ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านค้อ)

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านค้อ)

ชื่อผู้วิจัย เพ็ญนภา สีหาโคตร

ปีที่ศึกษา 2567

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์เกี่ยวกับ การจัดการเรียนโดยบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพ 2) เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านค้อ) 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านค้อ) 4) เพื่อประเมินผลและถอดบทเรียนรูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านค้อ) ผู้ให้ข้อมูลหลักในสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์เกี่ยวกับ การจัดการเรียนโดยบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพ เป็นครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และนักเรียน รวม 19 คน ประชากรเป็น ครู 9 คน นักเรียน 52 คน และกลุ่มเป้าหมายในการถอดบทเรียน จำนวน 19 คน ประกอบด้วย ครู 9 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง 5 คน และนักเรียน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ รูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน แบบทดสอบ แบบประเมินความเหมาะสมรูปแบบ แบบประเมินการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น แบบประเมินการมีส่วนร่วมในการจัดการภูมิปัญญาท้องถิ่น แบบประเมินทักษะด้านอาชีพของนักเรียนและแบบประเมินความคิดเห็น วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ t – test (dependent) การวิเคราะห์เนื้อหา และการถอดบทเรียน ผลการวิจัยพบว่า

1. การศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์เกี่ยวกับการจัดการเรียนโดยบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพ พบว่า โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านค้อ) ต้องมีการบริหารจัดการโดยใช้แนวทางการมีส่วนร่วมของชุมชน บุคคลากรในชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้ที่มีความรู้ความสามารถต่างๆ ในท้องถิ่นมาช่วยในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นรูปธรรมอีกทั้งควรพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเน้นให้นักเรียนเกิดทักษะพื้นฐานที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ ที่ส่งเสริมให้บุคคลมีความรู้ ความเข้าใจ มีความสนใจและความถนัดที่สอดคล้องกับงาน และคุณลักษณะในการประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นนิสัยรักการทำงานและจริยธรรมในการทำงาน

2. ผลการสร้างรูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการ ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านค้อ) ในรูปแบบ PCCC Model ประกอบด้วย 1) การวางแผน และพัฒนาความรู้ (Planning and Development : P) 2) การมีส่วนร่วม (Community Participation : C) 3) การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น (Curriculum : C) 4) ทักษะอาชีพ (Career Skills : C)

3. การทดลองใช้รูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านค้อ) โดยดำเนินการการจัดอบรม การบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน ทำการทดสอบก่อนและหลังการอบรม พบว่า การทดสอบความรู้ความสามารถของครูก่อนและหลังการอบรม มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 9.89 และหลังอบรม 16.44 เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังการอบรม พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01

4. การประเมินผลและถอดบทเรียนรูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านค้อ)

1) ประเมินระดับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก

2) ประเมินการมีส่วนร่วมในการจัดการภูมิปัญญาท้องถิ่นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก

3) ประเมินทักษะด้านอาชีพของนักเรียนค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก

4) ประเมินความคิดเห็นของครูที่มีต่อรูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก

5) ประเมินความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก

การถอดบทเรียน พบว่า กิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนได้ให้ชุมชน แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง การพัฒนาครูให้มีความรู้ทางด้านการจัดกิจกรรมการสอน ผลที่ได้จากการพัฒนาครูให้มีความรู้ความสามารถ และสามารถนำทักษะความรู้ต่างๆ ย้อนกลับลงสู่นักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่รู้มากขึ้น นักเรียนมีความรู้ ตามสาระการเรียนรู้ที่เรียน และมีทักษะการเรียนรู้ ทักษะในการแก้ปัญหาที่ไปสู่การเรียนรู้ที่ยั่งยืน นักเรียนมีความพึงพอใจในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทำให้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ทั้งระดับสถานศึกษาและระดับระดับชาติ ในการดำเนินงานการพัฒนารูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน กิจกรรมการจัดการเรียนการสอนต่างๆ ของโรงเรียน โรงเรียนได้ให้บุคลากรต่างๆ รวมทั้งชุมชนได้เข้ามามี ส่วนร่วมในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ของนักเรียน ผลที่ได้จากการพัฒนารูปแบบการบริหารเชิงสร้างสรรค์อย่างมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตและอาชีพของนักเรียน จึงสอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและนักเรียนโดยตรง ทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี

ชื่อเรื่อง การประเมินผลและถอดบทเรียนโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมโดยใช้หลักศาสตร์พระราชาเพื่อเสริมสร้างโรงเรียนพอเพียงท้องถิ่น โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านค้อ)

ชื่อผู้ประเมิน เพ็ญนภา สีหาโคตร

ปีที่ศึกษา 2567

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมโดยใช้หลักศาสตร์พระราชาเพื่อเสริมสร้างโรงเรียนพอเพียงท้องถิ่น โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านค้อ) ในด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต ด้านผลกระทบ ด้านประสิทธิผล ด้านความยั่งยืน และด้านการถ่ายโยงความรู้ 2) ศึกษาแนวทาง การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมโดยใช้หลักศาสตร์พระราชา รูปแบบการประเมินเป็นการวิจัยเชิงประเมินโดยใช้รูปแบบการประเมิน CIPPiest ของ Stufflebeam ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์สรุปตีความผล การประเมิน กลุ่มประชากรที่ใช้ในการศึกษาจำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ ครู 9 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง 59 คน และนักเรียน 52 คน ทดลอง ปีการศึกษา 2567 ข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) กับผู้ให้ข้อมูลหลัก ประกอบด้วย ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง และนักเรียน จำนวน 19 คน โดยการคัดเลือกแบบเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้ในการประเมิน ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการประเมินโครงการพบว่า 1) ด้านบริบท ครูมีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานโครงการระดับมาก 2) ด้านปัจจัยนำเข้า ครูมีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานโครงการระดับมาก 3) ด้านกระบวนการ ครูมีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานโครงการในระดับมาก 4) ด้านผลผลิต ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง และนักเรียน มีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานโครงการในระดับมาก 5) ด้านผลกระทบ ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง และนักเรียน มีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานโครงการในระดับมาก 6) ด้านประสิทธิผล ครูมีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานโครงการในระดับมาก 7) ด้านความยั่งยืน ครูมีความคิดเห็นต่อการดำเนินโครงการ ในระดับมาก 8) ด้านการถ่ายโยงความรู้ ครูมีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานโครงการอยู่ในระดับมาก ส่วนแนวทางการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมโดยใช้หลักศาสตร์พระราชา พบว่า ควรยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นหนึ่งในหลักศาสตร์พระราชา โดยใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างพอดี คุ้มค่า และไม่สิ้นเปลือง วางแผนการใช้ไฟฟ้า น้ำ และวัสดุสิ้นเปลืองด้วยข้อมูล ที่ถูกต้อง พร้อมทั้งสร้างระบบติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง โรงเรียนควรปลูกฝังจิตสำนึกให้ครู นักเรียน และบุคลากรเห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรม เช่น การจัดการขยะ การปลูกต้นไม้ และการใช้นวัตกรรมพลังงานทดแทน ทั้งนี้ต้องส่งเสริมความรู้ ควบคู่กับคุณธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อสร้างวัฒนธรรมการอนุรักษ์ที่ยั่งยืน และเป็นแบบอย่างแก่ชุมชนโดยรอบ

โพสต์โดย จั๊ม : [15 ส.ค. 2568 (11:32 น.)]
อ่าน [58831] ไอพี : 61.7.138.210
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 41,665 ครั้ง
อาจารย์หม่า ปรมาจารย์ฮวงจุ้ย แนะวิธีเสริมฮวงจุ้ย แก้ปีชง (ชม Clip)
อาจารย์หม่า ปรมาจารย์ฮวงจุ้ย แนะวิธีเสริมฮวงจุ้ย แก้ปีชง (ชม Clip)

เปิดอ่าน 8,975 ครั้ง
ประเด็น ปัญหาธุรกิจรับจ้างทำการบ้าน
ประเด็น ปัญหาธุรกิจรับจ้างทำการบ้าน

เปิดอ่าน 2,569 ครั้ง
การหลับตา ช่วยให้จำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น
การหลับตา ช่วยให้จำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น

เปิดอ่าน 30,731 ครั้ง
7 ยี่ห้อน้ำดื่มไฮโซ แพงที่สุดในโลก
7 ยี่ห้อน้ำดื่มไฮโซ แพงที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 17,801 ครั้ง
รู้ทันดอกเบี้ยบัตรเครดิต คิดให้ดีก่อนรูด
รู้ทันดอกเบี้ยบัตรเครดิต คิดให้ดีก่อนรูด

เปิดอ่าน 14,818 ครั้ง
น้ำนมถั่วเหลือง ช่วยผิวสวย-หุ่นดี จายภายใน
น้ำนมถั่วเหลือง ช่วยผิวสวย-หุ่นดี จายภายใน

เปิดอ่าน 85,398 ครั้ง
10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์
10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 72,504 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 16 การเตะเข้าเล่น
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 16 การเตะเข้าเล่น

เปิดอ่าน 16,613 ครั้ง
อวสาน Hotmail ไมโครซอฟท์เปิดตัว Outlook.com แล้ว
อวสาน Hotmail ไมโครซอฟท์เปิดตัว Outlook.com แล้ว

เปิดอ่าน 5,982 ครั้ง
6 ทักษะจำเป็นสู่ความสำเร็จในอนาคตยุคดิจิทัล
6 ทักษะจำเป็นสู่ความสำเร็จในอนาคตยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 62,505 ครั้ง
ประเทศที่ประสบความสำเร็จเขาดูแลครูอย่างไร
ประเทศที่ประสบความสำเร็จเขาดูแลครูอย่างไร

เปิดอ่าน 14,611 ครั้ง
ดูโอ้ลูกเสือไทย ดีดกีตาร์โชว์เพลง BALADA เป๊ะมาก ๆ
ดูโอ้ลูกเสือไทย ดีดกีตาร์โชว์เพลง BALADA เป๊ะมาก ๆ

เปิดอ่าน 116,573 ครั้ง
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับป้ายบอกสถานที่และชื่อห้องในโรงเรียน
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับป้ายบอกสถานที่และชื่อห้องในโรงเรียน

เปิดอ่าน 15,217 ครั้ง
ลายมือมีพลัง
ลายมือมีพลัง

เปิดอ่าน 15,056 ครั้ง
ผู้เรียนและสังคมได้อะไร จากนโยบาย"ลดเวลาเรียน เพิ่มการเรียนรู้"
ผู้เรียนและสังคมได้อะไร จากนโยบาย"ลดเวลาเรียน เพิ่มการเรียนรู้"

เปิดอ่าน 10,297 ครั้ง
นั่งนานทำให้เป็นคนขี้โรค
นั่งนานทำให้เป็นคนขี้โรค
เปิดอ่าน 106,090 ครั้ง
เมื่อภาษาไทยไม่มีสระไม่เว้นวรรค ดูซิว่าอ่านยากขนาดไหน?
เมื่อภาษาไทยไม่มีสระไม่เว้นวรรค ดูซิว่าอ่านยากขนาดไหน?
เปิดอ่าน 28,983 ครั้ง
ทำไมจึงไม่บรรจุน้ำอัดลมให้เต็มขวด?
ทำไมจึงไม่บรรจุน้ำอัดลมให้เต็มขวด?
เปิดอ่าน 3,472 ครั้ง
เปิด 4 เคล็ด (ไม่) ลับ บริหารคนยุค New Normal ความท้าทายของ HR ทุกองค์กร
เปิด 4 เคล็ด (ไม่) ลับ บริหารคนยุค New Normal ความท้าทายของ HR ทุกองค์กร
เปิดอ่าน 13,671 ครั้ง
อ้วนลงพุงกินอย่างไรให้เหมาะสม
อ้วนลงพุงกินอย่างไรให้เหมาะสม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ