1. ความสำคัญของผลงานนวัตกรรมที่นำเสนอ
1.1 ความเป็นมาและสภาพปัญหา
เด็กคืออนาคตของชาติ ประโยคนี้จะเป็นจริงได้อย่างไร ถ้ายังมีกลุ่มเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาอยู่เรื่อย ซึ่งสาเหตุหลักก็คือ ความยากจน รวมถึงรายได้ที่ไม่มั่นคงของผู้ปกครอง สาเหตุดังกล่าวนี้ส่งผลต่ออนาคตของเด็กคนหนึ่งเป็นอย่างมาก เพราะเด็กต้องออกจากโรงเรียนเพื่อมาช่วยพ่อแม่ทำงาน จึงเกิดคำถามว่า ทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ นโยบาย Thailand Zero Dropout จึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษาให้เป็นศูนย์ หรือเด็กทุกคนต้องได้เรียน เป็นนโยบายของรัฐบาลที่มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เทคโนโลยีข้อมูลในการตามหาเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาและพากลับเข้าสู่ระบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดจำนวนเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาให้เป็นศูนย์ โดยเฉพาะการศึกษาภาคบังคับ (ป.1 ม.3) ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สร้างโอกาสที่เท่าเทียมสำหรับทุกคน มีโอกาสพัฒนาชีวิต ก้าวพ้นความยากจน กลายเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวได้ โดยในปี 2565 เริ่มมีการประกาศ นโยบาย Thailand Zero Dropout และทดลองใช้ในพื้นที่นำร่อง เช่น อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ปลายปี 2566 - ต้นปี 2567 มีการขยายผลโครงการไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ กรกฎาคม 2567 รัฐบาลได้มีคำสั่งให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเด็กหลุดระบบอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งเริ่มปฏิบัติการค้นหาเด็กนอกระบบกว่า 1 ล้านคน ปัจจุบัน (2568) โครงการยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เด็กทุกคนต้องได้เรียน และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ลักษณะการดำเนินงาน จะใช้เทคโนโลยีข้อมูลในการค้นหาเด็กนอกระบบ ประกอบด้วย 4 มาตรการหลักคือ ค้นหา-ช่วยเหลือ-ส่งต่อ-ดูแล เชื่อมโยงข้อมูลเด็กนอกระบบและเด็กตกหล่น เพื่อให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นและหลากหลายทางเลือก
Thailand Zero Dropout เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ที่ตั้งเป้าหมายเพื่อลดจำนวนเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาให้เป็นศูนย์ โดยที่ผ่านมาได้เร่งติดตามการดำเนินงานในทุกจังหวัดให้ครบ 100% และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการมีความมั่นใจว่า โครงการ พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง OBEC Zero Dropout จะสามารถนำผลการติดตามมาวิเคราะห์และช่วยเหลือเด็กได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้เด็กทุกคนสามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาและได้รับโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง สามารถตอบสนองความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครองที่มีความจำเป็นแตกต่างกันได้ และในการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 นี้ กระทรวงศึกษาธิการ จะดำเนินการระยะที่ 2 คือ นำการเรียนไปให้น้อง โดยมีการนำระบบ 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ ให้ผู้เรียนได้รับการศึกษาแบบยืดหยุ่น มีทั้งการเรียนในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย เพราะเด็กแต่ละคนมีความจำเป็นที่แตกต่างกัน พร้อมทั้งเน้นย้ำในเรื่องการป้องกัน ให้เด็กยังอยู่ในระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ส่วนเด็กที่ติดตามพบตัวแล้วแต่ยังไม่กลับมาเรียน เราก็จะพาการศึกษาไปหาเด็ก ๆ ตามนโยบายเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา Anywhere Anytime โดยจะเสริมสร้างความร่วมมือกับผู้ปกครอง ครู และชุมชน เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของเด็กอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
1.2 แนวทางการแก้ปัญหาและการพัฒนา
ภายใต้การขับเคลื่อนนโยบาย Thailand Zero Dropout ของรัฐบาล และ โครงการ พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง (OBEC Zero Dropout) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนสุเหร่าบ้านไร่ จึงดำเนินการจัดทำนวัตกรรมขึ้น เพื่อพัฒนาการดำเนินการลดอัตราการออกกลางคันของผู้เรียน โรงเรียนสุเหร่าบ้านไร่ ด้วย SUCCESS MODEL สำหรับใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานป้องกัน เฝ้าระวัง ติดตามและช่วยเหลือเด็กออกกลางคัน ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ประกอบด้วย การสร้างแนวทางการป้องกัน เฝ้าระวังเด็กออกกลางคัน และดูแลช่วยเหลือเด็กออกกลางคันที่กลับเข้าระบบการศึกษา การสร้างแนวทางการติดตาม ช่วยเหลือเด็กตกหล่น และเด็กออกกลางคันให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา กลับมาเรียนอย่างมั่นใจ เริ่มเทอมใหม่อย่างมีความสุข มุ่งสร้างโอกาสทางการศึกษา ให้ผู้เรียนทุกคน ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ เป็นบุคคลที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน และเป็นพลังในการพัฒนาประเทศต่อไป
2. จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน
2.1 จุดประสงค์
1. เพื่อสร้างแนวทางในการดำเนินงานป้องกัน เฝ้าระวัง ติดตามและช่วยเหลือ มิให้มีนักเรียนออกกลางคัน ตามโครงการพาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง (OBEC Zero Dropout)
2. เพื่อสร้างแนวทางในการติดตามนักเรียนที่ออกกลางคันไปแล้ว ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ให้ได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
3. เพื่อสร้างแนวทางในการป้องกันนักเรียนที่อยู่ในระบบการศึกษา หลุดออกจากระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยส่งเสริมการใช้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ
4. เพื่อสร้างแนวทางในการเสริมสร้างทักษะชีวิตและการคุ้มครองนักเรียน
5. เพื่อสร้างนวัตกรรมในการลดอัตราการออกกลางคันของผู้เรียน ตามโครงการ พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง(OBEC Zero Dropout)
2.2 เป้าหมาย
เป้าหมายเชิงปริมาณ
1. ในปีการศึกษา 2568 นักเรียนโรงเรียนสุเหร่าบ้านไร่ร้อยละ 100 ไม่มีนักเรียนออกกลางคัน
2. ในปีการศึกษา 2568 นักเรียนโรงเรียนสุเหร่าบ้านไร่ร้อยละ 100 ได้รับการเฝ้าระวัง ติดตามและช่วยเหลือ มิให้มีนักเรียนออกกลางคัน ตามโครงการ พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง(OBEC Zero Dropout)
3. ในปีการศึกษา 2568 นักเรียนโรงเรียนสุเหร่าบ้านไร่ร้อยละ 100 ได้รับการส่งเสริมและดูแลช่วยเหลือ ตามระบบดูแลช่วยเหลือ
เป้าหมายเชิงคุณภาพ
1. นักเรียนโรงเรียนสุเหร่าบ้านไร่ ได้รับการศึกษาตามความต้องการของผู้เรียนรายบุคคล
2. นักเรียนโรงเรียนสุเหร่าบ้านไร่ ได้รับการส่งเสริมและพัฒนา ให้เกิดทักษะชีวิตที่หลากหลาย
3. โรงเรียนสุเหร่าบ้านไร่ มีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ
4. โรงเรียนสุเหร่าบ้านไร่ มีแนวทางในการดำเนินงานป้องกัน เฝ้าระวัง ติดตามและช่วยเหลือ มิให้มีนักเรียนออกกลางคัน ตามโครงการ พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง (OBEC Zero Dropout)