ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานผลการดำเนินงานวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เรื่องการพัฒนาผลสัมฤทธิ์เรื่องการคูณโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบราโอ (สาขากูนิง)

ความสำคัญของผลงาน นวัตกรรม

คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาความคิดของมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผนและสามารถวิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ทำให้สามารถคาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหาและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังเป็นเครื่องมือในการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อื่นๆ ดังนั้นคณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551)

วิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาหนึ่งในกลุ่มทักษะที่เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ คือเป็นวิชาที่จะนำไปสู่การเรียนรู้ในกลุ่มประสบการณ์อื่นๆ และการเรียนในระดับสูง เป็นวิชาที่ช่วยพัฒนาคนให้รู้จักคิด คิดเป็น และช่วยสร้างเสริมคุณลักษณะอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น การสังเกต ความละเอียด ถี่ถ้วน แม่นยำ มีสมาธิและรู้จักแก้ปัญหา (วนัญชนา เชิงดี, 2555) ซึ่งจากความสำคัญของวิชาคณิตศาสตร์และหลักสูตรที่ได้กำหนดองค์ความรู้ ทักษะและคุณลักษณะที่สำคัญไว้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่นักเรียนควรได้รับการส่งเสริมให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะในวิชานี้ ตลอดจนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อตัดสินใจแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ (นพดล ฤมิสตรี, 2555) แต่มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่มองว่าคณิตศาสตร์เป็นเรื่องยากและน่าเบื่อ ทำให้เด็กขาดความสนใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ส่งผลให้การจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

ภาพรวมของการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ในโรงเรียนยังเป็นปัญหา ปัญหาหลักที่เห็นสอดคล้องกันทั้งนักการศึกษาและคนทั่วไปก็คือ วิธีการสอนหรือแนวทางการสอนยังเน้นการถ่ายทอดเนื้อหาสาระไปสู่นักเรียนโดยยึดครูเป็นศูนย์กลาง ลักษณะของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผ่านมาครูเป็นผู้อธิบายหรือบอกแนวทางการแก้ปัญหา หรือเทคนิคการแก้ปัญหาเพื่อให้ได้คำตอบ กล่าวได้ว่า ความพยายามเกี่ยวกับปัจจัยการจัดกาเรียนการสอนเพื่อจะแก้ปัญหาการศึกษาไทย ก็ยังไม่มีตัวชี้วัดว่าประสบความสำแร็จ (ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์, 2557) สังเกตได้จากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2566 มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 66.50 (โรงเรียนบ้านบราโอ (สาขากูนิง), 2567) ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของสถานศึกษาที่ตั้งไว้เท่ากับร้อยละ 70 และจากการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง การคูณของจำนวนนับ พบว่า นักเรียนมีข้อผิดพลาดในการหาผลคูณของจำนวนนับโดยวิธีการคูณในแนวตั้ง เช่น การวางผลคูณผิดตำแหน่ง การทดเลขผิดตำแหน่ง นักเรียนมีปัญหาเรื่อง การคูณจำนวนที่มีค่ามาก เป็นต้น ปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการเรียนคณิตศาสตร์ในทุกระดับชั้นและส่งผลต่อเนื่องไปยังการเรียนในระดับที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อการคิดคำนวณและการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันอีกด้วย

ดังนั้นผู้สอนจึงต้องใช้เทคนิคในการสอนรูปแบบใหม่และน่าสนใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้สามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนได้ ซึ่งเทคนิคการคูณแบบแลททิซเป็นอีกเทคนิคหนึ่ง ที่อาจช่วยให้นักเรียน สามารถคูณเลขที่ซับซ้อนได้ ซึ่งวิธีดังกล่าวช่วยลดปัญหาเรื่องการทด และการวางตำแหน่งผิดพลาด ทั้งยังช่วยลดความสับสนของนักเรียนอีกด้วย เทคนิคการคูณแบบแลททิซเป็นการจับคู่คูณกันของตัวตั้งและตัวคูณทีละคู่ แล้วใส่ผลลัพธ์ที่ได้ในช่องตารางที่มีเส้นทแยงมุมอยู่ข้างใน เมื่อคูณกันครบทุกช่องตารางแล้วให้นำตัวเลขที่อยู่ในแนวทแยงเดียวกันมาบวกกันได้เป็นผลคูณเช่นเดียวกับวิธีอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์เรื่องการคูณเพิ่มสูงขึ้น

จากความสำคัญและเหตุผลดังกล่าวข้างต้นผู้เสนอผลงานจึงได้จัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ เรื่องการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบราโอ (สาขากูนิง)

จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน

จุดประสงค์ของการดำเนินงาน

เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์เรื่องการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ

เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนเรื่องการคูณโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ

เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ต่อการจัดการเรียนการสอนเรื่องการคูณโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ

เป้าหมายของการดำเนินงาน

เป้าหมายเชิงปริมาณ

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ร้อยละ 80 ที่เรียนเรื่องการคูณโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ มีผลสัมฤทธิ์ เรื่องการคูณสูงกว่าเกณฑ์ (ร้อยละ 70)

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ร้อยละ 100 ที่เรียนเรื่องการคูณโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ร้อยละ 80 มีความพึงพอใจต่อการเรียนเรื่องการคูณโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ ในระดับมาก

เป้าหมายเชิงคุณภาพ

การจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์เรื่องการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพิ่มขึ้น

นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข และมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์

ขั้นตอนการดำเนินงาน

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์เรื่องการคูณโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบราโอ (สาขากูนิง) ได้นำวงจรการบริหารงานคุณภาพ PDCA มาใช้ดังนี้

ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมการ (Plan)

ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง

แนวคิดของเทคนิคการคูณแบบแลททิซ

การคูณแบบแลททิซเป็นส่วนหนึ่งของเวทคณิตในคัมภีร์โบราณในการคิดเลขเร็วของอินเดียซึ่งประกอบด้วยสูตร 16 สูตรที่เกี่ยวกับการบวก การลบ การคูณ และการหาร โดยเวทคณิตเป็นสาขาหนึ่งของอรรพเวท ซึ่งเป็นหนึ่งในพระเวททั้ง 4 ได้แก่ ฤคเวท สามเวท ยชุรเวท และอถรรพเวท โดยถูกค้นพบขึ้นมาอีกครั้งจากต้นฉบับสันสกฤต ระหว่างปี ค.ศ. 1911 – ค.ศ. 1918 (นภดล ฤมิสตรี, 2555) ความหมายของเวทคณิต เวทคณิต อ่านว่า เวด - คะ - นิด หรือ เวด - ทะ – คะ - นิด (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551)ความหมายของเวทคณิตดังนี้ เวท แปลว่า ความรู้ คณิต แปลว่า การคํานวณ เวทคณิต แปลว่า ความรู้การคํานวณ

ความสำคัญของการคูณแบบแลททิซ

การคูณแบบแลททิซเป็นสูตรหนึ่งของเวทคณิต ในสมัยโบราณถือว่าพระเวทเป็นต้นกำเนิดแห่งศาสตร์ทั้งปวง การแก้ปัญหาเกี่ยวกับคณิตศาสตร์โดยใช้เวทคณิตเป็นไปในทิศทางที่เรียบง่าย ด้วยวิธีตามธรรมชาติ สามารถที่จะสร้างพลังทางความคิดในสมองให้มีการสร้างสรรค์และเฉลียวฉลาด ช่วยให้จดจำสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เป็นการฝึกที่ใช้กฎเกณฑ์ของธรรมชาติที่ธรรมดา เด็กๆ สามารถทำได้ เป็นอุปกรณ์ทางจิตในการคิดคำนวณที่พัฒนาเปลี่ยนแปลงได้ ปรับให้เหมาะสมกับนักเรียน ทำให้นักเรียนสนุกและรู้สึกสบายใจจากการฝึกฝนหรือการนำไปใช้เป็นพื้นฐานในการเรียนสาขาอื่น ทำให้ผู้ที่ฝึกเวทคณิตมีโลกทัศน์ที่กว้างขวางเฉียบคม ฉับไว และมองเห็นธรรมปัญญาได้ลึกซึ้งขึ้น และในปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกได้นำเวทคณิตมาใช้สอนนักเรียนอย่างกว้างขวาง และนักเรียนรู้สึกว่าเป็นสิ่งช่วยพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยฝึกระบบสมองให้เป็นระเบียบ ชัดเจน

ข้อดีของการคูณแบบแลททิซ

ช่วยลดปัญหาของการวางตำแหน่งที่ผิดของผลคูณ

ลดปัญหาของการทดเลขในตำแหน่งที่ผิด

ขั้นตอนไม่ยุ่งยากซับซ้อน

ขั้นตอนของเทคนิคการคูณแบบแลททิซ

สร้างตาราง ตามจำนวนของตัวตั้งและตัวคูณ ในแต่ละช่องตารางให้ขีดเส้นทแยงมุมจากมุมบนด้านขวามามุมล่างด้านซ้าย เป็นรูปสามเหลี่ยม ซึ่งเฉียงเป็นแนวเดียวกันทุกช่อง

ตัวอย่าง นักเรียนต้องหาผลลัพธ์จากโจทย์ 85 × 13

ภาพที่ 1 ขั้นตอนการสร้างตารางของเทคนิคการคูณแบบแลททิซ

เขียนเลขโดดในแต่ละหลักของตัวตั้งกำกับไว้ด้านบนแต่ละหลัก และเขียนเลขโดดในแต่ละหลักของตัวคูณกำกับไว้ด้านขวาของแต่ละแถว

ภาพที่ 2 ขั้นตอนการเขียนเลขโดดกำกับไว้ที่ตาราง

หาผลคูณของเลขโดดที่กำกับไว้ด้านบนและด้านข้าง ใส่หลักหน่วยลงในช่องย่อยขวาล่าง และใส่หลักสิบลงในช่องย่อยซ้ายบน ถ้าไม่มีหลักหน่วยให้ใส่ศูนย์ ถ้าไม่มีหลักสิบให้เว้นไว้หรือใส่ศูนย์ก็ได้

ภาพที่ 3 ขั้นตอนการใส่ตัวเลขจากการใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซ

ให้บวกแต่ละจำนวนในแต่ละแนวทแยง โดยเริ่มจากแนวทแยงขวาล่างสุดก่อน แล้วหาผลบวก

แนวทแยงถัดไป (หลักสิบ ร้อย …) ถ้าผลบวกในหลักใดเกิน 10 ก็ทดไปแนวทแยงต่อไป

ภาพที่ 4 ขั้นตอนการบวกตามแนวทแยงของเทคนิคการคูณแบบแลททิซ

นำผลบวกในแนวทแยงมาเขียนต่อกัน โดยเขียนเรียงเลขในแนวตัวแอลใหญ่ L จะได้คำตอบคือ 1105

ตัวอย่างที่ 1 23 × 5 =

ดังนั้น 23 × 5 = 115

จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการคูณโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อ การเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งเป็นแผนการจัด การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ผ่านเทคนิควิธี การคูณแบบแลททิซ และใช้สื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ

ผลิตสื่อการเรียนรู้ กระดานแลททิซพิชิตการคูณ

1) ออกแบบสื่อกระดานแลททิซและบัตรตัวเลขให้เหมาะสมเนื้อหาการคูณแบบแลททิซตามที่ได้ศึกษาเอกสารมาแล้วและวัยของนักเรียน

2) ประดิษฐ์สื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณตามแบบที่ได้วางแผนไว้ โดยใช้แผ่นกระดานที่ผ่านการใช้งานแล้วมารีไซเคิลโดยการทาสีเป็นตารางแลททิซแยกสีที่แตกต่าง ๆ กัน เพื่อให้เกิดความสะดวกในการคำนวณและหาคำตอบ นอกจากนี้ยังใช้กระดาษหน้าเดียวมาทำบัตรตัวเลขเพื่อเป็น การใช้ทรัพยากรที่มีอย่างประหยัดและคุ้มค่า

สื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณและบัตรตัวเลขที่เสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งาน

ทดลองใช้กับนักเรียนกลุ่มเล็กเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของสื่อการเรียนรู้แล้วปรับปรุงแก้ไขจนได้สื่อการเรียนรู้ที่นักเรียนสามารถนำไปใช้ได้ง่าย สะดวก และมีคุณภาพ

ขั้นที่ 2 ขั้นดำเนินการ (Do)

1. ดำเนินการจัดการเรียนการสอนและเก็บรวบรวมข้อมูล

1) ทดสอบก่อนเรียน (Pretest) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการคูณ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบราโอ (สาขากูนิง) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 12 คน โดยใช้เวลาในการทดสอบ 1 ชั่วโมง แล้วบันทึกคะแนนเก็บไว้เปรียบเทียบกับคะแนนทดสอบหลังเรียน

2) ดำเนินการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซเรื่องการคูณควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ได้จัดทำขึ้น ซึ่งมีการวัดผลและประเมินผลระหว่างทำกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยการทำแบบฝึกหัด ใช้เวลา 16 ชั่วโมง ไม่รวมทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน

3) เมื่อดำเนินการจัดการเรียนการสอนเรียบร้อยแล้วจึงดำเนินการทดสอบหลังเรียน (Posttest) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการคูณ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบราโอ (สาขากูนิง) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 12 คน โดยใช้เวลาในการทดสอบ 1 ชั่วโมง แล้วบันทึกคะแนน

4) นำแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซเรื่องการคูณควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ โดยใช้แบบสอบถามให้นักเรียนทำการประเมิน

5) นำผลคะแนนที่ได้จากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซเรื่องการคูณควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ และ การประเมินความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซเรื่องการคูณควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ ของนักเรียนมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการทางสถิติ

ขั้นที่ 3 ขั้นการตรวจสอบประเมินผล (Check)

สังเกตและตรวจสอบผลการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทุกครั้ง

เปรียบเทียบคะแนนสอบก่อนเรียนและหลังเรียน

ประเมินความก้าวหน้าขององค์ความรู้ของนักเรียนเป็นระยะ ๆ ผ่านการทำแบบฝึกหัดในทุกคาบเรียน

ขั้นที่ 4 ขั้นรายงานผลเพื่อการปรับปรุงพัฒนา (Action)

สรุปรายงานผลการจัดการเรียนรู้ และผลการประเมินการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

นำผลการประเมินมาวิเคราะห์ร่วมกันเพื่อสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนพัฒนาในปีต่อไป

4. ผลการดำเนินงาน ผลสัมฤทธิ์ ประโยชน์ที่ได้รับ

4.1 ผลที่เกิดตามจุดประสงค์

จากการดำเนินการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์เรื่องการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ผลดังนี้

1) ผลสัมฤทธิ์เรื่องการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์เรื่องการคูณเฉลี่ย 8.25 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.50 และจำนวนนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์เรื่องการคูณตามเกณฑ์ร้อยละ70 ขึ้นไป มีจำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 91.67

2) ผลการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนเรื่องการคูณโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ พบว่า ก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 4.00 คิดเป็นร้อยละ 40 หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 8.25 คิดเป็นร้อยละ 82.50 มีค่าความพัฒนาเฉลี่ย 4.25 คิดเป็นร้อยละ 42.50 ดังนั้นคะแนนหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผ่านการจัดการเรียน การสอนเรื่องการคูณโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิต การคูณ สูงกว่าก่อนเรียน

3) ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ต่อการจัดการเรียนการสอนเรื่องการคูณโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจต่อการการจัดการเรียนการสอนเรื่องการคูณโดยใช้เทคนิคการคูณแบบแลททิซควบคู่กับสื่อการเรียนรู้กระดานแลททิซพิชิตการคูณ มีช่วงของค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 3.92 – 4.92 โดยรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ สื่อการสอนมีความชัดเจน เข้าใจง่าย มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจสูงสุดเท่ากับ 4.92 ความพึงพอใจภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.46

โพสต์โดย ครูนี : [14 ส.ค. 2568 (18:19 น.)]
อ่าน [58743] ไอพี : 159.192.42.252
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,011 ครั้ง
ระวัง "โทรจัน" จากอีเมลโอลิมปิก
ระวัง "โทรจัน" จากอีเมลโอลิมปิก

เปิดอ่าน 25,594 ครั้ง
รวมตำนานอิทธิฤทธิ์ ขุนโจรพันธุ์เสือ ตำนานโรบินฮู้ดเมืองไทย
รวมตำนานอิทธิฤทธิ์ ขุนโจรพันธุ์เสือ ตำนานโรบินฮู้ดเมืองไทย

เปิดอ่าน 41,471 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงานและการประชุมระหว่างประเทศ(ฉบับที่3)2555
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงานและการประชุมระหว่างประเทศ(ฉบับที่3)2555

เปิดอ่าน 2,063 ครั้ง
"สมาคมธนาคารไทย" แนะ 6 วิธีป้องกันแอปดูดเงิน
"สมาคมธนาคารไทย" แนะ 6 วิธีป้องกันแอปดูดเงิน

เปิดอ่าน 21,466 ครั้ง
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร

เปิดอ่าน 12,461 ครั้ง
เปิดตัว Google Instant ค้นหาข้อมูลเร็วกว่าเดิม
เปิดตัว Google Instant ค้นหาข้อมูลเร็วกว่าเดิม

เปิดอ่าน 14,772 ครั้ง
สับปะรดมีเอ็นไซม์ช่วยย่อยจากธรรมชาติ
สับปะรดมีเอ็นไซม์ช่วยย่อยจากธรรมชาติ

เปิดอ่าน 38,805 ครั้ง
วิธีเขียนอีเมล์เป็นภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
วิธีเขียนอีเมล์เป็นภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

เปิดอ่าน 84,310 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลคนเป็นลม
วิธีปฐมพยาบาลคนเป็นลม

เปิดอ่าน 11,573 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์
ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์

เปิดอ่าน 14,588 ครั้ง
8 กลเม็ดใช้ชีวิตปลอดหนี้!!!...
8 กลเม็ดใช้ชีวิตปลอดหนี้!!!...

เปิดอ่าน 1,236 ครั้ง
วางแผนการเงินฉบับคนรุ่นใหม่ จัดการหนี้ยังไงให้ชีวิตไม่สะดุด
วางแผนการเงินฉบับคนรุ่นใหม่ จัดการหนี้ยังไงให้ชีวิตไม่สะดุด

เปิดอ่าน 22,559 ครั้ง
หลากวิตามินพิชิตเบาหวาน หยุดน้ำตาลพุ่งสูง ก่อนสายเกินแก้
หลากวิตามินพิชิตเบาหวาน หยุดน้ำตาลพุ่งสูง ก่อนสายเกินแก้

เปิดอ่าน 11,680 ครั้ง
ตัดวงจรเครียด...ก่อนระเบิด
ตัดวงจรเครียด...ก่อนระเบิด

เปิดอ่าน 18,913 ครั้ง
ประโยชน์ของทุเรียน
ประโยชน์ของทุเรียน

เปิดอ่าน 15,429 ครั้ง
วิธีคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก-ไม่ขม
วิธีคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก-ไม่ขม
เปิดอ่าน 29,533 ครั้ง
ตัวถ่วงความเจริญการศึกษาไทย
ตัวถ่วงความเจริญการศึกษาไทย
เปิดอ่าน 206,497 ครั้ง
สูตรมะนาวโซดา 10 วิธีทำน้ำมะนาวโซดาเครื่องดื่มล้างพิษ
สูตรมะนาวโซดา 10 วิธีทำน้ำมะนาวโซดาเครื่องดื่มล้างพิษ
เปิดอ่าน 12,894 ครั้ง
อาหารที่ทำให้ดูสวย
อาหารที่ทำให้ดูสวย
เปิดอ่าน 20,561 ครั้ง
เผยวิธีคิดแบบคนเก่ง
เผยวิธีคิดแบบคนเก่ง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ