ภาษาต่างประเทศมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน เนื่องจากเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดต่อสื่อสาร การศึกษา การแสวงหาความรู้ การประกอบอาชีพและการสร้าง ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิสัยทัศน์ของชุมชนโลก การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศช่วยให้ นักเรียนตระหนักถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองของสังคมโลก นำมาซึ่งมิตรไมตรี และความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ช่วยพัฒนานักเรียนให้มีความเข้าใจตนเองและผู้อื่นดีขึ้น ได้เรียนรู้และเข้าใจความแตกต่างของภาษาต่างประเทศ และวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี การคิดสังคมเศรษฐกิจการเมืองการปกครองมีเจตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาต่างประเทศ และใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารได้รวมทั้งเข้าถึงองค์ความรู้ต่าง ๆ ได้ง่ายและกว้างขวางขึ้นและมีวิสัยทัศน์ในการดำรงชีวิต (กระทรวงศึกษาธิการ, 2552 ก, หน้า 220)
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศมุ่งหวังให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อภาษาต่างประเทศสามารถใช้ภาษาต่างประเทศสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ แสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพ รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจเรื่องราว และวัฒนธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลก และสามารถถ่ายทอดความคิดและวัฒนธรรมไทย ไปสู่สังคมโลกได้อย่างสร้างสรรค์โดยได้กำหนดสาระหลักที่จำเป็นสำหรับนักเรียนทุกคนซึ่งประกอบด้วยภาษาเพื่อการสื่อสาร ภาษาและวัฒนธรรม ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่น และภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนโลกซึ่งคุณภาพของนักเรียนที่สำคัญเมื่อ จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้วต้องมีทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ภาษาต่างประเทศ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551, หน้า 221-225)
องค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเรียนตามความมุ่งหวังของหลักสูตรและเป็นหัวใจของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนั่นคือ ความสามารถในการอ่านเนื่องจากการอ่านมีความสำคัญต่อมนุษย์ที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ช่วยให้ได้รับข้อมูลข่าวสารเพื่อประกอบการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน การอ่านมีความจำเป็นต่อการศึกษาเล่าเรียน คนที่เรียนหนังสือเก่งมักจะเป็นคนที่อ่านหนังสือเก่ง เพราะ การอ่านช่วยให้ได้รับความรู้และความเข้าใจที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จและสามารถศึกษาต่อ ในระดับสูงได้การอ่านมีคุณค่าต่อมนุษย์เพราะช่วยยกระดับสติปัญญาให้สูงขึ้น ทำให้เกิดความคิด สร้างสรรค์เป็นการพัฒนาความคิดให้มีความก้าวหน้า ส่งผลต่อการพัฒนาในอาชีพ ทำให้มนุษย์ ทันต่อเหตุการณ์ สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ และสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้ (สำนักวิชาการและ มาตรฐานการศึกษา, 2554, หน้า 175) เช่นเดียวกับสุนันทา มั่นเศรษฐวิทย์ (2545, หน้า 1) ได้กล่าวว่าการอ่านเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญยิ่งสำหรับนักเรียนเพราะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสาะ แสวงหาความรู้ การเรียนวิชาต่างๆ ต้องอาศัยการอ่านแทบทั้งสิ้น ดังนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของ การอ่าน ในการจัดการเรียนการสอนจำเป็นต้องให้ผู้อ่านเกิดทักษะในการอ่านอย่างแท้จริง สามารถ นำความรู้จากการอ่านไปใช้ประโยชน์ได้และมีนิสัยรักการอ่าน ซึ่งจำเป็นต้องฝึกฝนอ่านอย่าง สม่ำเสมอ สอดคล้องกับมาตรฐานด้านคุณภาพนักเรียน มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านที่ 1 มาตรฐานที่ 3 นักเรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง อย่างต่อเนื่อง ตัวบ่งชี้ข้อ 3.1 นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านและแสวงหาความรู้ด้วยตนเองจากห้องสมุด แหล่งเรียนรู้และสื่อต่างๆ รอบตัว (สำนักทดสอบทางการศึกษา, 2554, หน้า 12) นอกจากความสามารถในการอ่านแล้ว สิ่งที่มีความสำคัญและช่วยให้การอ่านประสบผลสำเร็จก็คือความเข้าใจในการอ่าน (Comprehension) ซึ่งสมุทร เซ็นเชาวนิช (2549, หน้า 73) กล่าวถึงความเข้าใจใน การอ่านว่าเป็นความสามารถที่จะอนุมานข้อสนเทศหรือความหมายอันพึงประสงค์จากสิ่งที่อ่านมาแล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าอ่านแล้วไม่เกิดความเข้าใจใด ๆ เลย ก็อาจกล่าวได้ว่าการอ่านที่แท้จริงยังไม่เกิดขึ้นและการอ่านในลักษณะนี้จึงเป็นเพียงเห็นตัวหนังสือปรากฏอยู่บนหน้ากระดาษเท่านั้น ไม่สื่อความหมายอะไรทั้งสิ้น นอกจากจะทำให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์แล้วยังไม่ได้อะไรจากการอ่านนั้นอีกด้วย
การจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศเป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้พื้นฐานที่ผู้เรียนทุกคนจำเป็นต้องเรียนเพื่อเสริมสร้างพื้นฐานความเป็นมนุษย์ ซึ่งการเรียนภาษาต่างประเทศนั้น ไม่ได้มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเพียงแต่เรียนรู้เกี่ยวกับวิชาความรู้ทางภาษาเท่านั้นแต่ยังเรียนเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพ ดังนั้น การจัดการเรียนการสอนที่ดีนั้นควรจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกปฏิบัติให้ทำได้และสอดคล้องกับธรรมชาติและลักษณะเฉพาะของภาษา การเรียนการสอนจึงควรประกอบไปด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งกิจกรรมการฝึกทักษะทางภาษาและกิจกรรมการฝึกผู้เรียนควบคู่กันไป ซึ่งจะนำมาสู่การพัฒนาครบทั้ง 4 ทักษะของผู้เรียน คือ ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งในบรรดาทักษะทั้ง 4 กล่าวได้ว่า การอ่านเป็นทักษะที่สำคัญมากที่สุด เพราะเป็นทักษะพื้นฐานที่จะช่วยส่งเสริมและแสวงหาความรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาการประกอบอาชีพและพัฒนาความคิดของคนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น (วิสาข์ จัติวัตร์. 2543:41)
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ปัจจุบันของการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนยังคงประสบปัญหาหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อสำคัญที่นักเรียนจำเป็นต้องมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่แข็งแกร่งเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น จากการสังเกตการณ์และเก็บข้อมูลเบื้องต้นพบว่า การจัดการเรียนการสอนแบบเดิมที่เน้นการบรรยายจากครูผู้สอนเป็นหลัก และให้ผู้เรียนท่องจำคำศัพท์และไวยากรณ์เพียงอย่างเดียว ส่งผลให้นักเรียนขาดความกระตือรือร้นและแรงจูงใจในการเรียนรู้ นักเรียนส่วนใหญ่ไม่กล้าใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เพราะกลัวว่าจะทำผิดพลาด ซึ่งนำไปสู่การขาดโอกาสในการฝึกฝนทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียนอย่างบูรณาการ นอกจากนี้เนื้อหาการเรียนการสอนในปัจจุบันอาจยังไม่สอดคล้องกับความสนใจและบริบทชีวิตประจำวันของนักเรียนมากนัก ทำให้ผู้เรียนรู้สึกว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องไกลตัวและยากที่จะเข้าใจ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทักษะการสื่อสารที่นักเรียนส่วนใหญ่ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนใหม่ๆ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้การจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนในยุคปัจจุบัน ผู้วิจัยจึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนานวัตกรรมการสอนที่สามารถแก้ไขปัญหาข้างต้นได้อย่างตรงจุด โดยมุ่งเน้นการสร้างรูปแบบการสอนที่ผสมผสานระหว่างแนวคิด Active Learning และการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมและมีความหมาย
ด้วยเหตุนี้ ผู้รายงานจึงได้พัฒนา E-SMILE Learning Model ขึ้น ซึ่งเป็นรูปแบบการสอนที่เน้นการสร้างความกระตือรือร้นและแรงจูงใจในการเรียนรู้ของผู้เรียนผ่านกระบวนการต่างๆ ได้แก่
E - English Proficiency (การพัฒนาความเชี่ยวชาญทางภาษาอังกฤษ) การเรียนรู้จะเน้นไปที่
การพัฒนาความสามารถทางภาษาอังกฤษของผู้เรียนในทุกๆ ทักษะ ทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะการสื่อสารที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในสถานการณ์ต่างๆ S - Self-directed Learning (การเรียนรู้ด้วยตนเอง) ส่งเสริมให้นักเรียนเป็นผู้กำหนดทิศทางการเรียนรู้ของตนเอง รู้จักตั้งคำถาม ค้นคว้าหาข้อมูล และประเมินผลการเรียนรู้ของตนเอง ซึ่งจะช่วยปลูกฝังนิสัยรักการเรียนรู้และมีความรับผิดชอบต่อการเรียนของตนเอง M - Multimedia and Meaningful Context (การใช้สื่อผสมและบริบทที่มีความหมาย) การเรียนรู้จะใช้สื่อที่หลากหลาย เช่น วิดีโอ เกม หรือแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างความน่าสนใจและเชื่อมโยงเนื้อหาเข้ากับบริบทที่มีความหมายและใกล้ตัวนักเรียน ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุกและสามารถนำไปใช้ได้จริง I - Interactive and Integrated Learning (การเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์และบูรณาการ) นักเรียนจะได้มีโอกาสในการทำงานร่วมกับเพื่อนๆ ผ่านกิจกรรมกลุ่มหรือการอภิปรายต่างๆ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และฝึกฝนทักษะการสื่อสาร และยังหมายถึงการบูรณาการทักษะทางภาษาต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติ L - Lifelong Learning Skill (ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต) โมเดลนี้มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในระยะยาว เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับการใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่ E - Effective Evaluation (การประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ) การประเมินผลจะไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสอบเท่านั้น แต่จะครอบคลุมการประเมินผลระหว่างเรียน (Formative Assessment) และการประเมินผลจากการปฏิบัติ (Authentic Assessment) เพื่อให้ผู้เรียนได้รับข้อมูลป้อนกลับอย่างทันท่วงทีและสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง โดยนำรูปแบบการสอนนี้ไปประยุกต์ใช้กับเนื้อหาในหัวข้อ Safari Competition ซึ่งเป็นเนื้อหาที่น่าสนใจและสามารถกระตุ้นจินตนาการของนักเรียนได้ดี
การนำนวัตกรรม E-SMILE Learning Model มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเรื่อง Safari Competition สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มพูนทักษะทางภาษาของนักเรียนเท่านั้น แต่ยังช่วยปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และสร้างความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตจริง นอกจากนี้ยังเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของสถานศึกษาให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีในอนาคต