การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ
1) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ด้านโสตทักษะ เรื่องการฟังและปฏิบัติตรงระดับเสียง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า สมุทรปราการ
2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านโน้ตดนตรีสากล
3) เพื่อแก้ปัญหาอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนไม่เพียงพอ
4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อนวัตกรรมการสอนออนไลน์ VOCAL SWITCH
ประชากรที่จะศึกษาในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า สมุทรปราการ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 385 คน โดยใช้วิธีคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ใช้ระยะเวลา 8 สัปดาห์ โดยใช้เวลาในคาบเรียนวิชาดนตรี 2 สัปดาห์ละ 1 คาบเรียน คาบละ 50 นาที
การดำเนินการทดลองครั้งนี้ใช้แผนการวิจัยแบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียว วัดผลก่อนและหลังการทดลอง (The One Group, Pretest-Posttest Design)
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ นวัตกรรมการสอนออนไลน์ VOCAL SWITCH แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน และแบบประเมินความพึ่งพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย(x), ค่าความเบี่ยงเบนมาตฐาน(S.D.) และสถิติแบบ t-test dependent sample
ผลการศึกษาพบว่า
1.ผลสัมฤทธิ์ด้านโสตทักษะหลังการใช้นวัตกรรม VOCAL SWITCH มีผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน (= 2.7, S.D =1.49) และหลังเรียน (= 7.9 , S.D = 1.13) ซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่า การเรียนรายวิชาดนตรี 2 โดยใช้นวัตกรรมการสอนออนไลน์ VOCAL SWITCH ทำให้มีผลสัมฤทธิ์ด้านโสตทักษะ เรื่องการฟังและปฏิบัติตรงระดับเสียง สูงขึ้น
2. ผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านโน้ตหลังการใช้นวัตกรรม VOCAL SWITCH มีผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน (= 0.6, S.D =0.66) และหลังเรียน (= 9.7 , S.D = 0.45) ซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่า การเรียนรายวิชาดนตรี 2 โดยใช้นวัตกรรมการสอนออนไลน์ VOCAL SWITCH ทำให้มีผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านโน้ตดนตรีสากล สูงขึ้น
3. สามารถแก้ปัญหาอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนไม่เพียงพอได้ โดยการใช้ร่างกายสร้างจังหวะให้ตรงกับดนตรี
4. ความพึงพอใจต่อการใช้นวัตกรรมการสอนออนไลน์ VOCAL SWITCH ผลการวิเคราะห์อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด