ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

ถอดบทเรียน BEST PRACTICE นวัตกรรมประวัติศาสตร์

โครงการการส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง คุณธรรม จริยธรรม

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๓

ชื่อผลงาน ถอดรหัสเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองในสมัยกรุงธนบุรี

ชื่อเจ้าของผลงาน นางณภัชนันท์ พุมมา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย

สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๓

ประเภทผลงาน

 นวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง คุณธรรม จริยธรรมของครูผู้สอน

๑. ความสำคัญของผลงาน

การสร้างนวัตกรรมประวัติศาสตร์ "เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองในสมัยกรุงธนบุรี " มีความสำคัญในการอนุรักษ์และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของไทยในช่วงเวลาที่กรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง โดยมีจุดมุ่งหมายช่วยให้นักเรียนสามารถเข้าใจเหตุการณ์สำคัญในช่วงกรุงธนบุรีได้ดีขึ้น เช่น การก่อตั้งกรุงธนบุรี การปฏิวัติราชการในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน และการฟื้นฟูประเทศหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยา โดยการนำเทคโนโลยี การสร้างนวัตกรรมที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลประวัติศาสตร์ในรูปแบบที่น่าสนใจและทันสมัย ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความภาคภูมิใจในชาติไทย เข้าใจในบริบททางสังคมและการเมืองในช่วงเวลานั้น ได้รู้จักประวัติศาสตร์ในเชิงลึกและสร้างความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของไทย

๑.๑ เหตุผลที่เกิดจากแรงบันดาลใจความจำเป็นปัญหาหรือความต้องการ

แรงบันดาลใจหลักคือการกระตุ้นให้นักเรียนได้รู้จักและเข้าใจเหตุการณ์สำคัญในสมัยกรุงธนบุรี การนำเสนอในรูปแบบนวัตกรรมใหม่ผ่านการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ต้องการเปลี่ยนวิธีการเรียนประวัติศาสตร์ให้มีความสนุก น่าติดตาม และมีส่วนร่วมของผู้เรียนมากขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ในสมัยกรุงธนบุรี ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญในการกอบกู้เอกราชและฟื้นฟูชาติไทยหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เข้าใจถึงความสำคัญของเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อเสริมสร้างความภาคภูมิใจในชาติการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและการส่งเสริมการเรียนรู้ในสังคมปัจจุบัน

1.2 แนวคิดหลักการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผลงาน หรือนวัตกรรมที่นำมาใช้อ้างอิงในการออกแบบผลงานหรือนวัตกรรม

การคำนึงถึงหลักการที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจได้อย่างมีประสิทธิภาพของผู้เรียน สามารถนำเสนอประวัติศาสตร์ในรูปแบบที่ทันสมัยและเข้าถึงง่าย เพื่อให้เหมาะสมกับยุคปัจจุบัน แนวคิดที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ๆ แทนที่จะเป็นแค่การอ่านตำราเพียงอย่างเดียว ซึ่งสามารถเพิ่มความน่าสนใจและเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น การออกแบบผลงานที่เน้นการโต้ตอบระหว่างผู้เรียนกับเนื้อหาผ่านสื่อดิจิทัล เช่น เกมการศึกษาหรือแอปพลิเคชันที่ให้ผู้เรียนสามารถเลือกและตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อทำให้การเรียนรู้มีความสนุกและมีส่วนร่วม มีความเหมาะสมและตอบสนองความต้องการของผู้เรียน

2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของผลงาน

2.1 วัตถุประสงค์

1. เพื่อสร้างนวัตกรรมสื่อที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองในสมัยกรุงธนบุรีให้มีความน่าสนใจและเข้าใจง่าย

2. เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมและกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนต่อเนื้อหาด้านประวัติศาสตร์การเมืองไทย

3. เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของผู้เรียนหลังจากใช้เกมเป็นเครื่องมือในการเรียนการสอน

๒.๒ เป้าหมาย

เป้าหมายเชิงปริมาณ

- นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนบ้านโป่งสะเก็ต ได้เรียนรู้โดยใช้นวัตกรรมเกมถอดรหัสภาพ ทราบความกรุงธน คิดเป็นร้อยละ 90 %

¬ เป้าหมายเชิงคุณภาพ

- นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนบ้านโป่งสะเก็ต ร้อยละ 80 ของทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเพิ่มขึ้น

3. กระบวนการผลิตผลงานหรือขั้นตอนการดำเนินงาน

กระบวนการและขั้นตอนการดำเนินการจัดการเรียนการสอน พัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ โดยใช้นวัตกรรมเกมการเรียนรู้ (Game-based learning) รูปแบบ S-T-A-R Model ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนบ้านโป่งสะเก็ตกระบวนการดําเนินงานวงจรบริหารที่มีคุณภาพ PDCA ดังนี้

๑. ขั้นการวางแผน (P : Plan) โดยการค้นหาข้อมูล ออกแบบกิจกรรม แบบวัดและประเมินผล

๑.๑ ศึกษาวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนบ้านโป่งสะเก็ต

๑.๒ ศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลาง ตัวชี้วัด และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑.๓ ศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบ S-T-A-R Model

๑.๔ ออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้นวัตกรรมเกมการเรียนรู้ (Game-based learning)

๒. ขั้นดำเนินการ (Do : D) การปฏิบัติตามแผนที่วางไว้โดย

๒.๑ ดำเนินการตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้นวัตกรรมบันได ๕ ขั้น รูปแบบ S-T-A-R Model

๓. ขั้นตรวจสอบและประเมินผล (Check : C)

๓.๑ ใบงานเหตุการณ์สำคัญทางการปกครองในสมัยกรุงธนบุรี

๓.๒ ประเมินความสามารถด้านการวิเคราะห์ความสามารถในการตีความภาพและเชื่อมโยงกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์

๓.๓ วิเคราะห์หาค่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

๔. ขั้นนำผลการประเมินมาปรับปรุง (Action : A)

๔.๑ นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ มีเจตคติที่ดีในการเรียนรู้ ให้ความร่วมมือดี ความพึงพอใจในการจัดกิจกรรม ต้องการให้นักเรียนมีความกล้าแสดงออกและมั่นใจในการเรียนมากขึ้น ซึ่งจะนำผลที่ได้มาปรับปรุง พัฒนาต่อยอดต่อไป

แนวคิดหลัก/หลักการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบ S-T-A-R Model

รูปแบบ S-T-A-R Model มี ๔ ขั้นตอน ดังนี้

๑. ขั้นเตรียมพร้อม (Set-up: S)

๑.๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียนกระตุ้นความสนใจด้วยเพลง โดยครูเปิดเพลงเจ้าตาก ของศิลปินวงคาราบาวให้นักเรียนฟัง พร้อมแจกเนื้อเพลงประกอบ แล้วให้นักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาของเพลงและตอบคำถามต่อไปนี้

- เพลงดังกล่าว มีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับเรื่องใด

- ความเข้มแข็งทางการทหารของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ส่งผลต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรธนบุรีอย่างไรบ้าง โดยครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เพื่อทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน

๑.๒ ครูเตรียมความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีเล่นเกม “ถอดรหัสภาพ ทราบความกรุงธน”และสร้างข้อตกลงในการเรียน

๒. ขั้นทบทวนความรู้เดิม เชื่อมโยงความรู้ใหม่ (Tie in : T)

๒.๑ ครูให้นักเรียนตอบคำถามจากบัตรคำประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี เช่น "จุดยุทธศาสตร์ในการดินเรือทางออกสู่ทะเล" – "ปากน้ำ"

๒.๒ ทบทวนความรู้โดยสุ่มถามนักเรียนให้ตอบทีละคน

๓. ขั้นเรียนรู้ (Active learning : A)

๓.๑ สื่อการเรียนรู้ Power Point เหตุการณ์สำคัญทางการปกครองสมัยกรุงธนบุรี หลังกรุงศรีอยุธยาเสียกรุง การกอบกู้เอกราช และการตั้งเมืองใหม่ภาพสถานที่สำคัญ เช่น วัดแจ้ง ป้อมวิไชยประสิทธิ์ ค่ายบางกุ้ง ฯลฯ

๓.๒ ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม เล่นเกมถอดรหัสภาพ ทราบความกรุงธน และช่วยกันอธิบายวิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญทางการปกครองสมัยกรุงธนบุรี เรียงลำดับเส้นเวลาตั้งแต่การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 จนถึงการสิ้นสุดการปกครองในสมัยกรุงธนบุรี

๔. ขั้นย้ำทวนการเรียนรู้ (Repeat : R)

๔.๑ ครูและนักเรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทเรียนที่ได้เรียน

๔.๒ ครูให้นักเรียนทำใบงาน

๔.๓ ครูเฉลยใบงานและตรวจสอบความถูกต้อง และพานักเรียนทบทวนความรู้ที่ได้จากการเรียน

ลำดับขั้นตอนการพัฒนา ( Flow Chart )

แนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ

3.1 การออกแบบผลงาน/นวัตกรรม

1. ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญ

- รวบรวมข้อมูลเหตุการณ์สำคัญทางการปกครองสมัยกรุงธนบุรี เช่น การกอบกู้เอกราชจากพม่า การตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีการขยายอาณาเขตและฟื้นฟูบ้านเมือง

- ศึกษาเนื้อหาในหลักสูตรประวัติศาสตร์ ม.ต้น ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย

2. วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย

- ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2

3. กำหนดรูปแบบนวัตกรรม

“เกมถอดรหัสภาพทราบความกรุงธนบุรี” เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้เชิงบูรณาการ(Active Learning + Visual Thinking) ที่อยู่ในรูปแบบ เกมการ์ดภาพประกอบคำใบ้ ซึ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ เชื่อมโยงข้อมูลจากภาพสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ผ่านกิจกรรมกลุ่ม เพื่อพัฒนาทักษะศตวรรษที่ 21

องค์ประกอบของนวัตกรรม

สื่อการเรียนรู้:

- เกมถอดรหัสภาพจากสื่อ Power point

- ใบงานตอบคำถามเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์สมัยกรุงธนบุรี

- หนังสือเรียนประวัติศาสตร์ ม.2

กระบวนการเรียนรู้:

- เรียนรู้ผ่านการเล่นเกม (Game-based learning)

- การวิเคราะห์ภาพ–คำใบ้

- การอภิปรายในกลุ่ม

- การนำเสนอคำตอบ และอธิบายเหตุผล

รูปแบบการจัดกิจกรรม:

- แข่งขันเป็นกลุ่ม

- ใช้เวลาในแต่ละรอบ 3 - 5 นาที

- มีคะแนนสะสม + เฉลยท้ายรอบ

- บูรณาการการสะท้อนผลการเรียนรู้ (Reflection)

จุดเด่นของนวัตกรรม

- ดึงดูดความสนใจด้วยภาพและเกม

- เสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์และการทำงานเป็นทีม

- เชื่อมโยงความรู้จากตำราเข้าสู่สถานการณ์จริงผ่านภาพจำ

- สามารถปรับใช้ทั้งในห้องเรียนจริงหรือออนไลน์

3.2 การดำเนินงานตามกิจกรรม

1. ทดลองใช้ต้นแบบ

- ทดสอบกับนักเรียนในห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2

- สังเกตความสนใจและความเข้าใจของผู้เรียน

- บันทึกข้อเสนอแนะและปัญหาที่พบ

2. ปรับปรุงพัฒนาผลงาน

- สามารถนำไปพัฒนาเป็นเกมออนไลน์ผ่าน PowerPoint หรือแอปอย่าง Canva, Genially

3. สรุปและจัดทำรายงาน

- เขียนรายงานขั้นตอนการออกแบบ

- สรุปผลการทดลองใช้ในชั้นเรียนและความคิดเห็นของนักเรียน

- สรุปประโยชน์และแนวทางการใช้สื่อ/นวัตกรรมในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์

๔. ผลการดำเนินงาน/ผลสัมฤทธิ์ / ประโยชน์ที่ได้รับ

๔.๑ ผลที่เกิดตามจุดประสงค์

- นักเรียน มีความสนใจในการเรียนรู้เนื้อหาประวัติศาสตร์มากขึ้น เห็นได้จากพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมอย่างกระตือรือร้น และความร่วมมือในการเล่นเกม

- นักเรียนสามารถ เชื่อมโยงภาพ สัญลักษณ์ กับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงธนบุรีได้ถูกต้องเพิ่มขึ้น

- นักเรียน มีทักษะการคิดวิเคราะห์และการสื่อสารดีขึ้น จากการอภิปรายในกลุ่มก่อนตอบคำถาม

- ร้อยละ 90 ของนักเรียน สามารถตอบคำถามหลังเล่นเกมได้ถูกต้องเกิน 80% แสดงถึงความเข้าใจเนื้อหาที่ดีขึ้น

๔.๒ ผลสัมฤทธิ์ของงาน

- นักเรียนแสดงออกถึงความกระตือรือร้นในการเรียน มีความสนุกสนาน และตั้งใจทำกิจกรรม

- นักเรียนสามารถทำงานเป็นทีมได้ดีขึ้น กล้าแสดงความคิดเห็น และอภิปรายร่วมกัน

- บรรยากาศในห้องเรียนมีความ สนุกและเป็นกันเองมากขึ้น ทำให้ผู้เรียนมีทัศนคติที่ดีต่อวิชาประวัติศาสตร์

- นักเรียนจดจำเหตุการณ์สำคัญในสมัยกรุงธนบุรีได้แม่นยำ โดยไม่อาศัยการท่องจำ

- สามารถนำนวัตกรรมไปใช้ในชั้นเรียนระดับอื่นหรือวิชาอื่นที่เน้นการเชื่อมโยงเนื้อหุได้อย่างเหมาะสม

๔.๓ ประโยชน์ที่ได้รับ

- นักเรียนได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่สนุกสนานและมีส่วนร่วม ทำให้เข้าใจเนื้อหาประวัติศาสตร์ได้ดียิ่งขึ้น

- ช่วยให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ การตีความภาพ และการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างมีเหตุผล

- ส่งเสริมทักษะการทำงานเป็นทีม การฟัง การแสดงความคิดเห็น และการตัดสินใจร่วมกัน

- นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อวิชาประวัติศาสตร์ และเห็นความสำคัญของอดีตที่เกี่ยวข้องกับปัจจุบัน

- นักเรียนจดจำเนื้อหาได้ยาวนานขึ้น จากการเรียนรู้ผ่านภาพและเกมไม่ใช่เพียงการท่องจำ

๕. ปัจจัยความสำเร็จ

การออกแบบนวัตกรรมให้เหมาะกับผู้เรียน

- การออกแบบเกมโดยคำนึงถึง ความสนใจและพฤติกรรมของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ชอบกิจกรรมที่สนุก มีการแข่งขัน และเห็นภาพชัดเจน

- การใช้ภาพที่กระตุ้นการคิด และเชื่อมโยงกับเนื้อหาได้ง่าย เพื่อไม่ให้ผู้เรียนรู้สึกยากหรือน่าเบื่อ

- กำหนดกติกาให้ เล่นง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ยังท้าทายความสามารถทางการคิด

การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

- การใช้กิจกรรมกลุ่ม เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกัน การสื่อสาร และการคิดวิเคราะห์

- บูรณาการเทคนิค Active Learning ทำให้นักเรียนได้ “ลงมือทำ คิด วิเคราะห์ และสะท้อนผล”

- มีการให้คำชี้แนะเป็นระยะ ๆ และสรุปองค์ความรู้หลังจบกิจกรรม เพื่อย้ำความเข้าใจการมีส่วนร่วมของครูและนักเรียน

- ครูผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ (Facilitator) ไม่ใช่แค่ผู้ถ่ายทอดความรู้

- นักเรียน มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านความคิด การแสดงออก และการช่วยกันค้นหาคำตอบ

- การสร้าง บรรยากาศในห้องเรียนให้เป็นมิตรและเปิดกว้าง ช่วยให้ทุกคนกล้าคิด กล้าตอบ

๖. บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned)

การวิเคราะห์พฤติกรรม ความสนใจ และระดับสติปัญญาของนักเรียนจะช่วยให้สามารถออกแบบกิจกรรมได้เหมาะสมกับผู้เรียน ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมและประสบความสำเร็จในการเรียนรู้

๗. การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ

๗.๑ การเผยแพร่

- เข้าร่วม การประกวดนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ระดับเขตพื้นที่การศึกษา

- แชร์กิจกรรมและไฟล์สื่อใน กลุ่มครูใน Facebook / Line / เว็บไซต์วิชาการ เพื่อให้ครูที่สนใจ

สามารถนำไปใช้หรือพัฒนาเพิ่มเติม

๗.๒ การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ

- นักเรียนแสดง ความสนใจและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ระหว่างการเรียนผ่านเกม

- มีผลตอบรับเชิงบวกจากแบบประเมินความพึงพอใจ โดยร้อยละ 90 ของนักเรียนระบุว่า“กิจกรรมสนุก เข้าใจง่าย อยากให้จัดอีกในบทเรียนอื่น”

๘. ข้อเสนอแนะ

- จัดทำ คู่มือการใช้งานสำหรับครู เพื่อขยายผลนวัตกรรมนี้สู่ครูคนอื่นได้ง่ายขึ้น

โพสต์โดย ณภัชนันท์ พุมมา : [30 ก.ค. 2568 (18:42 น.)]
อ่าน [59050] ไอพี : 182.232.170.25
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,751 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการออกหนังสือรับรองการประกันคุณภาพภายนอก จาก สมศ.
หลักเกณฑ์และวิธีการออกหนังสือรับรองการประกันคุณภาพภายนอก จาก สมศ.

เปิดอ่าน 2,772 ครั้ง
กรมอนามัย เผยวัยทำงานสุขภาพแย่ แนะกินถูกหลัก ออกกำลังกาย ลดเครียด
กรมอนามัย เผยวัยทำงานสุขภาพแย่ แนะกินถูกหลัก ออกกำลังกาย ลดเครียด

เปิดอ่าน 49,974 ครั้ง
คู่มือการบริหารโรงเรียน ในโครงการพัฒนาการบริหารรูปแบบนิติบุคคล
คู่มือการบริหารโรงเรียน ในโครงการพัฒนาการบริหารรูปแบบนิติบุคคล

เปิดอ่าน 20,000 ครั้ง
เทคนิคเจ๋งๆ ผสมไข่เเดงให้เข้ากัน ทำอย่างไรไปชมกันเลย
เทคนิคเจ๋งๆ ผสมไข่เเดงให้เข้ากัน ทำอย่างไรไปชมกันเลย

เปิดอ่าน 65,531 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning

เปิดอ่าน 19,665 ครั้ง
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ

เปิดอ่าน 14,997 ครั้ง
"สงสัยไม่ช๊อต" วลีเด็ดลุงใจดี วลีฮิตข้ามคืน "เเก่ ใจดี สปอร์ต กทม."
"สงสัยไม่ช๊อต" วลีเด็ดลุงใจดี วลีฮิตข้ามคืน "เเก่ ใจดี สปอร์ต กทม."

เปิดอ่าน 20,490 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การจ่ายค่าตอบแทนมีความสำคัญยิ่งในฐานะเป็นหน้าที่หลักประการหนึ่งของหน่วยงาน
(ก.ค.ศ.)การจ่ายค่าตอบแทนมีความสำคัญยิ่งในฐานะเป็นหน้าที่หลักประการหนึ่งของหน่วยงาน

เปิดอ่าน 16,421 ครั้ง
Web 2.0
Web 2.0

เปิดอ่าน 20,403 ครั้ง
เกมส์แต่งตัว
เกมส์แต่งตัว

เปิดอ่าน 13,231 ครั้ง
หัวไชเท้าช่วยละลายเสมหะ
หัวไชเท้าช่วยละลายเสมหะ

เปิดอ่าน 21,541 ครั้ง
วิธีกินอย่างฉลาด
วิธีกินอย่างฉลาด

เปิดอ่าน 27,761 ครั้ง
การศึกษาไทยอาการหนัก คุณหมอต้องส่งเข้าห้อง ICU
การศึกษาไทยอาการหนัก คุณหมอต้องส่งเข้าห้อง ICU

เปิดอ่าน 13,922 ครั้ง
5 ปัญหาการเงิน เลี่ยงซะก่อนชีวิตคู่จะพัง
5 ปัญหาการเงิน เลี่ยงซะก่อนชีวิตคู่จะพัง

เปิดอ่าน 154,652 ครั้ง
8 โรคห้ามรับราชการ
8 โรคห้ามรับราชการ

เปิดอ่าน 27,080 ครั้ง
ขนมถังแตก
ขนมถังแตก
เปิดอ่าน 18,561 ครั้ง
10 ขั้นตอนบริหารใบหน้าชะลอแก่
10 ขั้นตอนบริหารใบหน้าชะลอแก่
เปิดอ่าน 13,984 ครั้ง
6 ประการ สู่การเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานดีและมีความสุข
6 ประการ สู่การเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานดีและมีความสุข
เปิดอ่าน 14,819 ครั้ง
คืนนี้ชมจันทร์เต็มดวงขนาดใหญ่ และสว่างที่สุดในรอบปี
คืนนี้ชมจันทร์เต็มดวงขนาดใหญ่ และสว่างที่สุดในรอบปี
เปิดอ่าน 16,753 ครั้ง
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ