1. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาสากลที่มีบทบาทสำคัญในโลกปัจจุบัน ทั้งในด้านการศึกษา การทำงาน และการสื่อสารระหว่างประเทศ องค์กรระดับนานาชาติ เช่น สหประชาชาติ (UN) สมาคมอาเซียน (ASEAN) และสหภาพยุโรป (EU) ต่างยกย่องภาษาอังกฤษให้เป็นภาษากลาง (Lingua Franca) เพื่อการติดต่อสื่อสารและความร่วมมือในมิติต่าง ๆ (Crystal, 2012) การมีทักษะภาษาอังกฤษที่เพียงพอจึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเข้าสู่สังคมโลกาภิวัตน์ ในด้านการเรียนการสอนภาษา มาตรฐาน Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) ของสภายุโรปได้รับการยอมรับว่าเป็นกรอบอ้างอิงสากลที่ใช้ประเมินและกำหนดระดับความสามารถทางภาษาในทุกทักษะ ได้แก่ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยระดับความสามารถถูกแบ่งตั้งแต่ A1C2 (Council of Europe, 2020) ซึ่งในปัจจุบันหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ได้นำ CEFR มาเป็นเกณฑ์สำคัญในการพัฒนาหลักสูตรและประเมินผลผู้เรียน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ทัดเทียมมาตรฐานนานาชาติ
ทักษะการเขียนนับเป็นหนึ่งในทักษะที่ท้าทายที่สุด เนื่องจากผู้เรียนต้องอาศัยทั้งความรู้ด้านโครงสร้างภาษา การเลือกใช้คำศัพท์ และการจัดระเบียบความคิดให้สอดคล้องกับจุดประสงค์และผู้อ่านเป้าหมาย (Hyland, 2019) การเขียนไม่เพียงสะท้อนความรู้ภาษาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการสร้างสรรค์ ซึ่งล้วนเป็นทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21 งานวิจัยจำนวนมากยืนยันว่า การเขียนเป็นทักษะที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ (EFL) มักประสบปัญหามากที่สุด โดยเฉพาะในระดับมัธยมศึกษา (Richards & Renandya, 2018)
สำหรับประเทศไทย แม้ว่าการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษจะมีการปรับปรุงมาโดยตลอด แต่ยังคงพบว่าผู้เรียนส่วนใหญ่มีข้อจำกัดในการเขียน ทั้งในด้านการสร้างประโยคที่ถูกต้อง การเชื่อมโยงความคิด และการใช้ภาษาเพื่อสื่อสารเชิงวิชาการหรือเชิงสร้างสรรค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลการสอบระดับชาติ เช่น
O-NET, CEFR Test และผลการทดสอบนานาชาติ เช่น TOEFL หรือ IELTS สะท้อนว่าผู้เรียนไทยยังมีจุดอ่อนทางด้านภาษา โดยเฉพาะด้านการเขียน (สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ, 2023-2025) ในบริบทของโรงเรียนสตรีทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ผลการประเมินงานเขียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในรายวิชาภาษาอังกฤษอ่านเขียน (อ31203) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 พบว่า นักเรียนมีผลงานเขียนในระดับดีขึ้นไปเพียงร้อยละ 20 ขณะที่ร้อยละ 80.00 อยู่ในระดับพอใช้และต้องปรับปรุง ผลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าการเรียนการสอนที่ผ่านมายังไม่สามารถยกระดับทักษะการเขียนของผู้เรียนได้ตามมาตรฐานที่คาดหวัง
ดังนั้น การพัฒนากลวิธีการสอน ที่มีขั้นตอนการสอนที่ชัดเจน เป็นระบบ และสามารถแก้ไขปัญหานี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น หนึ่งในแนวทางที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลคือ การเขียนแบบเน้นกระบวนการ (Process Writing Approach) ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอน Prewriting, Drafting, Giving Feedback, Revising และ Editing/Publishing ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนอย่างเป็นระบบ เรียนรู้จากข้อผิดพลาด และพัฒนาทักษะการเขียนอย่างต่อเนื่อง (Brown, 2015; Hyland, 2019) การนำแนวทางนี้มาปรับใช้ควบคู่กับแบบฝึกทักษะที่ออกแบบให้สอดคล้องกับการเขียนแบบเน้นกระบวนการ และใช้ภาษาตามมาตรฐานยุโรป CEFR ระดับ B1 เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพงานเขียนของนักเรียนไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐาน CEFR และตอบสนองความต้องการของการศึกษาในยุคปัจจุบันได้อย่างแท้จริง
พันธกิจ (Mission) ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 ข้อที่ 2 คือการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เป็นผู้ที่มีความรู้ตามหลักสูตร มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และมีความเป็นเลิศทางวิชาการ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าประสงค์ของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 ข้อที่ 2 คือ ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานสู่ระดับสากล มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และมีความเป็นเลิศทางวิชาการ
โรงเรียนสตรีทุ่งสง มีพันธกิจ ข้อที่ 1 คือ พัฒนาและส่งเสริมด้านวิชาการสู่ความเป็นเลิศ 2. ส่งเสริมการใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศอื่น ๆ ในการสื่อสาร แต่จากรายงานผลการประเมินทักษะการเขียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ผลการประเมินงานเขียน ปลายภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2567 พบว่า นักเรียนมีผลการประเมินงานเขียนในระดับดีขึ้นไป จากการประเมิน (Rubric Score) ร้อยละ 20 และมีนักเรียนที่มีผลงานเขียนระดับคุณภาพ พอใช้และปรับปรุง ร้อยละ 80.00 ดังตาราง 1
ตาราง 1 ระดับคุณภาพผลงานเขียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1/2567
ชื่อรายวิชา ชั้น
จำนวน ระดับคุณภาพผลการทดสอบการเขียนรายบุคคล หมายเหตุ
ปรับปรุง พอใช้ ดี ดีมาก
ภาษาอังกฤษเขียน-เขียน ม.4/1 30 7 17 6 -
ภาษาอังกฤษเขียน-เขียน ม.4/3 40 9 23 8 -
รวม 70 16 40 14 -
ร้อยละ 100 22.85 57.14 20 -
อีกทั้ง ผลสรุปจากการประชุมกลุ่มย่อย PLC และการทดสอบ CEFR ทักษะการเขียน พบว่า นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และนักเรียนทุกระดับ ยังต้องปรับปรุงเรื่องการเขียนอย่างเร่งด่วน ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหากลวิธีปรับปรุงการเขียนของนักเรียน ซึ่งเป็นทักษะสำคัญหนึ่งในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร และหนึ่งในวิธีที่จะสามารถแก้ปัญหาการเขียน คือ การเขียนแบบเน้นกระบวนการควบคู่กับแบบฝึกทักษะแบบ Hybrid
1.2 แนวทางแก้ไขปัญหาและพัฒนา
จากประสบการณ์ในการสอนในรายวิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน เป็นเวลา 16 ปี ผู้เขียนได้ศึกษาเทคนิคต่างๆที่จะมาแก้ไขพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการเขียนของนักเรียน ผู้เขียนได้ทดลองด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น การให้ AI ช่วยพัฒนางานเขียนของนักเรียน, การใช้ โปรแกรม write and improve, TBL (การสอนโดยใช้ภาระงาน) ฯลฯ และวิธีหนึ่งที่ทำให้นักเรียนสามารถพัฒนางานเขียนได้อย่างเป็นระบบ คือ การเขียนแบบเน้นกระบวนการควบคู่กับแบบฝึกทักษะแบบ Hybrid ซึ่งนอกจากจะส่งเสริมทักษะการเขียนในห้องเรียนแล้ว ยังส่งผลให้นักเรียนมีความมั่นใจในทักษะการเขียน และร่วมการแข่งขันทักษะการเขียนในเวทีระดับภาคและระดับประเทศอีกด้วย
การเขียนแบบเน้นกระบวนการควบคู่กับแบบฝึกทักษะแบบ Hybrid
การเขียนแบบเน้นกระบวนการ หมายถึง แนวทางการเขียนที่ให้ความสำคัญกับขั้นตอนต่างๆ ของการเขียนมากกว่าผลลัพธ์สุดท้าย โดยเน้นกระบวนการที่เป็นระบบและทำซ้ำได้ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนหลักๆ เช่น การวางแผน, การร่าง, การแก้ไข, และการตรวจทาน เพื่อช่วยให้นักเขียนพัฒนาทักษะและผลงานได้อย่างมีคุณภาพ
แบบฝึกทักษะแบบ Hybrid Workbook หมายถึงแบบฝึกทักษะที่มีการใช้สื่อที่หลากหลายผสมผสาน ซึ่งได้ออกแบบให้เหมาะสมกับวัยและความสามารถของนักเรียน มีภาษาระดับ B1 ตามกรอบมาตรฐาน CEFR มี QR-code ในการฝึกทำแบบฝึก Quizizz ผสมผสานกับแบบฝึกอ่านและเขียนอย่างเป็นระบบ
2. จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน
เป้าหมายเชิงปริมาณ
2.1 เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพงานเขียนของนักเรียนหลังเรียนกับเกณฑ์(ค่าเป้าหมาย) ร้อยละ 70
2.2 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการเขียนแบบเน้นกระบวนการ
ควบคู่กับแบบฝึกทักษะ
เป้าหมายเชิงคุณภาพ
2.1 เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนของนักเรียนสู่การแข่งขันในเวทีระดับต่าง ๆ
3. ขั้นตอน/ กระบวนการดำเนินงาน
ผู้เขียนได้ดำเนินการพัฒนาผลงาน กระทั่งประสบผลสำเร็จ โดยการใช้กระบวนการ PDCA ดังนี้
Plan : วางแผนการดำเนินงาน
1. วิเคราะห์สภาพปัญหาที่ทำให้นักเรียนเขียนไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งมีผลกระทบต่อสัมฤทธิ์ทางการเรียน และผลกระทบต่อการสอบ CEFR โดยเฉพาะทักษะการเขียน
2. วิเคราะห์เป้าหมาย จุดเน้นทางด้านการศึกษาภาษาอังกฤษของ ASEAN, แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12, ของกระทรวงศึกษาธิการ, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 12, และของโรงเรียนสตรีทุ่งสง
3. ศึกษาหลักสูตรและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกรอบมาตรฐานยุโรป CEFR ที่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงตามเป้าหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
4. วางแผนการจัดการเรียนรู้โดยการเขียนแบบเน้นกระบวนการควบคู่กับออกแบบแบบฝึกทักษะแบบ Hybrid Interactive
Do : ปฏิบัติตามวงจรการเขียนแบบเน้นกระบวนการ
ขั้นตอน/วงจรการเขียนแบบเน้นกระบวนการ (Process Writing Approach: Hyland, 2019)
วิธีการเขียนแบบเน้นกระบวนการประกอบด้วย 5 ขั้นตอนสำคัญ ดังนี้
1. Prewriting (ขั้นเตรียมการเขียน): ระดมความคิด ใช้ Mind Map ตั้งคำถาม 5W1H และกำหนดหัวข้อ จุดประสงค์ และผู้อ่านเป้าหมาย
2. Drafting (เขียนร่างแรก): ลงมือเขียนตามโครงร่าง เน้นให้ไอเดียไหลต่อเนื่อง โดยยังไม่กังวลความถูกต้องมาก
3. Feedback (การรับข้อเสนอแนะ): นักเรียนแลกเปลี่ยนผลงาน ตรวจสอบด้านเนื้อหา โครงสร้าง และภาษา ครูให้คำแนะนำเพิ่มเติม
4. Revising (การปรับปรุง): ปรับเนื้อหา ย่อหน้า คำเชื่อม และความต่อเนื่อง เพื่อให้สื่อความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น
5. Editing/Publishing (การแก้ไขและเผยแพร่): ตรวจสอบความถูกต้องด้านไวยากรณ์ การสะกด และรูปแบบ ก่อนเผยแพร่หรือนำเสนอวงจรดังกล่าวเชื่อมโยงกับการเรียนรู้เชิงรอบ (Learning Cycle) และวงจร PDCA (PlanDoCheckAct) ที่เน้นการปรับปรุงต่อเนื่องของผู้เรียน
ขั้นตอนกระบวนการเขียนแบบเน้นกระบวนการ (Process Writing)
1. Prewriting (ขั้นเตรียมการเขียน)
 จุดประสงค์: สร้างไอเดียและวางแผน
o ระดมสมอง (Brainstorming)/ ใช้ Mind Map / Concept Map
o ตั้งคำถาม 5W1H (Who, What, Where, When, Why, How)
o กำหนดหัวข้อ, จุดประสงค์, ผู้อ่านเป้าหมาย
2. Drafting (เขียนร่างแรก)
 จุดประสงค์: ลงมือเขียนตามโครงร่าง โดยไม่กังวลความถูกต้องมาก
o เขียนเนื้อหาตามแผนที่วาง โดยมี main ideas and supporting ideas
o เน้นให้ไอเดียไหลต่อเนื่อง
o ใช้เวลาเขียนอย่างต่อเนื่อง (Freewriting / Timed Writing)
3. Feedback (การรับข้อเสนอแนะ)
 จุดประสงค์: เปิดโอกาสให้นักเรียนตรวจสอบผลงานร่วมกัน และครูให้คำแนะนำ
o Peer Review: นักเรียนแลกเปลี่ยนงานกัน ตรวจดู content, organization, language
o Teacher Feedback: ครูให้คำแนะนำเชิงโครงสร้าง ไวยากรณ์ การใช้คำเชื่อม
4. Revising (การปรับปรุง)
 จุดประสงค์: แก้ไขเชิง ความหมาย และ การสื่อสาร
o เพิ่ม/ลด รายละเอียด/ ปรับย่อหน้าให้ต่อเนื่อง
o แก้ไขการใช้คำเชื่อม การจัดลำดับเหตุการณ์
5. Editing/Publishing (แก้ไขขั้นสุดท้าย และนำเสนอ/เผยแพร่)
 จุดประสงค์: ตรวจสอบความถูกต้องก่อนเผยแพร่
o ตรวจสอบ grammar, spelling, punctuation, mechanics
o เผยแพร่/นำเสนอ เช่น นำเสนอบนสื่อออนไลน์, ส่งเป็นหนังสือเล่มเล็ก (booklet), นำเสนอหน้าชั้น หรือทำเป็นบล็อก/โพสต์
Check : ตรวจสอบและประเมินผล
- ประเมินผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวการเขียนแบบเน้นกระบวนการควบคู่กับแบบฝึกทักษะแบบ Hybrid, ประเมนผลจากการทดสอบทักษะการเขียน CEFR, และการแข่งขันในระดับต่างๆ
Action : พัฒนาปรับปรุง
-สรุปผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, ผลการทดสอบ CEFR และ การแข่งขันทักษะการเขียน Pictorial Writing เสนอต่อผู้บริหารโรงเรียน เพื่อพัฒนา ต่อยอด และปรับปรุงในปีการศึกษาต่อไป
แผนภูมิ การวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน โดยใช้แนวทางการพัฒนาตามวงจง PDCA
เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนด้วยวิธีการเขียนแบบเน้นกระบวนการควบคู่กับแบบฝึกทักษะแบบ Hybrid
1. จัดกระบวนการเรียนรู้ตามแนวการสอน
การจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการเขียนแบบเน้นกระบวนการควบคู่กับแบบฝึกทักษะ
2. ฝึกตามขั้นการเขียนแบบเน้นกระบวนการ pre draft feedback revise edit/publish
4. ผลการดำเนินงาน /ผลสัมฤทธิ์ / ประโยชน์ที่ได้รับ
4.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ
4.1.1 ผลการพัฒนาคุณภาพงานเขียนของนักเรียน (ภาคผนวก ค)
ผลการพัฒนาคุณภาพงานเขียนของนักเรียน โดยวัดจาก Rubric Score พบว่าคุณภาพงานเขียนของนักเรียน มีผลคะแนน เฉลี่ย 19.67 คิดเป็นร้อยละ 78.67 ซึ่งสูงกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ร้อยละ 70 ดังตาราง 2
ตาราง 2 ค่าเฉลี่ย, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, และค่าร้อยละของผลคะแนนคุณภาพงานเขียนของนักเรียน
คุณภาพงานเขียน
(Rubric Score) N (X̄) (S.D.) ระดับคุณภาพ
หลังเรียน
(Post-test) 39 19.67 2.73 ดี/ตามมาตรฐาน CEFR B1
คิดเป็นร้อยละ
78.67
4.1.2 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน
จากการใช้แบบสอบถามความพึงพอใจ พบว่านักเรียนร้อยละ 91.58 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ในระดับมากที่สุด แสดงว่านักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการจัดการเรียนรู้ และเห็นว่ากระบวนการเรียนรู้ดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะการเขียนของตน ดังตาราง 3
ตาราง 3 ผลรวมและร้อยละของความพึงพอใจของนักเรียนรายบุคคล และแปลผล
นักเรียน เลขที่ ผลความพึงพอใจของนักเรียนรายบุคคล รวม ร้อยละ แปลผล
1 2 3 4 5
1. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
2. 4 4 4 4 4 20 80 พึงพอใจมาก
3. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
4. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
5. 4 3 5 4 5 21 84 พึงพอใจมากที่สุด
6. 5 5 5 5 3 23 92 พึงพอใจมากที่สุด
7. 4 5 4 4 5 22 88 พึงพอใจมากที่สุด
8. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
9. 5 5 4 5 5 24 96 พึงพอใจมากที่สุด
10. 4 4 3 3 4 18 72 พึงพอใจมาก
11. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
12. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
13. 4 4 4 5 5 22 88 พึงพอใจมากที่สุด
14. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
15. 5 4 4 5 4 22 88 พึงพอใจมากที่สุด
16. 5 5 4 5 4 23 92 พึงพอใจมากที่สุด
17. 4 4 4 3 4 19 76 พึงพอใจมาก
18. 4 4 4 4 4 20 80 พึงพอใจมาก
19. 3 3 4 5 5 20 80 พึงพอใจมาก
20. 4 5 4 5 3 21 84 พึงพอใจมากที่สุด
21. 5 5 5 5 4 24 96 พึงพอใจมากที่สุด
22. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
23. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
24. 4 5 5 5 4 23 92 พึงพอใจมากที่สุด
25. 4 5 5 5 5 24 96 พึงพอใจมากที่สุด
26. 4 5 4 5 5 18 72 พึงพอใจมาก
27. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
28. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
29. 5 5 5 4 4 23 92 พึงพอใจมากที่สุด
30. 4 4 4 4 4 20 80 พึงพอใจมาก
31. 4 4 5 5 4 22 88 พึงพอใจมากที่สุด
32. 5 5 3 4 3 20 80 พึงพอใจมาก
33. 4 3 4 4 4 19 76 พึงพอใจมาก
34. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
35. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
36. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
37. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
38. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
39. 5 5 5 5 5 25 100 พึงพอใจมากที่สุด
รวมทั้งฉบับ 893 91.58 พึงพอใจมากที่สุด
การแปลผล กำหนดเกณฑ์ ดังนี้
81100% = พึงพอใจมากที่สุด  6180% = พึงพอใจมาก 4160% = พึงพอใจปานกลาง
2140% = พึงพอใจน้อย 020% = พึงพอใจน้อยที่สุด
4.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ
4.2.1 เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสู่การแข่งขันในระดับต่าง ๆ มีนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันการเขียนเรื่องสั้นภาษาอังกฤษประกอบภาพ (Pictorial Writing)ระดับภาค และระดับประเทศ ได้รับรางวัลต่าง ๆ ดังนี้ (ภาคผนวก ก)
ชื่อ สกุล รางวัล ระดับ ปีการศึกษา
นายอักษราภัค ทิพย์คีรี นักเรียนชั้น ม.5/2 เหรียญทอง ชนะเลิศ
การเขียนเรื่องสั้นภาษาอังกฤษประกอบภาพ (Pictorial Writing) ระดับเขต
(ระดับชาติ) 2566
นายอักษราภัค ทิพย์คีรี นักเรียนชั้น ม.5/2 ผู้ที่มีคะแนนสูงสุด ติด Top 100 คนแรกของประเทศ ในการสอบ TYES Exam ประเทศ 2566
นายอักษราภัค บุญสิทธิ์ นักเรียนชั้น ม.6/2 เหรียญทองชนะเลิศ
การเขียนเรื่องสั้นภาษาอังกฤษ Pictorial Writing ระดับชั้น ม.4-6 ระดับเขต
(ระดับชาติ) 2567
นายณัชพงศ์ จินดาวงศ์ นักเรียนชั้น ม.6/7 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ2 การแข่งขันทักษะ pictorial writing
ได้รับเงินรางวัล 1,000 บาท ระดับภาคใต้ 27 สิงหาคม 2568
นางสาวพิมพ์พิศ์ชา พาหุบุตร ผู้ที่มีคะแนน B2 ( 9.00 )
ติดอันดับ Top 200 จากจำนวนนักเรียน 3,939 ทั่วประเทศ
ในการสอบ TYES Exam ประเทศ 2568
นายสิรวิชญ์ ทิพย์สุขุม ผู้ที่มีคะแนน B2 ( 9.08 ) ติดอันดับ Top 200 จากจำนวนนักเรียน 3,939 ทั่วประเทศ
ในการสอบ TYES Exam ประเทศ 2568
นอกจากนี้ ยังส่งผลให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 -6 จำนวน 151 คนที่เข้ารับการทดสอบ CEFR ในวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์ HCEC โรงเรียนสตรีทุ่งสง มีผลคะแนนการเขียน ระดับดีจำนวน 44 คน คิดเป็นร้อยละ 29.13 และระดับดีมาก จำนวน 62 คน คิดเป็นร้อยละ 41.05 ( ภาคผนวก ค )
4.2 ผลสัมฤทธิ์ของงาน (ภาคผนวก ข)
4.2.1 ครูผู้สอนได้รับรางวัล ครูผู้สอนเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันทักษะ Pictorial Writing ระดับชั้น ม.4-6 ระดับเขต ปีการศึกษา 2566-2567 ระดับเขต (ระดับชาติ)
4.2.2 ครูผู้สอนได้รับเชิญให้เป็นประธานดำเนินการแข่งขันทักษะ Pictorial Writing ระดับชั้น ม.4-6 งานมหกรรมวิชาการมัธยมศึกษา สพม.นครศรีธรรมราช ปีการศึกษา 2566- ปัจจุบัน
4.2.3 โรงเรียนสตรีทุ่งสง ได้รับรางวัลเหรียญทองชนะเลิศ ด้านวิชาการ รางวัลวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) (15 พฤศจิกายน 2566)
4.2.4 โรงเรียนสตรีทุ่งสง มีผลงาน Best Practice ด้านการนิเทศภายในสถานศึกษาระดับ
ดีเยี่ยม ปีการศึกษา 2567
4.2.5 ครูผู้สอนเคยได้รับรางวัลรองชนะเลิศระดับเหรียญทอง ครูผู้สอนยอดเยี่ยมระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (OBEC AWARDS) ด้านวิชาการ ระดับชาติ (18 เมษายน 2565) จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
4.2.5 ผอ.ดร.สุภาภรณ์ คงคานนท์ได้เข้าร่วมนำเสนอและเผยแพร่ผลงานนวัตกรรมการบริหารสถานศึกษา ในโครงการเสวนาวิชาการนานาชาติ เพื่อขับเคลื่อนการศึกษาที่มีคุณภาพ ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ระดับนานาชาติ ( 5 สิงหาคม 2567)
4.2.6 โรงเรียนสตรีทุ่งสง ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับเหรียญทอง ประเภทสถานศึกษาดีเด่น สถานศึกษาขนาดใหญ่ ด้านบริหารจัดการชั้นเรียน การคัดเลือกผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices)
(8 มกราคม 2568) ระดับเขต (ระดับชาติ)
4.3 ประโยชน์ที่ได้รับ
4.3.1 นักเรียนมีการพัฒนาทักษะการเขียนดีขึ้น ทั้งในวิชาเรียนและการสอบ CEFR (ภาคผนวก ค ผลการพัฒนาทักษะการเขียนในชั้นเรียนและการสอบ CEFR)
4.3.2 นักเรียนมีความมั่นใจในการแข่งขันทักษะการเขียนในเวที ทั้งระดับเขต และระดับประเทศ ส่งผลให้โรงเรียนมีชื่อเสียง และได้รับรางวัลต่างๆมากมาย
4.3.3 นักเรียนมีแรงจูงใจและทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษมากขึ้น
4.3.4 Best practice ชุดนี้ เอื้อประโยชน์ต่อวงการศึกษาในการพัฒนางานเขียนต่อไป
5. ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
5.1 ผู้บริหารโรงเรียนสนับสนุนและให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรม ให้คำแนะนำ ปรึกษา ตลอดจนสนับสนุนส่งเสริมให้นักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันทักษะวิชาการในระดับต่าง ๆ
5.2 ผู้ปกครองนักเรียนให้การส่งเสริม สนับสนุน และให้ความร่วมมือ ในการจัดการเรียนรู้ ตลอดจน
การอนุญาตให้นักเรียนได้มาฝึกซ้อมทักษะทั้งในและนอกเวลาราชการ
5.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการพัฒนาทักษะการเขียน ตลอดจนเข้าประกวดในเวทีระดับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเขียนภาษาอังกฤษ
5.4 นวัตกรรมแบบฝึกทักษะ ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ พ.ศ. 2560 ปัจจุบัน ให้ทันสมัย ทันต่อยุคดิจิทัล เหมาะสมกับระดับการเรียนรู้ของนักเรียน
6. บทเรียนที่ได้รับ
6.1 ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ
6.1.1 ผลงานเรื่อง Enhancing Students Writing Skill through the Process Writing Approach with a Hybrid Workbook ได้จัดทำควบคู่กับงานวิจัยในชั้นเรียนเรื่อง การพัฒนาทักษะการเขียน ด้วยวิธีเขียนแบบเน้นกระบวนการควบคู่กับแบบฝึกทักษะของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 รายวิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน (รหัสวิชา อ31203) ส่งผลให้ผลการพัฒนางานเขียนมีความชัดเจน มีระบบ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
6.1.2 การเขียนแบบเน้นกระบวนการควบคู่กับแบบฝึกทักษะแบบ Hybrid จะเริ่มงานเขียนแบบเน้นกระบวนการเป็นกลุ่มก่อนที่จะให้นักเรียนเขียนเป็นรายบุคคล ซึ่งทำในกระบวนการเดียวกัน ซ้ำ 2 รอบ ทำให้นักเรียนมีความมั่นใจในการใช้ภาษามากขึ้น มีความผิดพลาดน้อยลง
6.1.3 การเขียนแบบเน้นกระบวนการควบคู่กับแบบฝึกทักษะ Hybrid นอกจากจะทำให้นักเรียนพัฒนาทักษะการเขียนแล้ว ยังส่งผลต่อเจตคติที่ดีต่อการเขียนและการเรียนวิชาภาษาอังกฤษอีกด้วย
6.2 ควรหาเทคนิค สื่อที่ทันสมัย ที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา Anywhere anytime มาประยุกต์ใช้เพื่อให้นักเรียนได้ปรับปรุง พัฒนางานเขียน และมีพัฒนาแบบฝึกให้มีสื่อที่หลากหลาย เพิ่มความน่าสนใจในการเรียนรู้มากขึ้น
6.3 ข้อพึงระวัง : หากนักเรียนใช้ภาษาเขียนยังไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ครูควรให้กำลังใจ ควรให้แรงเสริมในทางบวก พร้อมเสนอแนะวิธีการเรียนรู้จากสื่อสำหรับฝึกฝนทักษะเขียน มิใช่แค่คัดลอก หรือให้ AIแปลภาษาให้ เช่น การใช้ ChatGPT, Gemini ในการฝึกทักษะการเขียน ให้นักเรียนเขียนด้วยตนเองก่อน และตรวจสอบรูปประโยคด้วยคำสั่ง Modify these sentences into B1 of CEFR level, please. นักเรียนจะได้เรียนรู้รูปประโยคที่ถูกต้อง โดยครูทำหน้าที่เป็น Facilitator
7. การเผยแพร่ผลงาน/ การได้รับการยอมรับ / รางวัลที่ได้ (ภาคผนวก จ)
7.1 เผยแพร่ผลงานผ่านเว็ปไซต์ website : www.kroobannok.com
7.2 เผยแพร่ผลงานผ่าน Facebook : Sing and Learn Plearn English