การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน
การบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข 2) เพื่อสร้างรูปแบบ
การบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข 4) เพื่อปรับปรุงรูปแบบการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข 5) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข ที่ปรับปรุงแล้ว
และ 6) เพื่อปรับปรุงรูปแบบการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข (ฉบับสมบูรณ์) โดยมีการวิจัย 6 ระยะ ได้แก่ 1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน โดยการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี หลักการที่เกี่ยวข้อง จากเอกสาร ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่คาดวัง และความต้องการ ตรวจเยี่ยมนิเทศโรงเรียน 100% ด้วยแบบประเมิน และศึกษาแนวทางในการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนา
คุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข ใช้รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ผู้ให้ข้อมูลได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูหัวหน้างานวิชาการ และประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
2) สร้างรูปแบบการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข ยกร่างรูปแบบ และคู่มือการใช้รูปแบบ โดยการประชุมระดมสมอง ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้รูปแบบการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข สัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ ประเมินความถูกต้อง ความเหมาะสม และความเป็นประโยชน์ของร่างรูปแบบ และความเหมาะสมของร่างคู่มือการใช้รูปแบบ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ 15 คน 3) ทดลองใช้รูปแบบ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และศึกษาผลการทดลองใช้ กระบวนการ ผลที่เกิดกับผู้เรียน ครู สถานศึกษา หรือผู้บริหารสถานศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จากเอกสารที่เกี่ยวข้อง 4) ประเมินประสิทธิภาพรูปแบบ
โดยประเมินผลการบริหารจัดการของผู้บริหารสถานศึกษา ความเป็นไปได้ ประโยชน์ของรูปแบบ
และความพึงพอใจต่อรูปแบบ ปรับปรุงรูปแบบ และร่างคู่มือการใช้รูปแบบ (ครั้งที่1) โดยการประชุมระดมสมอง ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้รูปแบบ สัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินรูปแบบ และร่างคู่มือการใช้รูปแบบ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ 15 คน 5) ใช้รูปแบบการบริหารนโยบาย
เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และศึกษาผลการใช้ จากเอกสารที่เกี่ยวข้อง และ 6) ประเมินประสิทธิภาพรูปแบบ และประเมินจุดเข็ง จุดอ่อน และข้อเสนอแนะต่อรูปแบบ ปรับปรุงรูปแบบ โดยการประชุมระดมสมองจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้รูปแบบ เป็นฉบับสมบูรณ์
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพปัจจุบันในการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียน
แห่งความสุข โดยรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก สภาพที่คาดหวังในการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
2. ผลการสร้างรูปแบบการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียน
แห่งความสุขมี 6 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ 3) เนื้อหา
4) การดำเนินการ 5) การประเมินผล และ 6) เงื่อนไขความสำเร็จ ซึ่งรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบ
มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มี 1 กลยุทธ์ 4 มิติ 8 นโยบาย ในการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบ เกิดผลต่อผู้เรียน ครู สถานศึกษา และผู้บริหารสถานศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ
4. ผลการเปรียบเทียบระดับการปฏิบัติของผู้บริหารสถานศึกษาระหว่างก่อนและหลัง
การพัฒนา พบว่า หลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ผลการประเมินความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการดำเนินงานตามรูปแบบ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
ผลการปรับปรุงรูปแบบ และคู่มือการใช้รูปแบบ ใช้ 1 กลยุทธ์ 4+1 มิติ 8 นโยบาย ในการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียนแห่งความสุข
5. ผลการใช้รูปแบบการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่โรงเรียน
แห่งความสุข เกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพ
6. ผลการเปรียบเทียบระดับการปฏิบัติของผู้บริหารสถานศึกษา พบว่า หลังการพัฒนา
สูงกว่าก่อนการพัฒนา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลการประเมินความเป็นไปได้
และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินความพึงพอใจ
ที่มีต่อการดำเนินงานตามรูปแบบ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมิน จุดเด่น
จุดที่ควรพัฒนา และข้อเสนอแนะ พบว่ารูปแบบการบริหารนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
สู่โรงเรียนแห่งความสุข มีจุดเด่นมากกว่าจุดที่ควรพัฒนา