รายละเอียดการนำเสนอผลงานนวัตกรรม
1. ความสำคัญของผลงานนวัตกรรม
    การสื่อสารด้วยคำพูดเป็นพื้นฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ แต่ในปัจจุบันยังพบปัญหาการใช้ถ้อยคำของนักเรียนที่ไม่เหมาะสม เช่น การพูดไม่สุภาพ พูดไม่ตรงความจริง พูดโดยไม่คำนึงถึงความรับผิดชอบ หรือบางครั้งพูดในลักษณะที่บั่นทอนกำลังใจผู้อื่น ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนนักเรียนเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อบรรยากาศการเรียนรู้และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่โรงเรียนต้องการปลูกฝัง ดังนั้น จึงเกิดแรงบันดาลใจและความจำเป็นที่จะต้องจัดทำนวัตกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณธรรมด้านการพูดของผู้เรียนให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดยเชื่อมโยงกับคุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน เช่น ความพอเพียง ความกตัญญู ความซื่อสัตย์สุจริต และความรับผิดชอบ ตลอดจนสอดคล้องกับพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงเน้นว่า การพูดจาต้องสุภาพ อ่อนโยน และจริงใจ จึงจะสร้างความเข้าใจกันได้
โรงเรียนบ้านทุ่งนา (ยข.) เป็นโรงเรียนขนาดเล็กพิเศษที่มีนักเรียนส่วนใหญ่เติบโตท่ามกลางสภาพครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ขาดการดูแลเอาใจใส่จากผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้ผู้เรียนหลายคนขาดแบบอย่างที่ดีในการใช้คำพูดและการสื่อสาร เมื่อต้องอยู่ร่วมกันในโรงเรียนจึงมักเกิดปัญหาการพูดไม่สุภาพ การพูดโดยขาดความรับผิดชอบ หรือพูดบั่นทอนกำลังใจเพื่อน การที่นักเรียนไม่ได้รับการปลูกฝังด้านคุณธรรมการพูดจากครอบครัว ทำให้โรงเรียนจำเป็นต้องมีนวัตกรรมที่ช่วยเสริมสร้างพฤติกรรมการพูดที่ดี เพื่อชดเชยข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมทางสังคมและครอบครัว และปลูกฝังให้ผู้เรียนมีทักษะการสื่อสารเชิงบวกอย่างยั่งยืน
นวัตกรรม พูดดี ทำดี ด้วย PDTD MODEL ภายใต้วงจรคุณภาพ PDCA มีความสำคัญในฐานะเป็นเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาคุณธรรมด้านการพูดของนักเรียนอย่างเป็นระบบ โดยใช้กระบวนการ PDCA ในการบริหารจัดการ เริ่มจากการวางแผนกิจกรรมส่งเสริมการพูดดี (Plan) การจัดกิจกรรมฝึกปฏิบัติจริงตามกรอบ PDTD ได้แก่ พูดสุภาพ มีวินัย ซื่อสัตย์ และสร้างกำลังใจ (Do) การติดตามและประเมินผลพฤติกรรมของนักเรียน (Check) และการนำผลไปปรับปรุงพัฒนาให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น (Act) กระบวนการนี้ทำให้ผู้เรียนไม่เพียงแต่เรียนรู้ทักษะการสื่อสารเชิงบวก แต่ยังปลูกฝังคุณธรรมอัตลักษณ์ เช่น ความซื่อสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบ อันจะนำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมการพูดที่ดีในโรงเรียนอย่างยั่งยืน
ในการออกแบบและพัฒนานวัตกรรมดังกล่าว อาศัยแนวคิดและหลักการที่เกี่ยวข้องหลายประการ ได้แก่ ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของแบนดูรา (Social Learning Theory) ที่เน้นการเรียนรู้ผ่านการเลียนแบบและต้นแบบพฤติกรรม ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทครูผู้สอนที่ต้องเป็นแบบอย่างการพูดที่ดี ร่วมกับ ทฤษฎีการเสริมแรง (Reinforcement Theory) ที่ใช้การยกย่องและรางวัลเป็นแรงผลักดันให้ผู้เรียนพูดในทางบวก นอกจากนี้ยังบูรณาการแนวคิดการสื่อสารเชิงบวก (Positive Communication) ที่เน้นความสุภาพ ความจริงใจ และการสร้างแรงบันดาลใจ ตลอดจนใช้ วงจรคุณภาพ PDCA เป็นกระบวนการหลักในการวางแผน ปฏิบัติ ตรวจสอบ และปรับปรุง เพื่อให้การพัฒนานวัตกรรมเป็นระบบและต่อเนื่อง
2. จุดประสงค์และเป้าหมายของผลงานนวัตกรรม
2.1 จุดประสงค
1) เพื่อพัฒนานักเรียนให้มีคุณธรรมด้านการพูด โดยเน้นการพูดสุภาพ พูดด้วยความรับผิดชอบ พูดความจริง และพูดให้กำลังใจผู้อื่น
2) เพื่อสร้างบรรยากาศและวัฒนธรรมการสื่อสารที่ซื่อสัตย์และสร้างสรรค์ในโรงเรียน
3) เพื่อให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการใช้คำพูด เห็นคุณค่าของการสื่อสารเชิงคุณธรรม
2.2 เป้าหมาย
๒.๒.๑ เป้าหมายเชิงปริมาณ
- นักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งนา (ยข.) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 4 คน
๒.๒.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ
- นักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งนา (ยข.) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ร้อยละ 80 มีพฤติกรรมการพูดที่สุภาพและซื่อสัตย์มากขึ้น
3. กระบวนการผลิตผลงานหรือขั้นตอนการดำเนินงาน
P : Plan การวางแผนการดำเนินงาน
1. ประชุมชี้แจง สร้างความเข้าใจ กับกับนักเรียนทั้งชั้นเรียน เพื่อวางแผนการดำเนินงานตามอัตลักษณ์คุณธรรม (พูดดี ทำดี ด้วยความซื่อสัตย์)
2. ครูและนักเรียนร่วมกันศึกษาสภาพปัญหาและกำหนดแนวทางการส่งเสริมการพูดดี โดยใช้ PDTD เป็นกรอบ โดยการกำหนดกติกา นักเรียนต้องพูดด้วยถ้อยคำสุภาพและจริงใจ และวางแผนกิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรมการพูด
3. จัดหาทรัพยากรและงบประมาณ
D : DO การปฏิบัติงานตามแผน
1. ลงมือปฏิบัติตามแผน โดยสำรวจสภาพข้อมูลพื้นฐาน วิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลเพื่อการจัดการเรียนรู้ให้เต็มตามศักยภาพ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พูดดี ทำดี ด้วย PDTD Model ดังนี้
P - Polite Speech : นักเรียนฝึกกล่าวคำทักทายและขอบคุณในชีวิตประจำวัน ผ่านกิจกรรม Morning Talk พูดดีในยามเช้า
D - Disciplined Speech : จัดกิจกรรม สัญญาใจ ให้นักเรียนเลือกคำพูดที่ต้องรักษาความรับผิดชอบ เช่น ไม่พูดโกหก ไม่พูดหยาบคาย
T - Truthful Speech : ใช้การเล่าเหตุการณ์ประจำวัน โดยเน้นการเล่าความจริงไม่แต่งเติมผ่านการบอกเล่าเป็นคำพูดและผ่านการเขียนบันทึกในสมุดบันทึกประจำวัน
D - Delightful Speech : จัดกิจกรรม ชื่นชมด้วยหัวใจ นักเรียนพูดคำชมเชิงบวกให้เพื่อนวันละ 1 ครั้ง
C : Check การตรวจสอบการทำงาน
ครูติดตามพฤติกรรมของนักเรียน โดยใช้การประเมิน ดังนี้
1. แบบสังเกตการใช้ถ้อยคำระหว่างเรียน
2. การสะท้อนตนเองของนักเรียน (Self-Assessment) ผ่านการนำเสนอ
3. การประเมินเพื่อน (Peer Assessment) เช่น ให้เพื่อนโหวต ใครพูดให้กำลังใจเพื่อนได้มากที่สุด
A : Act การปรับปรุงแก้ไขพัฒนา
นำผลการตรวจสอบมาปรับกิจกรรม เช่น หากพบว่านักเรียนยังพูดไม่สุภาพ ครูจะจัดเวิร์กช็อปฝึกการใช้ถ้อยคำอ่อนโยนมากขึ้น หรือหากนักเรียนยังไม่กล้าพูดสร้างกำลังใจ จะเพิ่มกิจกรรม จับคู่ให้กำลังใจ เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้ถ้อยคำที่ดี และจัดพิธีมอบรางวัล นักพูดดี ทำดี เพื่อเป็นแรงเสริมเชิงบวก
4. ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ
๔.๑ ผลการดำเนินการ
๔.๑.๑ ผลผลิต (Output) : นักเรียน ร้อยละ ๑๐๐ มีคุณธรรมด้านการพูด พูดด้วยความรับผิดชอบ พูดความจริง และพูดให้กำลังใจผู้อื่น ผ่านตามเกณฑ์การประเมิน
๔.๑.๒ ผลลัพธ์ (Outcome) : นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการใช้คำพูด เห็นคุณค่าของการสื่อสารเชิงคุณธรรม พูดด้วยความสุภาพ ความซื่อสัตย์ มีความภูมิใจในตนเองที่สามารถพูดเป็นกำลังใจให้แก่ผู้อื่นได้
๔.๑.๓ ผลกระทบ (Impact) : จากการที่นักเรียนดำเนินการตามโครงการ ส่งผลให้ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์สูงขึ้น เนื่องมาจากนักเรียนใช้คำสุภาพและพูดจาด้วยคำที่ไพเราะมากยิ่งขึ้น ทำให้โรงเรียนเกิดวัฒนธรรมการสื่อสารเชิงคุณธรรม ปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งจากคำพูดลดลง
๔.๒ ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ
๔.๒.๑ นักเรียนมีคุณธรรมการพูดและทักษะชีวิตที่ดีขึ้นรวมถึงพัฒนาไปถึงคุณธรรมด้านอื่น ๆ
๔.๒.๒ โรงเรียนมีภาพลักษณ์เชิงบวก เป็นโรงเรียนคุณธรรมต้นแบบได้
5. ปัจจัยความสำเร็จ
๕.๑ ผู้บริหาร คระครูและบุคลากรทางการศึกษา มีความตระหนักถึงความสำคัญของการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ดังกำหนดไว้ในแผนพัฒนาคุณธรรมของโรงเรียน และคุณธรรมอัตลักษณ์ พูดดี ทำดี ด้วยความซื่อสัตย์
๕.๒ โรงเรียนมีโครงการหรือแผนงานด้านคุณธรรมชัดเจนดังกำหนดไว้ในแผนพัฒนาคุณธรรมของโรงเรียน
๕.๓ ครูผู้สอนผ่านการอบรมพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีการจัดการเรียนรู้บูรณาการคุณธรรม
๕.๔ นักเรียนสมาชิกในชั้นเรียน มีส่วนร่วมอย่างมากในการดำเนินงานโครงงานคุณธรรมประจำห้องเรียน กล้าคิด กล้าแสดงออก และกล้าที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง
๕.๕ ผู้ปกครองมีส่วนในการสนับสนุนการดำเนินงานของโรงเรียน ให้กำลังใจ ชื่นชนกับนักเรียน ตลอดจนส่งเสริมการทำความดีอย่างต่อเนื่อง
6. บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned)
๖.๑ ความรู้ ความเข้าใจ และความตั้งใจจริงของผู้บริหาร ด้านการงานพัฒนาคุณธรรม สู่การเป็นโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ดังกำหนดความสำคัญไว้ในวิสัยทัศน์ และพันธกิจของโรงเรียน ตลอดจนมีการกำหนดกรอบการดำเนินตามแผนพัฒนาคุณธรรมอย่างชัดเจน
๖.๒ ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะของครูและบุคลากรทางการศึกษา มีส่วนสำคัญที่จะทำให้การขับเคลื่อนโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. เกิดขึ้นได้จริง และประสบความสำเร็จ ครูและบุคลากรทางการศึกษาจึงจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญ และรูปแบบการดำเนินงานโรงเรียนคุณธรรม สพฐ.อย่างต่อเนื่อง
๖.๓ การคิดวิเคราะห์และพัฒนางานอย่างเป็นระบบและสร้างสรรค์บุคลากรทุกระดับของโรงเรียนต้องมีความกล้าที่จะคิดและสร้างสรรค์แนวทางใหม่ๆ ที่ผ่านการคิดวิเคราะห์แล้วว่าน่าจะเกิดผลสำเร็จ ในบริบทและข้อจำกัดต่างๆ ผ่านการร่วมคิด ร่วมตัดสินใจอย่างเป็นระบบและสามัคคีในทุกฝ่ายกลุ่มงาน
๖.๔ การสร้างการมีส่วนร่วมและการเรียนรู้ร่วมกันอย่างแท้จริง ระหว่างโรงเรียน ครู นักเรียน และผู้ปกครอง มีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนางานโรงเรียนคุณธรรม สพฐ.
6.5 การพูดด้วยคำพูดเล็ก ๆ ที่ดี สามารถสร้างแรงบันดาลใจและเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้เรียนได้