ผู้วิจัย นางสาวรัสมิ์สรา แสงจันทร์ศิริ
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2566-2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบและแนวทางการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1 2) สร้างรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1 3) ทดลองใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1 และ 4) ประเมินรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1
การวิจัยมี 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาองค์ประกอบและแนวทางการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน ขั้นที่ 1.1 การศึกษาองค์ประกอบและแนวทางการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน โดยการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสังเคราะห์เอกสาร วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ขั้นที่ 1.2 การศึกษาแนวทางการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ขั้นตอนที่ 2 การสร้างรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา ขั้นที่ 2.1 การยกร่างรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา ขั้นที่ 2.2 การตรวจสอบความเหมาะสมของร่างรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา 2.3 การประเมินความเหมาะสมและความเป็นได้ของรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามการประเมินความเหมาะสม และความเป็นไปได้ของรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอน จำนวน 15 คน และนักเรียน จำนวน 194 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบประเมินคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียน แบบบันทึกผลงานโรงเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าร้อยละ และค่าความถี่ ขั้นที่ 3.2 การประเมินความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 217 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 217 คน ในด้านความถูกต้อง ด้านความเหมาะสม ด้านความเป็นไปได้ และด้านความมีประโยชน์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบประเมินรูปแบบ วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. การศึกษาองค์ประกอบและแนวทางการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชาโรงเรียนบ้านขนุน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
สงขลา เขต 1 พบว่า รูปแบบ ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 หลักการ องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ องค์ประกอบที่ 3 กระบวนการพัฒนาองค์ประกอบที่ 4 การวัดและประเมินผล องค์ประกอบที่ 5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จ
2. รูปแบบทางการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชาโรงเรียนบ้านขนุน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1 ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 หลักการ ประกอบด้วย 3 หลักการองค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ ประกอบด้วย 2 วัตถุประสงค์ องค์ประกอบที่ 3 กระบวนการพัฒนา องค์ประกอบที่ 4 การวัดและประเมินผล ประกอบด้วย 2 ด้าน องค์ประกอบที่ 5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ประกอบด้วย 5 ปัจจัย
ผลการตรวจสอบความเหมาะสมและเป็นไปได้ของรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน พบว่า ผู้ทรงคุณวุฒิมีความเห็นว่ามีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน พบว่า 1) ผลการประเมินคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) ผลงานโรงเรียนด้านการพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน พบว่า ผลงานด้านโรงเรียน ผลงานด้านผู้บริหาร ผลงานด้านครู ผลงานด้านนักเรียน และผลงานด้านชุมชน ได้รับรางวัล ทั้งในระดับประเทศ ระดับภาค และระดับเขตพื้นที่การศึกษาทุกด้าน
ผลการประเมินความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1 พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
4. การประเมินรูปแบบการบริหารเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดีของนักเรียนด้วยศาสตร์พระราชา โรงเรียนบ้านขนุน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1 ในด้านความถูกต้อง ด้านความเหมาะสม ด้านความเป็นไปได้ และด้านความมีประโยชน์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด
คำสำคัญ : รูปแบบการบริหาร, การพัฒนาคุณลักษณะความเป็นพลเมืองดี, ศาสตร์พระราชา