เรื่อง รูปแบบการบริหารโรงเรียนในฐานะชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดขั้นสูง
โรงเรียนโนนหันวิทยายน
ผู้ศึกษา นางสาวอรุณศรี ยิ่งยืน
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2566 - 2567
บทคัดย่อ
รูปแบบการบริหารโรงเรียนในฐานะชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดขั้นสูง โรงเรียนโนนหันวิทยายนมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการดำเนินการบริหารโรงเรียนในฐานะชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดขั้นสูง โรงเรียนโนนหันวิทยายน 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนในฐานะชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดขั้นสูง โรงเรียนโนนหันวิทยายน 3) เพื่อนำรูปแบบไปใช้และศึกษาผลที่เกิดกับครูผู้สอน ในด้านความรู้ความเข้าใจ ในรูปแบบการบริหารโรงเรียนในฐานะชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) ความรู้ความความเข้าใจ สามารถของครูในการจัดกระบวนการเรียนรู้ทักษะการคิดขั้นสูง พฤติกรรมการสอน ผลงานการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ความร่วมมือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานของครู และผลการเรียนรู้พัฒนาทักษะการคิดขั้นสูงของนักเรียน 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการบริหารโรงเรียนในฐานะชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดขั้นสูง โรงเรียนโนนหันวิทยายน กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย รองผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 2 คน ครูผู้สอน จำนวน 52 คน นักเรียน จำนวน 828 คน ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) แหล่งข้อมูลที่ใช้ ในการศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหา ได้แก่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 2 คน ครู จำนวน 13 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง โดยเป็น ครูหัวหน้าฝ่าย 4 คน ครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้จำนวน 8 คน และครูแนะแนว จำนวน 1 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลในการสัมภาษณ์ ได้แก่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 2 คน ครู จำนวน 13 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง โดยเป็น ครูหัวหน้าฝ่าย 4 คน ครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้จำนวน 8 คน และครูแนะแนว จำนวน 1 คน นักเรียนจำนวน 24 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง โดยเป็นคณะกรรมการสภานักเรียน จำนวน 18 คน นักเรียนระดับชั้นละ 1 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ แบบทดสอบ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติวิจัยพื้นฐานได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. สภาพการดำเนินการบริหารโรงเรียนในฐานะชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดขั้นสูง โรงเรียน โนนหันวิทยายน ที่มีค่าเฉลี่ยโดยรวมสูงสุด คือ สถานศึกษาสนับสนุนให้ครูใช้การจัดการเรียนรู้ในรูปแบบการสอนคิด (Thinking School) มาใช้ในการจัดการเรียนรู้ คือ อบรม สัมมนาและศึกษาดูงานสำหรับครู คิดเป็นร้อยละ 95 รองลงมา คือ สถานศึกษากำหนดให้มีกระบวนการสร้างชุมชนแห่ง การเรียนรู้ทางวิชาชีพ คือ การจัดตั้งกลุ่ม PLC และการเปิดชั้นเรียน และกิจกรรมค่ายวิชาการเพื่อพัฒนาผู้เรียน คิดเป็นร้อยละ 82
2. รูปแบบการบริหารโรงเรียนในฐานะชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดขั้นสูง โดยใช้ชื่อรูปแบบว่า SLCHOTS MODEL ประกอบด้วย องค์ประกอบเชิงหลักการและปัจจัยสนับสนุน องค์ประกอบหลัก 4 องค์ประกอบ คือ 1) การเตรียมกรอบความคิด (Mindset) 2) การสร้างแรงบันดาลใจ (Inspiration) 3) ธรรมชาติของการเรียนรู้ (Nature of Learning) 4) การเสริมพลังในการทำงาน (Empowerment) และองค์ประกอบเชิงกระบวนการ 7 ขั้นตอน คือ 1) การวางแผนและกำหนดเป้าหมายร่วม (Shared Vision and Goal Setting: S) 2) การออกแบบและการพัฒนาการเรียนรู้ (Learning Design & Development: L) 3) การมีส่วนร่วมของชุมชนและเครือข่าย (Community and Network: C) 4) กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดขั้นสูง (Higher-Order Thinking Learning: H) 5) การติดตาม และนิเทศ (Ongoing Monitoring & Coaching: O) 6) การพัฒนาครูและบุคลากร (Teacher and Staff Development: T) และ 7) การประเมินผลและการปรับปรุง (Sustainable Evaluation and Improvement: S)
3. ผลการนำรูปแบบไปใช้และศึกษาผลที่เกิดกับครูผู้สอนในการจัดกระบวนการเรียนรู้ทักษะการคิดขั้นสูง ในด้านความรู้ความเข้าใจ พบว่า ครูมีความรู้ความเข้าใจในรูปแบบการบริหารโรงเรียนในฐานะชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) อยู่ในระดับดี (x̄ = 4.32, S.D. = 0.51) และมีความสามารถสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.71, S.D. = 0.44) มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ทักษะการคิดขั้นสูง อยู่ในระดับดี (x̄ = 4.44, S.D. = 0.41) ครูมีความสามารถในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับดีมาก (x̄ = 4.62, S.D. = 0.65) ความสามารถของครูในการจัดกระบวนการเรียนรู้ทักษะการคิดขั้นสูง อยู่ในระดับสูง (x̄ = 4.58, S.D. = 0.63) ครูมีพฤติกรรมการสอนอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.54, S.D. = 0.56) ด้านผลงานการพัฒนาการเรียนการสอนของครูพบว่า ครูทุกคนมีแผนการจัดการเรียนรู้ที่เสริมสร้างการคิดขั้นสูง ในระดับดี (x̄ = 4.56, S.D. = 0.61) ด้านความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การทำงานของครู พบว่า ครูมีความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันและมีการพัฒนาตนเองมากขึ้น ผลการเรียนรู้ทักษะการคิดขั้นสูงของนักเรียนพบว่า มีคะแนนความก้าวหน้าอยู่ในระดับสูง
4. ผลการประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารโรงเรียนในฐานะชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการคิดขั้นสูง พบว่า ครูมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄ = 4.66, S.D. = 0.47)