ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครู เพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะดังนี้ 1)เพื่อศึกษาสภาพ ปัจจัยและแนวทางที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม 2)เพื่อสร้างและตรวจสอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม 3)เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม 4)เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาสภาพ ปัจจัย และแนวทางที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชมขั้นตอนที่ 2 การสร้างและตรวจสอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม ขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อ มูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพ ปัจจัย และแนวทางที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม

1.1 ผลการศึกษาสภาพ ปัจจัย ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม

1) ผลการศึกษาสภาพที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม ในภาพรวม มีการปฏิบัติอยู่ในระดับน้อย เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับน้อย เมื่อเรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมาก ไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง ด้านผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ ด้านพัฒนาทักษะการคิดระดับสูง ด้านวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายและน่าสนใจ ด้านการเรียนรู้ด้วยตนเองและสร้างองค์ความรู้เอง และ ด้านการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครู

2) ผลการศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่นระดับน้อย เมื่อเรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านครูผู้สอน รองลงมาได้แก่ ด้านผู้บริหาร รองลงมาได้แก่ ด้านวัสดุอุปกรณ์ และด้านนักเรียน

1.2 ผลการศึกษาแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม 1) ด้านผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ ครูควรใช้คำถามหลากหลายและบรรยากาศเป็นมิตร พร้อมกิจกรรมกลุ่มย่อยให้ผู้เรียนกล้าแสดงความคิดเห็น ตัวอย่างกิจกรรม เช่น Brainstorming, Kahoot/Quizizz, Think–Pair–Share เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม 2) ด้านพัฒนาทักษะการคิดระดับสูง ควรใช้กรณีศึกษาและสถานการณ์จำลองเพื่อฝึกคิดวิเคราะห์และสะท้อนคิดหลังทำกิจกรรม ออกแบบโครงงานจากปัญหาจริงในชุมชนให้ผู้เรียนวางแผน รวบรวมข้อมูล และแก้ปัญหา 3) ด้านวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายและน่าสนใจ ควรบูรณาการกับวิถีชีวิตท้องถิ่นและใช้แหล่งเรียนรู้ชุมชนเป็นฐาน ใช้สื่อดิจิทัลผสมสื่อพื้นบ้าน เช่น วิดีโอ อินโฟกราฟิก เกม และสิ่งของจริงจากชุมชน 4) ด้านการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครู ควรมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีช่วยสร้างบรรยากาศปลอดภัยและพัฒนา Soft Skills ของผู้เรียนใช้กิจกรรมกลุ่มขนาดเล็ก เช่น เกมจำลองสถานการณ์ อภิปรายกลุ่ม และเวียนฐาน 5) ด้านการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง ควรออกแบบกิจกรรมที่มีขั้นตอนชัดเจน เช่น ทดลองวิทยาศาสตร์ ลงพื้นที่ หรือสร้างชิ้นงาน ใช้ Reflection หลังปฏิบัติ เช่น บันทึกสิ่งที่เรียนรู้ นำเสนอ และ Peer Review และ6) ด้านการเรียนรู้ด้วยตนเองและสร้างองค์ความรู้เอง ควรให้ผู้เรียนกำหนดเป้าหมาย แผนเรียนรู้ และใช้แหล่งข้อมูลค้นคว้าด้วยตนเอง จัดกิจกรรมให้สืบค้น ทดลอง และสังเคราะห์เป็นองค์ความรู้หรือผลงานจริง ด้านข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ควรบูรณาการความรู้กับชีวิตจริง ใช้ทรัพยากรท้องถิ่น ลดพึ่งพาสื่อราคาแพง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง/ชุมชน และสร้างระบบ PLC ให้ครูพัฒนาร่วมกัน

2. ผลการสร้างและตรวจสอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม

ผลการศึกษาองค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม พบว่าองค์ประกอบของรูปแบบการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลของการจัดการศึกษา โรงเรียนชุมชนบ้านปากชม ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบหลัก องค์ประกอบย่อย 32 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ มี 5 องค์ประกอบย่อย องค์ประกอบที่ 2 พัฒนาทักษะการคิดระดับสูง มี 6 องค์ประกอบย่อย องค์ประกอบที่ 3 วิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายและน่าสนใจ มี 4 องค์ประกอบย่อย องค์ประกอบที่ 4 การมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครู มี 6 องค์ประกอบย่อย องค์ประกอบที่ 5 การเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง มี 5 องค์ประกอบย่อย องค์ประกอบที่ 6 การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเองและสร้างองค์ความรู้เอง มี 6 องค์ประกอบย่อย

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม

3.1 ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม กับผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน โดยภาพรวม พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ด้านการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครู ด้านผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ ด้านพัฒนาทักษะการคิดระดับสูง ด้านวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายและน่าสนใจ และ ด้านการเรียนรู้ด้วยตนเองและสร้างองค์ความรู้เอง

3.2 ผลการหาคุณภาพผู้เรียนหลังจากการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม โดยรวมและรายด้าน พบว่าคุณภาพผู้เรียนก่อนการใช้รูปแบบฯ โดยรวมอยู่ ในระดับปานกลางและหลังใช้รูปแบบฯ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดซึ่งนักเรียนมีพฤติกรรมที่สูงขึ้นกว่าก่อนเรียนทุกด้าน

3.3 ผลการประเมินความพึงพอใจเกี่ยวกับคุณภาพผู้เรียนหลังจากทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม พบว่า ทั้งผู้บริหาร ครูผู้สอน และผู้ปกครองมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม

4.1 ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม โดยการสนทนากลุ่ม พบว่า เสียงส่วนใหญ่มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม มีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ทุกองค์ประกอบ

4.2 ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูเพื่อส่งเสริมประสิทธิผลการจัดการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านปากชม โดยใช้แบบสอบถาม พบว่า โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน

โพสต์โดย ชฎาพร ยืนยงกิตติชัย : [14 ส.ค. 2568 (10:19 น.)]
อ่าน [58623] ไอพี : 110.78.87.71
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 1,020 ครั้ง
พร้อมตอบคำถาม หม้อแปลงไฟฟ้า คืออะไร มีกี่ชนิด ทำงานอย่างไร
พร้อมตอบคำถาม หม้อแปลงไฟฟ้า คืออะไร มีกี่ชนิด ทำงานอย่างไร

เปิดอ่าน 23,613 ครั้ง
ถึงเวลาปฏิวัติการสอน ความท้าทายของครูในศตวรรษที่ 21
ถึงเวลาปฏิวัติการสอน ความท้าทายของครูในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 45,928 ครั้ง
เจาะลึกความสำเร็จการบริหารโรงเรียนตามแนวทาง SLC ของร.ร.พุทธจักรวิทยา  สร้างฐานการเรียนรู้ที่เข้มแข็งให้นักเรียน ดันคะแนนเฉลี่ยโอเน็ตปี’62 พุ่ง
เจาะลึกความสำเร็จการบริหารโรงเรียนตามแนวทาง SLC ของร.ร.พุทธจักรวิทยา สร้างฐานการเรียนรู้ที่เข้มแข็งให้นักเรียน ดันคะแนนเฉลี่ยโอเน็ตปี’62 พุ่ง

เปิดอ่าน 9,277 ครั้ง
วิธีปลูกผักชีในกระถาง
วิธีปลูกผักชีในกระถาง

เปิดอ่าน 15,481 ครั้ง
ขนมเสริมมงคล 12 ราศี
ขนมเสริมมงคล 12 ราศี

เปิดอ่าน 7,501 ครั้ง
การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?
การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?

เปิดอ่าน 25,863 ครั้ง
มาตราวัด มาตราชั่ง กับมาตราเงินของสยาม
มาตราวัด มาตราชั่ง กับมาตราเงินของสยาม

เปิดอ่าน 133,550 ครั้ง
รวมคลิปสุดแสบ ในการ "ปลุก" ภาวนาอย่ามีเพื่อนแบบนี้เลย
รวมคลิปสุดแสบ ในการ "ปลุก" ภาวนาอย่ามีเพื่อนแบบนี้เลย

เปิดอ่าน 32,068 ครั้ง
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่

เปิดอ่าน 9,199 ครั้ง
ชาวเน็ตแชร์คลิปเสียดสีสังคม ไทยเท ไทยฮุบ ไทยผีเข้า ไทยหัวสูง
ชาวเน็ตแชร์คลิปเสียดสีสังคม ไทยเท ไทยฮุบ ไทยผีเข้า ไทยหัวสูง

เปิดอ่าน 52,292 ครั้ง
พรบ.ครู(ฉบับที่2) 2551 มีผล 21 กุมภาพันธ์ 2551
พรบ.ครู(ฉบับที่2) 2551 มีผล 21 กุมภาพันธ์ 2551

เปิดอ่าน 27,157 ครั้ง
"ผักกูด" ผักที่อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนและธาตุเหล็ก
"ผักกูด" ผักที่อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนและธาตุเหล็ก

เปิดอ่าน 8,303 ครั้ง
แนะวิธีซื้อสมาร์ทโฟนอย่างคุ้มค่า
แนะวิธีซื้อสมาร์ทโฟนอย่างคุ้มค่า

เปิดอ่าน 10,048 ครั้ง
ครูพันธุ์ควอลิตี้
ครูพันธุ์ควอลิตี้

เปิดอ่าน 11,814 ครั้ง
8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก
8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก

เปิดอ่าน 12,856 ครั้ง
แสงส่องทางจากการศึกษา
แสงส่องทางจากการศึกษา
เปิดอ่าน 16,367 ครั้ง
โซเชียลเน็ตเวิร์กทำครอบครัวร้าว
โซเชียลเน็ตเวิร์กทำครอบครัวร้าว
เปิดอ่าน 24,612 ครั้ง
ถอนผมหงอก...ดีไหม
ถอนผมหงอก...ดีไหม
เปิดอ่าน 18,517 ครั้ง
กระบองเพชร ช่วยดูดรังสี
กระบองเพชร ช่วยดูดรังสี
เปิดอ่าน 9,585 ครั้ง
เตรียมตัวก่อนไปทะเล
เตรียมตัวก่อนไปทะเล

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ