ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

วิจัยในชั้นเรียน การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ 5 โดยกระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring)

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ภาษาไทยเป็นมรดกของชาติที่มีความจำเป็นในการสื่อสาร ทำให้เกิดความเป็นเอกภาพ เสริมสร้างคุณภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย ปัจจุบันคนไทยใช้ภาษาพูดและภาษาเขียนในการแสวงหาความรู้และประสบการณ์ ส่งเสริมภูมิปัญญา บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ภาษาไทยจึงเป็นสมบัติของชาติที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ ดังที่พระบาทสมเด็จดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำรัสในที่ประชุมของชุมนุมภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงความสำคัญของภาษาไทยไว้ดังนี้ (กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ, 2539 : 8)

ประเทศไทยนั้นมีภาษาของเราเอง ซึ่งต้องหวงแหน ประเทศใกล้เคียงของเราหลายประเทศมีภาษาของตนเองแต่ว่าเขาไม่แข็งแรง เขาต้องพยายามหาหนทางที่จะสร้างภาษาของตนเองไว้มั่นคง เราโชคดีที่มีภาษาของตนเองมาแต่โบราณกาล ซึ่งสมควรอย่างยิ่งที่ต้องรักษาไว้ปัญหาเฉพาะด้านในการรักษาภาษานี้มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางการเขียน คือเขียนให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธี หมายความว่าใช้คำมาเขียนให้ถูกต้องชัดเจน ซึ่งนับเป็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาที่สามคือ ความร่ำรวยในคำของภาษาไทยที่พวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้

ภาษาไทยนอกจากจะเป็นภาษาประจำชาติ ยังแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นชาติไทย ภาษาไทยยังมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีวิตประจำวัน ช่วยถ่ายทอดความรู้ความคิดเสริมสร้างความเข้าใจอันดีของคนในสังคม ภาษาไทยจึงเป็นวิชาที่สำคัญยิ่งต่อการพัฒนาคนในชาติ การเรียนภาษาไทยนั้นเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้วิชาอื่น ๆ ผู้ที่ใช้ภาษาไทยได้ดีย่อมส่งผลในการเรียนรู้วิชาอื่นดีไปด้วยเพราะภาษาไทย คือ หัวใจของทุกวิชาดังนั้นความสามารถของการใช้ภาษาในการสื่อสาร จึงนับว่าสำคัญมากในยุคปัจจุบัน ดังที่หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 (กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ, 2545 : 3) กล่าวถึงความสำคัญของภาษาไทยไว้ว่า

ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อเกิดความเป็นเอกภาพและเสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารเพื่อความเข้าใจ และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำให้สามารถประกอบกิจธุระ การงาน และการดำรงชีวิตร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยได้อย่างสันติสุข

ฉะนั้นบุคคลใดที่สามารถใช้ภาษาไทยได้ดีก็ย่อมดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขและสามารถดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่จะใช้ภาษาไทยได้ดีต้องทำความเข้าใจและศึกษาหลักเกณฑ์ทางภาษา และฝึกฝนให้มีทักษะพื้นฐานทางภาษา คือ ทักษะการฟัง ทักษะการพูด ทักษะการอ่าน และทักษะการเขียน อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปใช้ในการติดต่อสื่อสาร พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้มุ่งเน้นการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนให้มีความสมดุล โดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้กระทรวงศึกษาธิการ จึงให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งเป็นหลักสูตรมาตรฐานของประเทศ มีจุดประสงค์ที่จะพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เป็นคนดีมีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อให้การจัดการศึกษาเป็นไปตามหลักการ จุดมุ่งหมายและมาตรฐานการเรียนรู้กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดสาระการเรียนรู้ซึ่งประกอบด้วยองค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้เป็น 8 กลุ่มสาระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยเป็นสาระหลักในกลุ่มแรกที่ใช้เป็นหลักในการจัดการเรียนการสอนเพี่อสร้างพื้นฐานการคิดและเป็นกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาและวิกฤตของชาติ

ทักษะภาษาไทยยังเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการศึกษาวิชาอื่น ๆ จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ มนุษย์จำเป็นต้องใช้ทักษะในการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนเพื่อติดต่อสื่อสาร การสอนภาษาไทยให้มีประสิทธิภาพตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรนั้น จำเป็นต้องมีการฝึกฝนทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อให้นักเรียนมีทักษะสามารถติดต่อสื่อความหมายได้ เพราะถ้าผู้เรียนใช้ภาษาไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะพูดไม่ชัด หรือเขียนไม่ถูกต้องนอกจากจะทำให้การสื่อความหมายไม่ตรงตามความต้องการแล้วยังทำให้เสียบุคลิกภาพอีกด้วย (วัลภา ศศิวิมล, 2531 : 24)

ทักษะที่นับว่ามีความสำคัญต่อการเรียนการสอนภาษาไทย ได้แก่ ทักษะการอ่านเพราะการอ่านเป็นการรับรู้ความคิด เป็นเครื่องมือในการพัฒนาการคิด สติปัญญา และทัศนคติสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในท่ามกลางสังคมยุคแห่งข้อมูลข่าวสารเช่นปัจจุบันนี้ บุคคลจำเป็นต้องติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น ทักษะการอ่านจึงจำเป็นและทวีความสำคัญมากขึ้นเป็นลำดับ เพราะการอ่านเป็นการรับรู้ความคิด ความรู้สึกและความเข้าใจของผู้อื่นทางลายลักษณ์อักษร และสามารถเก็บไว้เป็นหลักฐานอ้างอิงได้ การอ่านที่ไม่สมบูรณ์เพราะอ่านสะกดคำผิดหรือข้อความผิด ย่อมทำให้การสื่อสารขาดประสิทธิภาพ ทั้งยังอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้

พวงเล็ก อุตระ (2533 : 174) กล่าวว่า การอ่านใช้ติดต่อกันได้ระหว่างผู้อยู่ห่างไกล สามารถถ่ายทอดวัฒนธรรมหรือวิชาความรู้ได้กว้างขวางกว่าภาษาพูด ช่วยรักษาและสืบทอดวิชาความรู้ต่าง ๆ ไว้ยืนนานถึงแม้คำบางคำจะไม่ใช้พูดกันแล้ว แต่ก็ยังปรากฏหลักฐานเหลืออยู่ โดยภาษาเขียนสามารถปรับปรุงให้ได้ความกระชับไพเราะสละสลวยได้มากกว่าภาษาพูด ภาษาเขียนที่ดีควรเริ่มจากเขียนสะกดคำที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการใช้ภาษาเขียนที่ถูกต้องจะทำให้ใช้ภาษาได้อย่างสมบูรณ์ คำที่เขียนสะกดอาจจะทำให้การอ่านออกเสียงคำนั้นไม่ถูกต้อง และยังอาจทำให้ความหมายในการสื่อสารผิดไป เสียความไปหรืออย่างน้อยก็แสดงถึงความด้อยค่าทางสติปัญญาของผู้ใช้ภาษาการเขียนจะเขียนได้ดีก็ต่อเมื่อได้ฟังมากอ่านมาก มีประสบการณ์กว้างขวาง นอกจากนั้นยังปรากฏว่านักเรียนที่อ่านได้ดีมักจะเป็นผู้ที่มีทักษะการพูดดี (สุจริต เพียรชอบ และสายใจ อินทรัมพรรย์ , 2536 : 163)

ทักษะการอ่านจึงเป็นทักษะที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะปัญหาการอ่านสะกดคำให้ถูกต้องเพราะเป็นปัญหาที่พบมากในการเรียนการสอน ได้แก่ การอ่านพยัญชนะผิด อ่านสระผิด ใช้วรรณยุกต์ผิด (เข็มทอง จิตจักร , 2544 : 12) ทักษะการอ่านสะกดคำนับว่าเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ที่สำคัญของนักเรียน ในการเริ่มต้นเรียน ถ้าละเลยข้อบกพร่องนั้นไป อาจทำให้นักเรียนอ่านและเขียนผิดได้ตลอดไป การฝึกทักษะการอ่านสะกดคำให้ถูกต้องและคล่องแคล่วแก่ผู้เรียน เป็นการปูพื้นฐานการเขียนที่ดี เพราะสามารถนำไปใช้ในการเขียนรูปแบบอื่นๆ ได้อีก เช่น การเขียนจดหมาย การเขียนแสดงความคิดเห็นการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เป็นต้น (ปัทมา ไตรคุป 2547 : 8)

จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น การสอนทักษะการอ่านภาษาไทยในระดับชั้นมัธยมศึกษา ถึงแม้ครูผู้สอนจะได้พยายามฝึกทักษะการอ่านให้นักเรียนตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน แต่นักเรียนก็ยังมีข้อบกพร่องในการอ่าน ข้อบกพร่องในการอ่านนับเป็นปัญหาที่ครูผู้สอนจะต้องรีบแก้ไขโดยด่วน เพราะการอ่านเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ที่สำคัญของนักเรียน ดังนั้นครูผู้สอนจะต้องแก้ไขข้อบกพร่องในการอ่านของนักเรียน หากครูผู้สอนละเลยข้อบกพร่องนั้นไป จะเป็นสาเหตุให้นักเรียนไม่ประสบความสำเร็จทางการเรียนในระดับการศึกษาที่สูงขึ้นไปเท่าที่ควร เพราะไม่สามารถใช้ทักษะการอ่านแสวงหาความรู้ ความสามารถและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การอ่านคำไม่ถูกต้องแม้จะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม เมื่อรู้ว่าอ่านผิดไปแล้วก็ไม่ควรปล่อยปละละเลย เพราะภาษาไทยเป็นภาษาที่มีแบบแผน ควรยึดหลักเกณฑ์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน การอ่านคำให้ถูกต้องนั้นไม่ยาก เพียงแต่ผู้เขียนต้องใช้ความสังเกต จดจำและฝึกฝนก็จะทำให้สามารถอ่านได้ถูกต้องและชัดเจน โดยใช้หลักฐานที่เชื่อถือและตรวจสอบได้ คือ พจนานุกรม

ด้วยเหตุผลดังกล่าวผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะใช้วิธีเรียนแบบกระบวนการสร้างระบบพี้เลี้ยง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ เพื่อให้ผู้เรียนมีความเข้าใจและสามารถอ่านจับใจความสำคัญได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาที่ประสบอยู่และสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของครูให้มีเกิดประสิทธิผลมากขึ้น และส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนดีขึ้นด้วย

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหน่วยการเรียนรู้เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ ของนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาที่ 5 โดยกระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring)

วิธีดำเนินการวิจัย

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนสังคมวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 จำนวน 1 ห้องเรียน รวมจำนวนนักเรียน 19 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย/นวัตกรรม

1. แผนการสอนวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/3 โดยกระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring)

2. กิจกรรม Problem – based Learning สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 3 กิจกรรม ใช้เวลาในการแก้ปัญหาแต่ละกิจกรรม 1 ชั่วโมง ใช้ควบคู่กับแผนการสอน

กำหนดรูปแบบของการวิจัยในครั้งนี้

การออกแบบการวิจัย ใช้แบบการวิจัย 2 กลุ่ม มีการทดสอบก่อนและหลังการทดลอง (One Group Pretest Posttest Design) มีแผนภูมิดังนี้

สัญลักษณ์ในแบบแผนการทดลอง

X แทน การเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาทรงกระบอก โดยกระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring)

D1 แทน การทดสอบก่อนการเรียนของกลุ่มตัวอย่าง

D2 แทน การทดสอบหลังการเรียนของกลุ่มตัวอย่าง

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

1) สถิติพื้นฐาน

1.1) ค่าเฉลี่ย (Mean) โดยใช้สูตรดังนี้ (ล้วน สายยศ; และ อังคณา

สายยศ. 2539: 59)

เมื่อ แทน คะแนนเฉลี่ย

แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด

แทน จำนวนนักเรียนในกลุ่มตัวอย่าง

1.2) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (ล้วน สายยศ; และ อังคณา สายยศ.

2538: 79)

เมื่อ แทน ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน

แทน ผลรวมของกำลังสองของคะแนนแต่ละคนในกลุ่ม

แทน กำลังสองของคะแนนแต่ละคนในกลุ่ม

n แทน จำนวนนักเรียนในกลุ่มตัวอย่าง

สรุปผลการวิจัย

1. ผู้เรียนได้เรียนรู้เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ โดยระบบกระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง

(Coaching and Mentoring)

2. ได้แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทยโดยระบบกระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกอ่านจับใจความสำคัญและแก้ไขข้อบกพร่องเรื่องการอ่าน

3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญสูงขึ้น

อภิปรายผล

จากการทดลองปรากฏว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญ สูงขึ้น อาจเนื่องมาจาก แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

การแก้ปัญหาภาษาไทยโดยระบบกระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) โดยการจัดกิจกรรม Problem - based Learning ปัญหาท้าทาย แล้ววัดประเมินผลเพื่อวินิจฉัยข้อบกพร่องการเรียนรู้และ การแก้ปัญหา แบ่งผู้เรียนตามเกณฑ์การแก้ปัญหาจากประสบการณ์ของผู้เรียนเป็น กลุ่ม D1 คือ ผู้เรียนที่ไม่มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหา โดยครูผู้สอนสัมภาษณ์เพื่อหาตัวบ่งชี้ที่เป็นอุปสรรคสำคัญของความสามารถในการแก้ปัญหาของผู้เรียน แล้วแก้ไขอีกครั้งทั้งการสอนความหมายของเนื้อหา ทักษะการคิดคำนวณ การให้เหตุผล โดยครูผู้สอนเป็นผู้แนะนำ กลุ่ม D2 คือ ผู้เรียนที่มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาบ้าง แต่ขาดทักษะในการเขียนเรียบเรียงขั้นตอนกระบวนการแก้ปัญหาที่เป็นระบบ โดยให้นักเรียนที่มีผลงานในการแก้ปัญหาได้ในระดับดีเยี่ยมเป็นผู้ช่วยแนะนำ แล้วให้ผู้เรียนได้แก้ไข แล้ววัดประเมินผลบันทึกข้อมูล ผู้วิจัยได้จัดทำกิจกรรมปัญหาท้าทายจำนวน 3 กิจกรรม โดยปัญหาท้าทายเป็นการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาซึ่งมีลักษณะที่จัดเนื้อหาการเรียนรู้จากเรื่องง่าย ๆ แล้วเพิ่มระดับความยากขึ้น ซึ่งทั้ง 3 กิจกรรมจะใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) รูปแบบเดิม เป็นการเน้นย้ำให้นักเรียนเกิดทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้กระบวนการจนกระทั่งสามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาได้

จากผลการวิจัยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านจับใจความสำคัญโดยระบบกระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) ทำให้ผู้เรียนรับรู้และเข้าใจบทความที่อ่านมากยิ่งขึ้น มีทักษะในการอ่านเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งมีความสามารถในการให้เหตุผลมากขึ้น ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านจับใจความสำคัญโดยระบบกระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) ที่ผู้วิจัยใช้ในการวิจัยครั้งนี้ทำให้นักเรียนพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

ข้อเสนอแนะ

1. กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) เป็นกระบวนการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีการทำงานเป็นกลุ่มและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นกิจกรรมที่พัฒนากระบวนการแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี ครูผู้สอนควรนำกระบวนการนี้ไปใช้แก้ปัญหาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ในวิชาอื่น ๆ ที่ต้องใช้กระบวนการในการแก้ปัญหา เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้ต่อไป

2. การฝึกทักษะและการปฏิบัติเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ครูผู้สอนควรจะค้นหา สร้างหรือเลือกใช้รูปแบบการสอน และแบบฝึกทักษะที่หลากหลาย ให้เหมาะสมกับความต้องการของนักเรียนและความสามารถของนักเรียนแต่ละคน เพื่อให้นักเรียนได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มศักยภาพของตนเอง

3. นักเรียนบางคนอาจจะมีความสามารถสูง มีทักษะในการอ่าน ครูผู้สอนควรหาแบบฝึกเพิ่มเติมให้นักเรียนทำมากขึ้น เพื่อให้นักเรียนได้รับการพัฒนายิ่งขึ้น

4. ครูควรมีการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมอยู่เสมอ ๆ เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้จากกิจกรรมที่มีความหลากหลาย และได้รับประสบการณ์มากที่สุด

โพสต์โดย พิชัย ไชยเดช : [26 ต.ค. 2568 (14:58 น.)]
อ่าน [57148] ไอพี : 58.10.241.25
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,133 ครั้ง
เคล็ดลับการถ่ายภาพ ทะเล ให้สวยถูกใจ
เคล็ดลับการถ่ายภาพ ทะเล ให้สวยถูกใจ

เปิดอ่าน 13,710 ครั้ง
ผักที่มีรูจากแมลงใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป...
ผักที่มีรูจากแมลงใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป...

เปิดอ่าน 18,560 ครั้ง
10 ขั้นตอนบริหารใบหน้าชะลอแก่
10 ขั้นตอนบริหารใบหน้าชะลอแก่

เปิดอ่าน 61,746 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 14 การกระทำผิดกติการวม
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 14 การกระทำผิดกติการวม

เปิดอ่าน 23,866 ครั้ง
ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก
ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก

เปิดอ่าน 24,707 ครั้ง
Franck Muller นาฬิกาไม่เรียงเลข โดดไปมา คลิกดูซิว่าทำงานยังไง
Franck Muller นาฬิกาไม่เรียงเลข โดดไปมา คลิกดูซิว่าทำงานยังไง

เปิดอ่าน 20,488 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การจ่ายค่าตอบแทนมีความสำคัญยิ่งในฐานะเป็นหน้าที่หลักประการหนึ่งของหน่วยงาน
(ก.ค.ศ.)การจ่ายค่าตอบแทนมีความสำคัญยิ่งในฐานะเป็นหน้าที่หลักประการหนึ่งของหน่วยงาน

เปิดอ่าน 32,128 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง รายการ บ่ายนี้มีคำตอบ : ปฏิรูประบบบริหารการศึกษาใหม่หมด เด็กได้อะไร ?
รับชมย้อนหลัง รายการ บ่ายนี้มีคำตอบ : ปฏิรูประบบบริหารการศึกษาใหม่หมด เด็กได้อะไร ?

เปิดอ่าน 16,142 ครั้ง
ชาวโลกแห่ดูคลิป สิ่งเล็กๆ ในสังคมที่เรียกว่า "น้ำใจ" ยอดคนดูเกือบ3ล้านครั้งแล้ว
ชาวโลกแห่ดูคลิป สิ่งเล็กๆ ในสังคมที่เรียกว่า "น้ำใจ" ยอดคนดูเกือบ3ล้านครั้งแล้ว

เปิดอ่าน 24,117 ครั้ง
เกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

เปิดอ่าน 12,137 ครั้ง
5 อภิมหาม้าเหล็ก ทุบสถิติ วิ่งเร็วที่สุดในโลก
5 อภิมหาม้าเหล็ก ทุบสถิติ วิ่งเร็วที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 17,416 ครั้ง
เทคนิคการบันทึกเบอร์โทรศัพท์ ที่มีเบอร์ต่อ
เทคนิคการบันทึกเบอร์โทรศัพท์ ที่มีเบอร์ต่อ

เปิดอ่าน 20,746 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ เรื่องริดสีดวงทวาร
ไขข้อข้องใจ เรื่องริดสีดวงทวาร

เปิดอ่าน 29,303 ครั้ง
พระกฤษณะ
พระกฤษณะ

เปิดอ่าน 12,517 ครั้ง
พบวิธีการใหม่ ทำ "คนอัมพาต" เดินได้อีกครั้ง
พบวิธีการใหม่ ทำ "คนอัมพาต" เดินได้อีกครั้ง

เปิดอ่าน 10,564 ครั้ง
อย.อายัดด่วนนมผงนำเข้าจากจีน 20 ตัน!
อย.อายัดด่วนนมผงนำเข้าจากจีน 20 ตัน!
เปิดอ่าน 56,746 ครั้ง
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 40,424 ครั้ง
ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์
ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์
เปิดอ่าน 16,210 ครั้ง
7 รายชื่อ นวนิยายเข้ารอบสุดท้ายซีไรต์ 2552
7 รายชื่อ นวนิยายเข้ารอบสุดท้ายซีไรต์ 2552
เปิดอ่าน 16,353 ครั้ง
ลี กวน ยู บุรุษผู้ยิ่งใหญ่
ลี กวน ยู บุรุษผู้ยิ่งใหญ่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ