ชื่อเรื่อง รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับ ชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางสาวเบญจพร สุวรรณมาโจ
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านนาหัวบ่อ ตำบลนาหัวบ่อ อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2
ปีที่ศึกษา 2566
บทคัดย่อ
รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับ ชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความมุ่งหมายของการวิจัย 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในรูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SlWCE Model ร่วมกับ ชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนาและประเมินรูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SlWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับ ชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ประกอบด้วย 4.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับ ชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียน 4.2 เพื่อเปรียบเทียบทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียน 4.3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านนาหัวบ่อ ตำบลนาหัวบ่อ อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 1 ห้องเรียน ได้แก่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีนักเรียนจำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบทักษะการอ่านและการเขียน และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ttest (Dependent Samples) และ การทดสอบ Wilcoxon Singned-rank test
ผลการวิจัยพบว่า
1. การพัฒนารูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีดังนี้ 1) มีกรอบแนวคิดทฤษฎีมาจากแนวคิการอ่านและการเขียนภาษาไทย และหลักการจัดการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (StudentCentered Instruction) มีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิด ADDIE Model และรูปแบบการจัดการเรียนการสอนการประยุกต์ร่วมกับกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) และมีรูปแบบการเรียนรู้ที่เน้นประสบการณ์ (Experiential Learning) และการจัดการเรียนรู้โดยผู้เรียนนำตนเอง (SelfDirected Learning) 2) รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับ ชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (E2SLWCE Model) ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นตรวจสอบความรู้เดิม(Elicitation Phase) ขั้นที่ 2 ขั้นเร้าความสนใจ(Engagement Phase ขั้นที่ 3 ขั้นสรางประสบการณก่อนอ่าน (Steps to create a reading experience) ขั้นที่ 4 ขั้นสรางเสริมทักษะทางภาษา (Language Skills Enhancement) ขั้นที่ 5 ขั้นสรางเสริมทักษะด้านการเขียน (Writing Skills Enhancement) ขั้นที่ 6 ขั้นสรางผลงานตามความสนใจ (Create interest-based work) ขั้นที่ 7 ขั้นประเมินผล (Evaluation Phase) เพื่อให้นักเรียนได้เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านและการเขียน และมีวิจัยการประยุกต์ร่วมกับกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยที่ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.70-5.00 แสดงว่ามีความเหมาะสมในการนำไปใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างทักษะด้านการอ่านและการเขียน
2. ผลการพัฒนาและประเมินรูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับ ชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.70-5.00 แสดงว่ามีความเหมาะสมในการนำไปใช้ส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .01 และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีผลโดยรวมหลังการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน มีทักษะเพิ่มมากขึ้นกว่าก่อนได้รับการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน โดยใช้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4) ผลการประเมินการใช้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ประกอบด้วย
4.1 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียน มีค่าเท่ากับ 83.36/84.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 83.36/84.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ และมีค่าดัชนีประสิทธิผลของกระบวนการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2มีค่าเท่ากับ .5481 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
4.2 ผลการเปรียบเทียบทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .01
4.3 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ทางภาษา โดยใช้ E2SLWCE Model ร่วมกับชุดกิจกรรมเรื่อง อักษรนำ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยรวมและรายข้อทุกข้อในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือข้อ 13 กิจกรรมการเรียนรู้นี้ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ( x = 4.47) ข้อ 14 กิจกรรมการเรียนรู้สามารถศึกษาได้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน (x = 4.45) และข้อ16 การจัดการเรียนรู้นี้นักเรียนเรียนรู้ได้ตลอดเวลา (x = 4.44) ตามลำดับ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ข้อ 5 การเรียนรู้นี้สามารถทำให้นักเรียนได้นำความรู้ สู่การปฏิบัติจริง (x = 3.92)