70)
2. ผู้เรียน ร้อยละ 86.21 มีทักษะกระบวนการทางด้านวิทยาศาสตร์ หลังเรียน อยู่ในระดับ ดี ขึ้นไป
3. ผู้เรียน ร้อยละ 82.76 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้วัฏจักรการเรียนรู้ในรายวิชา วิทยาศาสตร์ ในระดับมากขึ้นไป