ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิด การสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์ 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์ และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการ แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์

วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิด การสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์ ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย ระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์ และระยะที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้รูปแบบ “6S Model” จำนวน 12 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โครงงานวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3) แบบทดสอบวัดความความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 4) แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และ 5) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ของโรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 10 คน ได้มาด้วยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เพื่อการวิเคราะห์คุณภาพของเครื่องมือ ความพึงพอใจของนักเรียนต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ความเหมาะสมของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการทดสอบค่าที (Dependent Samples t-test) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน-หลังเรียน ด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์

สรุปผลการวิจัย

1. สภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์ ผลการวิจัยพบว่า

1.1 ปัญหาที่เกิดจากนักเรียน ได้แก่ การขาดทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา โดยเฉพาะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ การไม่สามารถวางแผนได้ด้วยตนเองเมื่อพบสถานการณ์ใหม่ ๆ การขาดพื้นฐานความรู้และการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการขาดความคิดริเริ่มและไม่กล้าแสดงออก

1.2 ปัญหาที่เกิดจากครูผู้สอน พบว่า ครูยังคงเน้นการสอนแบบท่องจำ ขาดการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในด้านเทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ และยังขาดแนวทาง ที่ชัดเจนในการจัดกิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

1.3 ปัญหาด้านนโยบาย ครูผู้สอนมีข้อจำกัดด้านเวลาและภาระงานที่นอกเหนือจากการสอน เนื่องจากนโยบายทางการศึกษาและภารกิจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ไม่สามารถส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนได้เต็มที่

1.4 ปัญหาที่เกิดจากการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อสมรรถนะและทักษะสำคัญ พบว่า สื่อการสอนและวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ครูผู้สอนนำมาใช้นั้นยังคง เน้นการท่องจำและการถ่ายทอดเนื้อหาเชิงทฤษฎีเป็นหลัก ทำให้นักเรียนขาดโอกาสในการฝึกฝนการคิด ทั้งการคิดวิเคราะห์ การคิดแก้ปัญหา และการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ส่งผลให้นักเรียนไม่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์จริงได้

2. รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถ ในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์ ที่พัฒนาขึ้น มีชื่อว่า “6S MODEL” มีองค์ประกอบของรูปแบบ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการและแนวคิด 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง 6) สิ่งสนับสนุน และ 7) เงื่อนไขของการนำรูปแบบไปใช้ ซึ่งกระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ขั้นที่ 1 จุดประกายความคิด (Sparkling: S) ขั้นที่ 2 ดุลพินิจเลือกเฟ้น (Selecting: S) ขั้นที่ 3 สืบค้นประเด็นที่เกี่ยวข้อง (Searching: S) ขั้นที่ 4 นำมาพาสู่การปฏิบัติ (Studying: S) ขั้นที่ 5 จัดองค์ความรู้ (Summarizing: S) ขั้นที่ 6 นำเสนอผลงาน (Showing: S) ผลการตรวจสอบประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 0.85 ซึ่งมีความสอดคล้อง ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบ พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.40 และผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์ มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.37/81.55 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรคของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า

3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 ความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านส้มป่อย ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตาม แนวความคิดการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยใช้โครงงานวิทยาศาสตร์ พบว่า ความพึงพอใจรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย 4.62 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.23)

โพสต์โดย ํYuGP : [25 ส.ค. 2568 (14:31 น.)]
อ่าน [57704] ไอพี : 223.205.223.73
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 25,750 ครั้ง
"มะรุม" พืชมหัศจรรย์
"มะรุม" พืชมหัศจรรย์

เปิดอ่าน 22,825 ครั้ง
หลักสูตรการสอบภาค ค ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558
หลักสูตรการสอบภาค ค ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558

เปิดอ่าน 7,000 ครั้ง
ดูโปรตั๋วเครื่องบินไปแม่สอด เที่ยวบินราคาประหยัด
ดูโปรตั๋วเครื่องบินไปแม่สอด เที่ยวบินราคาประหยัด

เปิดอ่าน 12,529 ครั้ง
ออกกำลังกันมะเร็งทรวงอก เฉพาะสตรีวัยทองที่มีรูปร่างสมส่วน
ออกกำลังกันมะเร็งทรวงอก เฉพาะสตรีวัยทองที่มีรูปร่างสมส่วน

เปิดอ่าน 27,528 ครั้ง
แบบก่อสร้างอาคารห้องสุมด ICT
แบบก่อสร้างอาคารห้องสุมด ICT

เปิดอ่าน 132,178 ครั้ง
เช็คให้ดี! "ฮวงจุ้ยห้องพระ" วางตรงไหนเหมาะ วางไม่ดีอาจทำเงินทองรั่วไหล
เช็คให้ดี! "ฮวงจุ้ยห้องพระ" วางตรงไหนเหมาะ วางไม่ดีอาจทำเงินทองรั่วไหล

เปิดอ่าน 9,787 ครั้ง
คนชอบนอนกลางวันสมองบรรเจิดจินตนาการ
คนชอบนอนกลางวันสมองบรรเจิดจินตนาการ

เปิดอ่าน 2,449 ครั้ง
การเรียนการสอนแบบ e-Learning
การเรียนการสอนแบบ e-Learning

เปิดอ่าน 12,060 ครั้ง
กินแบบไทย ไล่มะเร็ง
กินแบบไทย ไล่มะเร็ง

เปิดอ่าน 15,437 ครั้ง
ใครต้องฉีด วัคซีนป้องกันหวัด
ใครต้องฉีด วัคซีนป้องกันหวัด

เปิดอ่าน 73,812 ครั้ง
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562
ตัวอย่างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา และแผนการจัดประสบการณ์ ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2562

เปิดอ่าน 29,199 ครั้ง
สกิมเมอร์ : เทคโนโลยีโฉดเพื่อทรชน
สกิมเมอร์ : เทคโนโลยีโฉดเพื่อทรชน

เปิดอ่าน 19,047 ครั้ง
ชวนดู ฝนดาวตก โอไรโอนิดส์ Orionid Meteors shower
ชวนดู ฝนดาวตก โอไรโอนิดส์ Orionid Meteors shower

เปิดอ่าน 17,754 ครั้ง
ร่างพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ร่างพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

เปิดอ่าน 19,670 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง "รมว.ศึกษาฯ" กับนโยบายแก้ปัญหา โรงเรียน ICU จากรายการ ผชิญหน้า FaceTime (8 ก.พ. 2560)
รับชมย้อนหลัง "รมว.ศึกษาฯ" กับนโยบายแก้ปัญหา โรงเรียน ICU จากรายการ ผชิญหน้า FaceTime (8 ก.พ. 2560)

เปิดอ่าน 36,042 ครั้ง
ซื้อรถปี 2559 ราคาแพงขึ้นเท่าไหร่ คลิกอ่าน?
ซื้อรถปี 2559 ราคาแพงขึ้นเท่าไหร่ คลิกอ่าน?
เปิดอ่าน 12,632 ครั้ง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เปิดอ่าน 24,485 ครั้ง
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนถนัดขวามีมากกว่าคนถนัดซ้าย
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนถนัดขวามีมากกว่าคนถนัดซ้าย
เปิดอ่าน 63,105 ครั้ง
ไอเดียทำธุรกิจแบบอินดี้ ทำก่อน รวยก่อน!
ไอเดียทำธุรกิจแบบอินดี้ ทำก่อน รวยก่อน!
เปิดอ่าน 16,514 ครั้ง
ชา จริงๆ แล้วดีกว่าน้ำ
ชา จริงๆ แล้วดีกว่าน้ำ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ