บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานลูกเสือเพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองของลูกเสือสามัญ โรงเรียนบ้านดอนขี้เหล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1 โดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ การวิเคราะห์องค์ประกอบและแนวทางการบริหาร การสร้างและตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบ การทดลองใช้และการประเมินผล ผลการวิจัยพบว่ารูปแบบที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ (1) ปัจจัยการบริหาร ประกอบด้วย 6 ด้าน คือ ด้านผู้บริหาร ด้านผู้กำกับลูกเสือ ด้านแนวทางการจัดกิจกรรมลูกเสือเพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมือง ด้านสื่อและเทคโนโลยี ด้านความร่วมมือ ด้านงบประมาณ (2) กระบวนการบริหาร ที่มีลำดับขั้นตอนชัดเจน ตั้งแต่การวิเคราะห์ผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา การกำหนดจุดมุ่งหมาย การวางแผนการปฏิบัติงาน การลงมือการปฏิบัติงาน การติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน จนถึงการรายงานผล (3) คุณลักษณะความเป็นพลเมืองของลูกเสือสามัญ 7 คุณลักษณะ ได้แก่ การมีคุณธรรม จริยธรรม การมีความสามารถในการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน การมีจิตสาธารณะ การช่วยส่งเสริมความมั่นคงของประเทศ การใฝ่เรียนรู้และพัฒนาตนเอง การมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมและการได้รับการยกย่องและเคารพสิทธิของผู้อื่น ผลการทดลองใช้พบว่าลูกเสือสามัญมีพัฒนาการด้านวินัย ความรับผิดชอบและจิตอาสาเพิ่มขึ้น ผู้กำกับลูกเสือมีแนวทางจัดกิจกรรมที่เป็นระบบ ผู้ปกครองและชุมชนรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก การประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิยืนยันว่ารูปแบบมีความเหมาะสม ใช้ได้จริงและสามารถขยายผลสู่สถานศึกษาอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานลูกเสือเพื่อเสริมสร้างความเป็นพลเมืองของลูกเสือสามัญ โรงเรียนบ้านดอนขี้เหล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1
วิธีดำเนินการวิจัย (Methodology)
การวิจัยและพัฒนา (R&D) 4 ขั้นตอน:
1) การวิเคราะห์องค์ประกอบคุณลักษณะความเป็นพลเมืองและศึกษา แนวทางการบริหารงานลูกเสือ
2) การสร้างและตรวจสอบความเหมาะสมรูปแบบการบริหารงานลูกเสือ
3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานลูกเสือ
4) การประเมินรูปแบบการบริหารงานลูกเสือ
กลุ่มตัวอย่าง: ผู้บริหาร ครูผู้กำกับลูกเสือ
สรุปผลการวิจัย (Results)
ผลการวิจัยรูปแบบการบริหารงานลูกเสือ เพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองของลูกเสือสามัญ (R&D)
4 ขั้นตอน ได้แก่ การวิเคราะห์องค์ประกอบและแนวทางการบริหาร การสร้างและตรวจสอบรูปแบบ ศึกษาผลการใช้รูปแบบ และการประเมินรูปแบบ พบว่ารูปแบบการบริหารงานลูกเสือสามัญที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมและใช้ได้จริง สามารถส่งเสริมคุณลักษณะความเป็นพลเมืองได้ครอบคลุมทั้ง 7 ด้าน ได้แก่ คุณธรรมจริยธรรม
การดำรงชีวิตในสังคม จิตสาธารณะ การส่งเสริมความมั่นคงของประเทศ การใฝ่เรียนรู้และพัฒนาตนเอง
ความรับผิดชอบ และการเคารพสิทธิของผู้อื่น ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน
อภิปรายผลการวิจัย (Conclusion & Discussion)
รูปแบบการบริหารงานลูกเสือที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสม ใช้ได้จริง และช่วยเสริมสร้างคุณลักษณะพลเมืองที่สำคัญ เห็นชัดว่ารูปแบบการบริหารงานลูกเสือสามัญที่พัฒนาขึ้นไม่เพียงแต่สอดคล้องกับทฤษฎีและนโยบายการศึกษา แต่ยังตอบสนองต่อการพัฒนาคุณลักษณะพลเมืองในเชิงปฏิบัติอย่างแท้จริง อันเป็นรากฐานสำคัญของการสร้าง พลเมืองที่มีคุณภาพ ให้กับสังคมไทยในอนาคต
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะจากการวิจัยชี้ให้เห็นว่าควรส่งเสริมให้สถานศึกษานำรูปแบบการบริหารงานลูกเสือไปปรับใช้ในเชิงปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริหารควรสนับสนุนทั้งด้านทรัพยากร บุคลากร และงบประมาณเพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่ไปกับการอบรมพัฒนาศักยภาพผู้กำกับลูกเสือให้เข้าใจแนวทางและสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ควรมีการติดตาม ประเมินผล และปรับปรุงรูปแบบอย่างสม่ำเสมอให้สอดคล้องกับบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังควรขยายผลการนำไปใช้ในสถานศึกษาอื่น ๆ เพื่อยกระดับคุณลักษณะพลเมืองของผู้เรียนในวงกว้างอย่างยั่งยืน