ชื่อนวัตกรรม โรงเรียนวิถีพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ทักษะอาชีพ
ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วย WASH MODEL
ประเภทนวัตกรรม การบริหารจัดการ
ผู้เสนอผลงานนวัตกรรม นายวัชรินทร์ กล้าณรงค์ชาญ ตำแหน่ง ผู้บริหารสถานศึกษา
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านแม่ดอกแดง
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม เขต 1
1. ความเป็นมาและความสำคัญของการพัฒนานวัตกรรม
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) พระราชทานพระราชดำริชี้แนะแนวทาง และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนอันจะเป็นกำลังสำคัญเป็นอนาคตของชาติ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้อง
มีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในภายนอก ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการ ทุกขั้นตอน และขณะเดียวกัน จะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเยาวชน เจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ
ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ได้ทรงพระราชทานพระบรมราโชบายด้านการศึกษาเพื่อมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้องได้น้อมนำไปปฏิบัติให้บังเกิดผลตามแนวพระบรมราโชบายทั้ง 4 ด้าน โดยผู้รายงานได้เห็นความสำคัญ คือ มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง
มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง - มีคุณธรรม มีงานทำ - มีอาชีพ และเป็นพลเมืองดี ซึ่งสอดคล้องกับความ
มุ่งหมายและหลักการของการจัดการศึกษาที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ว่าด้วยการจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา มีความรู้ควบคู่กับคุณธรรมจริยธรรม อันจะนำไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ซึ่งสะท้อนบทบาทของแหล่งเรียนรู้ โดยให้สถานศึกษาส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียนการสอน และอำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้เรียนกับครูผู้สอนเกิดการเรียนรู้ไปพร้อมกัน จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ที่เกิดจาก
องค์ความรู้ด้านเนื้อหา สถานที่ และตัวบุคคล โดยผู้รายงานได้เล็งเห็นปัญหาของสถานศึกษาว่ายังขาดแหล่งเรียนรู้ที่เป็นสถานที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทักษะอาชีพและภูมิปัญญาท้องถิ่น สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยมีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยมีสัมมาชีพตามความถนัดของตนเอง มุ่งเน้นผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้และมีใจใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลา
ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีจุดมุ่งหมายหลักในการพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคงยั่งยืนและ
มีความสมดุลในทุกด้านโดยเฉพาะในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ซึ่งสอดคล้องกับโครงการนวัตกรรมนี้ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการเรียนรู้ที่ยั่งยืนและสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยการพัฒนาองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับการศึกษาและเศรษฐกิจพอเพียง (ยุทธศาสตร์ชาติ, 2560) ดานการพัฒนาและเสริมสรางศักยภาพทรัพยากรมนุษยใหความสําคัญกับการเปลี่ยนโฉมบทบาท ครู ใหเปนครูยุคใหม โดยปรับบทบาทจาก ครูสอน เปน โคช หรือผูอํานวยการเรียนรู ทําหนาที่กระตุน สรางแรงบันดาลใจ แนะนําวิธีเรียนรูและวิธีการจัดระเบียบการสรางความรูออกแบบกิจกรรมและสรางนวัตกรรมการเรียนรูใหผูเรียน และมีบทบาทเปนนักวิจัยพัฒนากระบวนการเรียนรู เพื่อผลสัมฤทธิ์ของผูเรียน รวมทั้งปรับระบบการผลิตและพัฒนาครู ตั้งแตการดึงดูด คัดสรร ผูมีความสามารถสูงใหเขามาเปนครูคุณภาพ มีระบบการพัฒนาศักยภาพและสมรรถนะครูอยางตอเนื่อง และสําหรับยุทธศาสตรดานการปรับสมดุลและการพัฒนาระบบบริหาร
นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการปีงบประมาณ 2568-2569 จึงประกาศนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมุ่งมั่นสานต่อนโยบาย เรียนดี มีความสุข ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อผู้เรียนเป็นที่ประจักษ์ ภายใต้หลักการ การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต ใช้แนวทางการทำงาน จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน มุ่งสร้างการศึกษา
เท่าเทียม ผ่านเครือข่ายการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และต่อยอดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับให้ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล ภายใต้แนวคิด ปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศ เพื่อพัฒนาคนไทยทุกคนในทุกช่วงวัยให้ ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ มีศักยภาพและความพร้อมสนับสนุนการพัฒนาประเทศให้ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อเป็นแนวทางให้ส่วนราชการในสังกัดและองค์กรในกำกับกระทรวงศึกษาธิการ นำไปใช้ในการขับเคลื่อนนโยบาย ดังนี้
นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 2569 เน้นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาของนักเรียนในทุกระดับ โดยมุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ที่ครอบคลุมและตรงตามความต้องการของนักเรียนในยุคปัจจุบัน นโยบายสำคัญ
ที่สอดคล้องกับโครงการ ซึ่งได้แก่นโยบายปลูกฝังความรักในสถาบันหลักของชาติ และน้อมนำ
พระบรมราโชบายด้านการศึกษา สู่การปฏิบัติ สร้างความรู้ ความเข้าใจการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในสถานศึกษา เพื่อการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลและยั่งยืน ส่งเสริม สนับสนุนการจัดกิจกรรมที่น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวง รัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ มีการสนับสนุนการพัฒนาทักษะอาชีพในโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานจริงในอนาคต โดยเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงในสถานการณ์การทำงานจริงหรือ Work-based Learning โดยส่งเสริมให้โรงเรียนในทุกระดับ
นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างพอเพียงและยั่งยืน การส่งเสริมการเรียนรู้แบบบูรณาการ สพฐ. ได้สนับสนุนการเรียนรู้ที่ครอบคลุมในทุกด้าน ด้านทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต และทักษะอาชีพ
จากสารสนเทศรายงานผลการดำเนินงาน ปีการศึกษา 2567 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 สนับสนุนโรงเรียนเป็น ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงสนับสนุนให้โรงเรียนจัดพื้นที่เรียนรู้ภายในโรงเรียน เช่น แปลงผัก, โรงเรือนเลี้ยงสัตว์, ครัวเรือนตัวอย่างพัฒนาโรงเรียนต้นแบบ เช่น โรงเรียนพอเพียงท้องถิ่น หรือ โรงเรียนวิถีพอเพียงบูรณาการเข้ากับรายวิชา สอดแทรกใน กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ (ทดลองเพาะถั่วงอก), คณิตศาสตร์ (คิดต้นทุนกำไร), ศิลปะ (ออกแบบฉลากสินค้า) ใช้รูปแบบ โครงงานอาชีพ (Project-based Learning) นักเรียนได้ฝึกวางแผน ปฏิบัติจริง และสรุปบทเรียนจากการลงมือทำ เช่น โครงงานทำน้ำหมักชีวภาพ, โครงงานปลูกผักสวนครัว มีการพัฒนาครูและบุคลากร จัดอบรม
เชิงปฏิบัติการ ให้ครูมีทักษะในการออกแบบกิจกรรมทักษะอาชีพ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างโรงเรียนเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานภายนอก เชิญ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น ปราชญ์ชาวบ้าน, ช่างฝีมือ มาร่วมถ่ายทอดความรู้ โดยเชื่อมโยงกับ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น พัฒนาชุมชน, สหกรณ์, มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ส่งผลให้ผู้เรียน มีทักษะอาชีพจริง สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงหรือประกอบอาชีพเสริม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน เกิดรายได้เสริมให้แก่ครอบครัวนักเรียน และจุดเน้นนโยบายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 (สพป.เชียงใหม่ เขต 1) มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ผู้เรียนทุกระดับชั้นมีความสามารถ มีสมรรถนะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 และได้รับการศึกษา
ที่เท่าเทียม โดยให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
ในการบริหารจัดการ, การส่งเสริมความปลอดภัยของสถานศึกษา และการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางโรงเรียนวิถีพอเพียงสู่การจัดการ
เรียนรู้ทักษะอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วย WASH MODEL ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้งด้านทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และเทคโนโลยี
จากข้อมูลดังกล่าวผู้รายงานได้ศึกษาและค้นพบประเด็นปัญหาด้านการบริหารจัดการ
แหล่งเรียนรู้ที่มีความเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนบ้านแม่ดอกแดง พบว่ายังขาดระบบการจัดทำแหล่งเรียนรู้ด้านทักษะอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่พอเพียงและเหมาะสมกับผู้เรียน ที่จะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตามหลักสูตรของสถานศึกษาและหลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ซึ่งปัจจุบันนักเรียนโรงเรียนบ้านแม่ดอกแดงส่วนมากยังขาดทักษะในกระบวนการ
ด้านอาชีพ จึงส่งผลให้ผู้เรียนขาดโอกาสในการเรียนรู้ด้านทักษะอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง ที่สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา และชุมชน ปีงบประมาณ 2568 โรงเรียน
บ้านแม่ดอกแดง จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงได้วางกรอบภารกิจตามขอบข่ายที่กฎหมายกำหนดและมุ่งพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน โดยผู้บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะครู ผู้ปกครอง และชุมชนร่วมกันวางแผนการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนบ้านแม่ดอกแดง โดยได้ทำการศึกษาสภาพปัจจุบันของปัญหาทางด้านการจัดทำแหล่งเรียนรู้ทักษะอาชีพของโรงเรียนอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขและพัฒนาโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม
โรงเรียนบ้านแม่ดอกแดงจึงน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดังกล่าว
มาประยุกต์ใช้ผ่านนวัตกรรมโรงเรียนวิถีพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ทักษะอาชีพตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วย WASH MODEL ซึ่งประกอบด้วย
W: Wisdom-Based Learning (การจัดการเรียนรู้โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น)
A: Active Learning (การจัดการเรียนรู้เชิงรุก)
S: Sufficiency Thinking (การจัดการเรียนรู้โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง)
H: Holistic Learning (การจัดการเรียนรู้อย่างครบวงจร)
เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะสำคัญในศตวรรษที่ 21 สามารถประกอบอาชีพได้จริง
ในอนาคตเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตอย่างพอเพียงและยั่งยืนตามบริบทของโรงเรียนชุมชนและท้องถิ่น ซึ่งเป็นการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทักษะอาชีพที่มีแบบแผนเป็นมาตรฐานและยั่งยืน ตลอดจนสามารถนำแนวคิดการบริหารดังกล่าวไปประยุกต์ใช้กับการบริหารงานอื่น ๆ ได้ด้วย
2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายการพัฒนานวัตกรรม
1. เพื่อพัฒนารูปแบบนวัตกรรมโรงเรียนวิถีพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ทักษะอาชีพ
ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วย WASH MODEL
2. เพื่อส่งเสริมให้ครู พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เข้ากับทักษะอาชีพตามเอกลักษณ์ของโรงเรียน
3. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจากก
ใช้แหล่งเรียนรู้จริงภายในโรงเรียนและนอกโรงเรียน