ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถม

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำ และสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย นางสาวสุรกาญจน์ โปฏกรัตน์

หน่วยงาน โรงเรียนอนุบาลศรีบรรพต อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1

ปีการศึกษา 2567

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง “การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5” เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ดังนี้ (2.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (2.2) เปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (2.3) เปรียบเทียบทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ (2.4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ เป็นเนื้อหาสาระในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลศรีบรรพต ปีการศึกษา 2567 จำนวน 29 คน ตัวแปรต้น (Independent Variable) คือ รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตัวแปรตาม (Dependent Variables) ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้รูปแบบรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) คู่มือการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบวัดทักษะการแก้ปัญหา 5) แบบวัดทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาประสิทธิภาพ (E1/E2) ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 87.68/85.12 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ผลการศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า

2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัด การเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียน (x̄= 25.69 SD = 1.47) สูงกว่าก่อนเรียน (x̄ = 12.34 SD = 2.45) โดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยภาพรวมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนร้อยละ 44.50

2.2 ทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียน (x̄ = 16.97 SD = 1.42) สูงกว่าก่อนเรียน (x̄ = 9.41 SD = 2.15) โดยมีทักษะการแก้ปัญหาหลังเรียนโดยภาพรวมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนร้อยละ 37.67

2.3 ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียน (x̄ = 16.93 SD = 1.31) สูงกว่าก่อนเรียน (x̄ = 9.07 SD = 1.77) โดยมีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณโดยภาพรวมหลังเรียนสูงก่อนเรียนร้อยละ 39.30

2.4 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation – based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.63 SD = 0.54)

โพสต์โดย กาญจน์ : [4 ส.ค. 2568 (22:27 น.)]
อ่าน [58608] ไอพี : 110.168.79.184
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 104,335 ครั้ง
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560

เปิดอ่าน 9,565 ครั้ง
ที่เกาหลีใต้? เขาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยถนนแห่งปัญญา
ที่เกาหลีใต้? เขาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยถนนแห่งปัญญา

เปิดอ่าน 2,770 ครั้ง
อยากเป็นติวเตอร์ ครูสอนพิเศษหางานสอนพิเศษที่ไหนดี?
อยากเป็นติวเตอร์ ครูสอนพิเศษหางานสอนพิเศษที่ไหนดี?

เปิดอ่าน 42,909 ครั้ง
ประวัติ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ (พระเทพวิทยาคม)
ประวัติ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ (พระเทพวิทยาคม)

เปิดอ่าน 12,796 ครั้ง
13 ความเชื่อที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม
13 ความเชื่อที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม

เปิดอ่าน 8,352 ครั้ง
เปิด 10 ธุรกิจเด่นปี59 สุขภาพและความงามยังครองแชมป์
เปิด 10 ธุรกิจเด่นปี59 สุขภาพและความงามยังครองแชมป์

เปิดอ่าน 11,713 ครั้ง
ภูมิปัญญา "การแพทย์แผนไทย" สู้ภัยร้อนจัดของประเทศ
ภูมิปัญญา "การแพทย์แผนไทย" สู้ภัยร้อนจัดของประเทศ

เปิดอ่าน 10,359 ครั้ง
ออกกำลังหนักช่วงสั้นๆ หนีโรคหัวใจได้ดีกว่าออกกำลังระยะยาว
ออกกำลังหนักช่วงสั้นๆ หนีโรคหัวใจได้ดีกว่าออกกำลังระยะยาว

เปิดอ่าน 10,830 ครั้ง
ล้างพิษลำไส้ใหญ่ กากใยอาหารจากธรรมชาติช่วยคุณได้
ล้างพิษลำไส้ใหญ่ กากใยอาหารจากธรรมชาติช่วยคุณได้

เปิดอ่าน 24,801 ครั้ง
นักวิชาการแจงข้อสอบเด็ก ป.3 สุดยาก เป็นการคัดเลือกเด็กเข้าเรียนในห้องพิเศษ
นักวิชาการแจงข้อสอบเด็ก ป.3 สุดยาก เป็นการคัดเลือกเด็กเข้าเรียนในห้องพิเศษ

เปิดอ่าน 10,359 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์

เปิดอ่าน 11,389 ครั้ง
คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ
คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ

เปิดอ่าน 16,069 ครั้ง
21 ตุลาคม วันรักต้นไม้แห่งชาติ
21 ตุลาคม วันรักต้นไม้แห่งชาติ

เปิดอ่าน 82,584 ครั้ง
ตารางบัญชีอัตราเงินเดือนใหม่ ตามร่างพ.ร.ฎ.ปรับเงินเดือน 5%
ตารางบัญชีอัตราเงินเดือนใหม่ ตามร่างพ.ร.ฎ.ปรับเงินเดือน 5%

เปิดอ่าน 18,010 ครั้ง
ยาปฏิชีวนะ
ยาปฏิชีวนะ

เปิดอ่าน 144,288 ครั้ง
การทำงานของเอนไซม์
การทำงานของเอนไซม์
เปิดอ่าน 38,736 ครั้ง
TOEFL คืออะไร
TOEFL คืออะไร
เปิดอ่าน 6,593 ครั้ง
ปลูก กล้วยน้ำว้านวลจันทร์ สายพันธุ์ดี สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
ปลูก กล้วยน้ำว้านวลจันทร์ สายพันธุ์ดี สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
เปิดอ่าน 244 ครั้ง
Invoice คืออะไร? ใช้เมื่อไรและต้องมีรายละเอียดอะไรบ้าง
Invoice คืออะไร? ใช้เมื่อไรและต้องมีรายละเอียดอะไรบ้าง
เปิดอ่าน 17,476 ครั้ง
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ