เรื่อง รูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือ เพื่อป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงด้านยาเสพติด โรงเรียนโนนหันวิทยายน
ผู้ศึกษา นางสาวอรุณศรี ยิ่งยืน
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2566 - 2567
บทคัดย่อ
รูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือ เพื่อป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงด้านยาเสพติด โรงเรียนโนนหันวิทยายน มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพ การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความต้องการพัฒนาตนเองของครูด้านการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือ เพื่อป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงด้านยาเสพติด โรงเรียนโนนหันวิทยายน 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือ เพื่อป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงด้านยาเสพติด โรงเรียนโนนหันวิทยายน 4) เพื่อหาประสิทธิผลการพัฒนารูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือ เพื่อป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงด้านยาเสพติด โรงเรียนโนนหันวิทยายน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ระยะที่ 1 คือ ครูผู้สอน และบุคลากรในโรงเรียน รวมทั้งสิ้นจำนวน 54 คน ระยะที่ 2 ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง จำนวน 9 คน ระยะที่ 3 ประกอบด้วย ครูผู้สอน ตัวแทนนักเรียน กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน ตัวแทนผู้ปกครองของนักเรียน (ผู้ปกครองเครือข่าย) รวมทั้งสิ้น 64 คน ระยะที่ 4 บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาของโรงเรียนโนนหันวิทยายน จำนวน 102 คน การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้ การสอบถาม การสัมภาษณ์ การวิเคราะห์เอกสาร การสังเกตแบบมีส่วนร่วม และการบันทึกข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติการบรรยาย ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่ามัธยฐาน ค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ สถิติอนุมาน ได้แก่ การทดสอบด้วยค่าที ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า สภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ที่ดำเนินการต่อเนื่องของโรงเรียนโนนหันวิทยายน มีการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล สูงที่สุดและมีการระบุรายละเอียดที่จะประเมินและมิติการประเมินที่ครอบคลุมต่ำที่สุด สภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ที่ดำเนินการไม่ต่อเนื่องของโรงเรียนโนนหันวิทยายน มีการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ไม่ต่อเนื่องในเรื่อง มีการป้องกัน ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหานักเรียน ผลการศึกษาความต้องการในการพัฒนาตนเองเกี่ยวกับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า บุคลากรมีความต้องการ พัฒนาตนเองในการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
2. รูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือ เพื่อป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงด้านยาเสพติด โรงเรียนโนนหันวิทยายน มีโครสร้างรูปแบบ 6 องค์ประกอบ โดยใช้ชื่อรูปแบบว่า SHIELD MODEL ประกอบด้วย 1) ระบบสนับสนุนในโรงเรียน (School Supportive System: S) 2) การดูแลเชิงองค์รวม (Holistic Approach: H) 3) ระบบติดตามเชิงรุกแบบมีส่วนร่วม (Interactive Monitoring: I) 4) การมีส่วนร่วมของครอบครัวและเพื่อน (Engagement with Family & Peer: E) 5) เชื่อมโยงเครือข่ายภายนอก (Linkage with Community Network: L) และ 6) การพัฒนาเชิงบวก (Development through Positive Activities: D)
ผลการตรวจสอบประสิทธิภาพด้านความเหมาะสมของโครงสร้างของรูปแบบ 6 องค์ประกอบ มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด และความเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความสอดคล้องกัน เมื่อพิจารณาองค์ประกอบย่อย ด้านความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ความชัดเจน และ ความง่ายต่อการนำไปใช้มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด โดยผู้้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นสอดคล้องกัน ทุกประเด็น
3. การทดลองใช้รูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ตามแนวคิดการประเมินแบบเสริมพลัง (empowerment evaluation) พบว่า
3.1 ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ก่อนและหลังการทดลองใช้รูปแบบ พบว่าบุคลากรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน หลังการพัฒนา สูงกว่าก่อนการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.2 เจตคติต่อระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนก่อนและหลังการทดลองใช้รูปแบบ พบว่า บุคลากรมีค่าเฉลี่ยเจตคติต่อระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน หลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.3 ลักษณะระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ตามประเด็น 1) การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล 2) การคัดกรองนักเรียน 3) การป้องกันและแก้ไขปัญหา 4) การพัฒนาและการส่งเสริมนักเรียน 5) การส่งต่อ ซึ่งการขยายผลเกี่ยวกับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับการดำเนินการและขยายผลตามองค์ประกอบหลักและองค์ประกอบย่อย
3.4 คุณภาพของกระบวนระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า การประเมินคุณภาพของ รูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีคุณภาพด้านอรรถประโยชน์ ด้านความเหมาะสม ด้านความถูกต้องอยู่ในระดับมากที่สุดและระดับมาก ด้านความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก ด้านอรรถประโยชน์ มีความเห็นด้วยในระดับมากที่สุด
3.5 ผลกระทบของการดำเนินระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน จากการทดลองใช้รูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตามรายละเอียดข้างต้นทำให้เกิดผล คือ 1) บุคลากรที่เกี่ยวข้องมีความรู้ มีทักษะในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ตลอดจนมีความมั่นใจในการปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี มีการกำหนดบุคลากรเป็นคณะทำงานในเรื่องต่าง ๆ อย่างชัดเจน 2) มีระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหา การพัฒนาและการส่งเสริมนักเรียน และการส่งต่ออย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือจากผู้ปกครอง ผู้นำชมุชน ตำรวจ โรงพยาบาล 3) สถานศึกษา มีแนวปฏิบัติสำหรับการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ของปีการศึกษาต่อไปอย่างเป็นระบบ
4. ผลการประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้เครือข่ายความร่วมมือ เพื่อป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงด้านยาเสพติด โรงเรียนโนนหันวิทยายน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar = 4.53, S.D. = 0.41) และผลการประเมินระดับความพึงพอใจต่อประสิทธิผลของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (X-bar = 4.64, S.D. = 0.43)