ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รูปแบบการบริหารสถานศึกษา โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูร่วมกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ของโรงเรียนบ้านนาฟ่อน

ื่อเรื่อง รูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูร่วมกับการ

จัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ของโรงเรียนบ้านนาฟ่อน

ผู้วิจัย นายนิติรัฐ วรรณวิริยวัตร

หน่วยงาน โรงเรียนบ้านนาฟ่อน

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5

ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2566 - 2567

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัญหาและความต้องการ ใน

การใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูร่วมกับการจัดการเรียนรู้

เชิงรุกเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ของโรงเรียนบ้านนาฟ่อน 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหาร

สถานศึกษาโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูร่วมกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาคุณภาพ

การจัดการศึกษา ของโรงเรียนบ้านนาฟ่อน 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษา

โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูร่วมกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัด

การศึกษา ของโรงเรียนบ้านนาฟ่อน และ 4) เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการบริหารสถานศึกษา

โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูร่วมกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัด

การศึกษา ของโรงเรียนบ้านนาฟ่อน การวิจัยนี้เป็นการวิจัย และพัฒนา แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่

ขั้นตอนที่ 1การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัญหาและ ความต้องการ ผู้ให้ข้อมูล คือ 1) ผู้ทรงคุณวุฒิในการ

สัมภาษณ์ จำนวน 5 คน 2) ครูผู้สอนระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 20 คน คณะกรรมการ

สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 2 คน และ ผู้ปกครอง จำนวน 2 คน สำหรับการสนทนากลุ่ม (Focus

Group Discussion) ได้มาโดยการเลือก แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบวิเคราะห์

เอกสาร 2) แบบสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ 3) แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบ

ผู้ให้ข้อมูล คือ 1) ผู้เชี่ยวชาญ ในการจัดสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ (Connoisseurship) จำนวน 11 คน 2)

ผู้ทรงคุณวุฒิในการประเมิน ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบ จำนวน 9 คน ได้มาโดยการ

เลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบตรวจสอบความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎีและความ

สอดคล้อง ของร่างรูปแบบ 2) แบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบ ขั้นตอนที่ 3

การศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่าง คือ 1) ครูผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 จำนวน

20คน 2) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 จำนวน 140คน ปีการศึกษา 2562 ได้มา โดยการเลือก

แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ การจัดการเรียนรู้

เชิงรุก 2) แบบประเมินหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้3) แบบประเมิน พฤติกรรมการจัดการ

เรียนรู้ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อกระบวนการพัฒนา ตามรูปแบบการพัฒนาครูโดยใช้

ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของ

นักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู และขั้นตอนที่ 4 การประเมินประสิทธิผลของรูปแบบ โดย

นำรูปแบบที่ผ่านการทดลองใช้ในขั้นตอนที่ 3 มาใช้จริง ในปีการศึกษา 2563 เพื่อประเมินประสิทธิผลของ

รูปแบบและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบให้มีความชัดเจน เข้าใจง่ายและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น กลุ่มตัวอย่าง คือ 1)

ครูผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 21 คน 2) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6

จำนวน 147 คน ปีการศึกษา 2563 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่

ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Wilcoxon Signed Rank Test และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัญหาและความต้องการในการใช้รูปแบบการบริหาร

สถานศึกษาโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูร่วมกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาคุณภาพ

การจัดการศึกษา ของโรงเรียนบ้านนาฟ่อน มีดังนี้ 1) ข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนา

สถานศึกษา แนวคิดเกี่ยวกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก แนวคิด

เกี่ยวกับรูปแบบและการพัฒนารูปแบบ 2) สภาพปัญหาในการจัดการเรียนรู้พบว่า 2.1) การจัดการเรียนรู้

ของครูส่วนใหญ่ยึดกรอบเนื้อหา ตามหนังสือเรียน เน้นการป้อนเนื้อหาให้ผู้เรียน ใช้วิธีการจัดการเรียนรู้

แบบบรรยายและการสาธิต เป็นหลักขาดการส่งเสริมให้นักเรียนฝึกทักษะด้านการคิดวิเคราะห์การ

แก้ปัญหา 2.2) สื่อการเรียนรู้ไม่เพียงพอและไม่มีความหลากหลาย 2.3) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ครูใช้การทดสอบความรู้ ด้วยการใช้แบบทดสอบเป็นหลัก เน้นการวัดด้านความรู้ความเข้าใจ การ

ประเมินผลด้านทักษะและ ความสามารถของนักเรียน พบว่า ครูใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลไม่

เหมาะสม 3) ความต้องการของ ครูพบว่า ครูต้องการพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้การ

ประยุกต์ใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ ที่หลากหลาย เหมาะสมกับเนื้อหาและผู้เรียน การพัฒนาครูควรจะใช้

วิธีการที่หลากหลาย และหากนำ รูปแบบการพัฒนาระบบนิเวศชุมชนแห่งการเรียนรู้แบบบูรณาการมาใช้

และใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกมาใช้ ในการพัฒนาครูจะทำให้ครูใน

โรงเรียนบนพื้นที่สูงได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ในการจัดการเรียนรู้

และครูคาดหวังว่าเมื่อได้รับการพัฒนาตามรูปแบบการพัฒนาครูจะทำให้ครู มีความรู้ความสามารถในการ

จัดการเรียนรู้สูงขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น

นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุขและเต็มตามศักยภาพ

2. รูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูร่วมกับการ

จัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ของโรงเรียนบ้านนาฟ่อน ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า

Imkh-we Model ประกอบด้วย 6องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการพัฒนา

มี 5 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 การสร้างวิสัยทัศน์ ร่วมกัน (Shared Vision: S) ขั้นที่ 2 การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม

(Team Learning: T) ขั้นที่ 3 การจัด การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning Management: A) ขั้นที่ 4 การ

สะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ (Reflection:R)ขั้นที่5การแสดงผลงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน (Show

& Share: 2S)4) ระบบ สนับสนุน 5) เงื่อนไขความสำเร็จ 6) การวัดและประเมินผล และผลการประเมิน

ความเหมาะสม และความเป็นไปได้ของรูปแบบ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก

ที่สุดและ ความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ

ครูร่วมกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ของโรงเรียนบ้านนาฟ่อน พบว่า 1)

ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู หลังการใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบ

แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 2) ความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดย

ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 3) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อกระบวนการพัฒนาตามรูปแบบการพัฒนา

ครูโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

ที่สุด และ 4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

4. ผลการประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการพัฒนาระบบนิเวศชุมชนการเรียนรู้ทาง

วิชาชีพแบบบูรณาการ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบนพื้นที่สูง พบว่า 1)

ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูหลังการใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบ

แตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดย

ภาพรวมอยู่ใน ระดับมากที่สุด 3) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อกระบวนการพัฒนาตามรูปแบบการพัฒนา

ครูโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

ที่สุด และ 4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

คำสำคัญ : รูปแบบการพัฒนาสถานศึกษา ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก

Title: School Administration Model Using Professional Learning

Communities and Active Learning Management to Improve

Educational Quality at Ban Na Fon School

Researcher: Mr. Nitirat Wannaviriyawat

Institution: Ban Na Fon School, Office of Chiang Mai Primary Educational Service

Area 5

Research Period: Academic Years 2023-2024

AฺBSTRACT

This research aimed to: 1) study basic information, problems, and needs

regarding the use of school administration model using professional learning communities

combined with active learning management to improve educational quality at Ban Na Fon

School; 2) develop a school administration model using professional learning communities

combined with active learning management to improve educational quality at Ban Na Fon

School; 3) study the results of implementing the school administration model using

professional learning communities combined with active learning management to improve

educational quality at Ban Na Fon School; and 4) evaluate the effectiveness of the school

administration model using professional learning communities combined with active

learning management to improve educational quality at Ban Na Fon School.

This research was a research and development study divided into 4 phases:

Phase 1 - Study of basic information, problems, and needs. Data providers included: 1) 5

experts for interviews, 2) 20 primary school teachers (grades 1-6), 2 basic education

committee members, and 2 parents for focus group discussions, selected through

purposive sampling. Research instruments included: 1) document analysis form, 2) expert

interview form, and 3) focus group discussion record form. Phase 2 - Model development.

Data providers included: 1) 11 experts for connoisseurship seminars, 2) 9 experts for

evaluating model appropriateness and feasibility, selected through purposive sampling.

Research instruments included: 1) theoretical rationality and consistency checklist for the

draft model, and 2) model appropriateness and feasibility evaluation form. Phase 3 -Study

of model implementation results. Sample groups included: 1) 20 primary school teachers

(grades 1-6), 2) 140 primary school students (grades 4-6) in academic year 2019, selected

through purposive sampling. Research instruments included: 1) knowledge and

understanding test about active learning management, 2) learning unit and lesson plan

evaluation form, 3) learning management behavior evaluation form, 4) teacher satisfaction

questionnaire regarding the development process according to the teacher development

model using professional learning communities to promote active learning management,

and 5) student satisfaction questionnaire regarding teachers’ active learning management.

Phase 4 - Evaluation of model effectiveness by implementing the model tested in Phase

3 in academic year 2020 to evaluate model effectiveness and improve the model for

greater clarity, ease of understanding, and appropriateness. Sample groups included: 1) 21

primary school teachers (grades 1-6), 2) 147 primary school students (grades 4-6) in

academic year 2020, selected through purposive sampling. Statistical analyses used

included percentage, mean, standard deviation, Wilcoxon Signed Rank Test, and content

analysis.

Research Findings

1. Results of studying basic information, problems, and needs regarding the

use of school administration model using professional learning communities combined

with active learning management to improve educational quality at Ban Na Fon School

showed: 1) Basic information included concepts about school development, professional

learning communities, active learning management, and model development; 2) Problems

in learning management: 2.1) Most teachers’ learning management focused on textbook

content frameworks, emphasizing content delivery to learners, using primarily lecture and

demonstration methods, lacking promotion of students’ analytical thinking and problemsolving skills, 2.2) Insufficient and non-diverse learning materials, 2.3) Learning assessment

where teachers used knowledge testing with test instruments as the main method,

focusing on knowledge and understanding measurement, while skill and ability

assessment used inappropriate measurement and evaluation tools; 3) Teachers’ needs

showed they wanted to develop capabilities in learning management and application of

diverse learning management methods appropriate to content and learners. Teacher

development should use diverse methods, and implementing integrated ecosystem

professional learning community development models and professional learning

communities to promote active learning management would enable teachers in highland

schools to share and exchange knowledge and various experiences in learning

management. Teachers expected that development according to the teacher

development model would enhance their knowledge and capabilities in learning

management and increase efficiency, resulting in higher student achievement and joyful

learning according to students’ potential.

2. The developed school administration model using professional learning

communities combined with active learning management to improve educational quality

at Ban Na Fon School was named the "Imkh-we Model" consisting of 6 components: 1)

Principles, 2) Objectives, 3) Development process with 5 stages: Stage 1 - Shared Vision

(S), Stage 2 - Team Learning (T), Stage 3 - Active Learning Management (A), Stage 4 -

Learning Management Reflection (R), Stage 5 - Show & Share (2S), 4) Support system, 5)

Success conditions, 6) Measurement and evaluation. Expert evaluation results showed the

model had very high appropriateness and high feasibility.

3. Results of implementing the school administration model using

professional learning communities combined with active learning management to improve

educational quality at Ban Na Fon School showed: 1) Teachers’ knowledge and

understanding of active learning management after using the model was significantly

higher than before at the .05 statistical significance level, 2) Teachers’ active learning

management capabilities were at the highest level overall, 3) Teachers’ satisfaction with

the development process according to the teacher development model using professional

learning communities to promote active learning management was at the highest level

overall, and 4) Students’ satisfaction with teachers’ active learning management was at a

high level overall.

4. Results of evaluating the effectiveness of the integrated professional

learning community ecosystem development model to promote teachers’ active learning

management competencies in highland schools showed: 1) Teachers’ knowledge and

understanding of active learning management after using the model was significantly

higher than before at the .05 statistical significance level, 2) Teachers’ active learning

management capabilities were at the highest level overall, 3) Teachers’ satisfaction with

the development process according to the teacher development model using professional

learning communities to promote active learning management was at the highest level

overall, and 4) Students’ satisfaction with teachers’ active learning management was at a

high level overall.

Keywords: School development model, Professional learning communities,

Active learning management

โพสต์โดย M : [13 ก.ย. 2568 (06:50 น.)]
อ่าน [58662] ไอพี : 27.55.79.111
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,717 ครั้ง
สมุนไพรไทย
สมุนไพรไทย

เปิดอ่าน 14,593 ครั้ง
ศัพท์จากข่าวประท้วง
ศัพท์จากข่าวประท้วง

เปิดอ่าน 23,301 ครั้ง
ลมมรสุม
ลมมรสุม

เปิดอ่าน 12,215 ครั้ง
"เจตพังคี" คืออะไร?
"เจตพังคี" คืออะไร?

เปิดอ่าน 29,170 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก

เปิดอ่าน 10,161 ครั้ง
แนวการสอนซ่อมเสริมการอ่านและการเขียน ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1-7
แนวการสอนซ่อมเสริมการอ่านและการเขียน ประถมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1-7

เปิดอ่าน 10,905 ครั้ง
มื้อเล็ก ๆ ช่วยลดน้ำหนัก
มื้อเล็ก ๆ ช่วยลดน้ำหนัก

เปิดอ่าน 37,878 ครั้ง
Plasma TV คืออะไร
Plasma TV คืออะไร

เปิดอ่าน 18,565 ครั้ง
ข่าวดี ! สกัด"ผักติ้ว-สนสามใบ" ยาสู้มะเร็ง ทีมวิจัยไทยเฮทำสำเร็จ
ข่าวดี ! สกัด"ผักติ้ว-สนสามใบ" ยาสู้มะเร็ง ทีมวิจัยไทยเฮทำสำเร็จ

เปิดอ่าน 17,908 ครั้ง
น้ำเปล่า ช่วยให้คุณสวยได้ยังไง
น้ำเปล่า ช่วยให้คุณสวยได้ยังไง

เปิดอ่าน 20,167 ครั้ง
รูปแบบการสอนวิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ
รูปแบบการสอนวิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 698 ครั้ง
รวมเทคนิคจัดระเบียบบ้านด้วยตู้ลิ้นชักแบบมืออาชีพ
รวมเทคนิคจัดระเบียบบ้านด้วยตู้ลิ้นชักแบบมืออาชีพ

เปิดอ่าน 26,212 ครั้ง
PowerPoint ประกอบการประชุมชี้แจงการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ กศจ.
PowerPoint ประกอบการประชุมชี้แจงการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ กศจ.

เปิดอ่าน 2,875 ครั้ง
ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้วมีกี่ขั้นตอน
ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้วมีกี่ขั้นตอน

เปิดอ่าน 15,429 ครั้ง
วิธีคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก-ไม่ขม
วิธีคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก-ไม่ขม

เปิดอ่าน 20,515 ครั้ง
อยากพูดฝรั่งคล่อง ต้องร้องเพลงก่อน
อยากพูดฝรั่งคล่อง ต้องร้องเพลงก่อน
เปิดอ่าน 14,057 ครั้ง
"การผลิต" กับการศึกษาประเทศสิงคโปร์
"การผลิต" กับการศึกษาประเทศสิงคโปร์
เปิดอ่าน 109,896 ครั้ง
จุดธูปกี่ดอกบอกอะไร?
จุดธูปกี่ดอกบอกอะไร?
เปิดอ่าน 109,815 ครั้ง
100อันดับโรงเรียนดีที่สุดปี58
100อันดับโรงเรียนดีที่สุดปี58
เปิดอ่าน 23,389 ครั้ง
มรดกโลกของไทย
มรดกโลกของไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ