ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน
ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย นางมยุรี ธงวิชัย
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านนาหัวบ่อ อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2
ปีที่ศึกษา 2566
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความมุ่งหมายของการวิจัย 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านนาหัวบ่อ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 1 ห้องเรียน ได้แก่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีนักเรียนจำนวน 14 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) ชุดกิจกรรม และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ttest (Dependent Samples) และ การทดสอบ Wilcoxon Singned-rank test
ผลการวิจัยพบว่า
1) การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีดังนี้ 1) มีกรอบแนวคิดทฤษฎีมาจาก 1) แนวคิดของการอ่านและการเขียนภาษาไทย ทักษะการสื่อสารภาษาไทย และ 2) หลักการจัดการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (StudentCentered Instruction) มีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิด ADDIE Model และรูปแบบการจัดการเรียนการสอนการประยุกต์ร่วมกับกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) และ มีรูปแบบการเรียนรู้ที่เน้นประสบการณ์ (Experiential Learning) และการจัดการเรียนรู้โดยผู้เรียนนำตนเอง (SelfDirected Learning) และ 2) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาไทยให้มีผลลัพธิ์ที่สูงขึ้น โดยมีขั้นตอนการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นการกระตุ้นเตรียมความพร้อม (Encouragement: E) เป็นกระบวนการเตรียมความพร้อมและสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ป้อนความอยากรู้ (Stimulate) การกระตุ้น ทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นและอยากเรียน เรียนคู่ประสบการณ์ (Learning) การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง ทำให้นักเรียนเข้าใจและรับรู้ถึงการเรียนรู้ในวิชานั้นๆ อย่างชัดเจน ขั้นตอนที่ 2 ขั้นการตรวจสอบความรู้เดิม (Reviewing Knowledge) เป็นขั้นที่ครูตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนได้แสดงความรู้เดิมออกมา เพื่อครูจะได้รู้ว่าเด็กแต่ละคนมีพื้นฐานความรู้เดิมเท่าไร จะได้วางแผนการสอนได้ถูกต้องและครูได้รู้ว่านักเรียนควรจะเรียนเนื้อหาใดก่อนที่จะเรียนเนื้อหานั้น ๆ ขั้นตอนที่ 3 ขั้นฝึกทักษะ Practice: E) 1) ขั้นการนำเสนอเนื้อหา (Presentation) ในขั้นนี้ครูจะให้ข้อมูลทางภาษาแก่ผู้เรียน ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการเรียนรู้ มีการนำเสนอเนื้อหาใหม่ โดยจะมุ่งเน้นการให้ผู้เรียนได้รับรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายและรูปแบบภาษาที่ใช้กันจริงโดยทั่วไป 2) ขั้นการปฏิบัติ (Practice) ในขั้นนี้ครูจะให้ผู้เรียนได้ฝึกใช้ภาษาที่จะเพิ่งเรียนรู้ใหม่จากการนำเสนอเนื้อหาในลักษณะของการฝึกควบคุมหรือชี้นำ (Controlled Practice/Directed Activities) โดยมีครูผู้สอนเป็นผู้นำในการฝึก ไปสู่การฝึกที่แบบค่อยๆปล่อยให้ทำเองมากขึ้น ในการฝึกนั้น ครูจะเริ่มการฝึกปากเปล่า (Oral) ซึ่งเป็นการพูดแบบง่ายๆก่อน จนได้รูปแบบภาษา แล้วค่อยเปลี่ยนสถานการณ์ที่ล้วนแต่สร้างขึ้นภายในห้องเรียนทั้งนั้น เพื่อฝึกการใช้โครงสร้างประโยคตามบทเรียน นอกจากนี้ควรมีการตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรียนควบคู่ไปด้วย แต่ไม่ควรใช้เวลามากนัก ต่อจากนั้นจึงฝึกด้วยการเขียน (Written) เพื่อเป็นการผนึกความแม่นยำในการใช้ 3) ขั้นการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร (Production) ถือเป็นขั้นที่มีความสำคัญมากที่สุด เพราะการฝึกใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารเปรียบเสมือนการถ่ายโอนที่ 1 ประยุกต์ใช้ความรู้สู่สถานการณ์จริง (Applying knowledge) ขั้นตอนที่ 4 ขั้นประเมินค่าความรู้ ความเข้าใจ (Evaluation: E) เป็นความสามารถในการวินิจฉัยหรือตัดสินกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การเปรียบเทียบแนวความคิด การวัดสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยการใช้เกณฑ์หรือมาตรฐานที่กำหนดไว้เพื่อให้นักเรียนได้เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทย และมีวิจัยการประยุกต์ร่วมกับกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยที่ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.70-5.00 แสดงว่ามีความเหมาะสมในการนำไปใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะด้านการอ่านและการเขียนภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
2) ผลการพัฒนาและประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.70-5.00 แสดงว่ามีความเหมาะสมในการนำไปใช้ส่งเสริมทักษะการอ่านและเขียนภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .01 และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีผลโดยรวมหลังการพัฒนาทักษะด้านการอ่านและการเขียนภาษาไทย มีทักษะเพิ่มมากขึ้นกว่าก่อนได้รับการพัฒนาทักษะด้านการอ่านและการเขียนภาษาไทย โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .05
4) ผลการประเมินการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้กระบวนการสอน ER-3PE Model เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมและรายข้อทุกข้อในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือข้อ 13 กิจกรรมการเรียนรู้นี้ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ( X=4.47) ข้อ14 กิจกรรมการเรียนรู้สามารถศึกษาได้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ( X= 4.45) และข้อ16 การจัดการเรียนรู้นี้นักเรียนเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ( X= 4.44) ตามลำดับ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ข้อ 5 การเรียนรู้นี้สามารถทำให้นักเรียนได้นำความรู้ สู่การปฏิบัติจริง ( X= 3.92)