ชื่อเรื่อง : การวิจัยเรื่อง รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่าย
เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
ผู้วิจัย : ฮาบีบะ หลงสลำ
ปีการศึกษา : 2566
การวิจัยเรื่องรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูลครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันโดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล 4) เพื่อศึกษาผลการประเมินรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล โดยมีขั้นตอนการวิจัย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์บริบทของโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล โดยการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสภาพของโรงเรียนบ้านท่าแพ ได้แก่ แผนกลยุทธ์การพัฒนาสถานศึกษา แผนปฏิบัติการ และรายงานการประเมินตนเอง (SAR) การสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง การศึกษาความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องต่อรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ จากผู้บริหาร ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง รวมทั้งสิ้นจำนวน 172 คนโดยใช้แบบสอบถามความคิดเห็น และวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT) ของโรงเรียนบ้านท่าแพจากผู้บริหาร ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง รวมทั้งสิ้นจำนวน 172 คน โดยใช้แบบบันทึกสภาพแวดล้อมภายใน และภายนอก (SWOT) ของโรงเรียนบ้านท่าแพจากนั้นทำการวิเคราะห์เนื้อหาและสรุปข้อมูล (Content analysis) ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล โดยยกร่างรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ จากการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และสังเคราะห์ข้อมูล แล้วตรวจสอบคุณภาพร่างรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ โดยใช้ Focus Group Discussion แล้ววิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และการสังเคราะห์ข้อมูล ขั้นตอนที่ 3 ผลการนำรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล ไปสู่การปฏิบัติจริง โดยครูโรงเรียนบ้านท่าแพ ปีการศึกษา 2566 จำนวน 11 คน ประเมินคุณภาพรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบประเมิน สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และขั้นตอนที่ 4 ผลการใช้รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล โดยพิจารณาจากผลงานทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ ซึ่งผู้วิจัยเก็บข้อมูลด้วยแบบบันทึก และวิเคราะห์ความพึงพอใจหลังการใช้รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ จากผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 172 คน ปีการศึกษา 2566 โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจ สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการวิเคราะห์บริบทของโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
1.1 ผลการศึกษาสภาพโรงเรียนบ้านท่าแพ พบว่า สถานศึกษามีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ มีระบบการประกันคุณภาพภายในและภายนอก มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ โดยมาตรฐานที่ 1 คุณภาพผู้เรียน มีระดับคุณภาพอยู่ในระดับ ดี (ระดับ 3) มาตรฐานที่ 2 มาตรฐานกระบวนการบริหารและการจัดการ มีระดับคุณภาพอยู่ในระดับ ดี (ระดับ 3) และมาตรฐานที่ 3 คุณภาพการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีระดับคุณภาพอยู่ในระดับ ดี (ระดับ 3)
1.2 ผลการศึกษารูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียน พบว่า วิเคราะห์ตัวแปรที่สอดคล้องกันได้ 14 รายการ
1.3 ผลการศึกษาความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องต่อรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ พบว่าโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตรวมเท่ากับ 4.51 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.66
1.4 ผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT) ของโรงเรียนบ้านท่าแพ พบว่า คะแนนเฉลี่ยปัจจัยภายใน เท่ากับ 1.19 และคะแนนเฉลี่ยปัจจัยภายนอก เท่ากับ 0.18
2. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
2.1 ยกร่างรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ พบว่า ประกอบด้วย กลยุทธ์ที่ 1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาที่เน้นสมรรถนะที่จำเป็น นำความรู้ คู่คุณธรรม กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนาระบบบริหารการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่เน้นการมีส่วนร่วม กลยุทธ์ที่ 3 พัฒนาระบบการบริหารในสถานศึกษาให้มีความพร้อมควบคู่เทคโนโลยี กลยุทธ์ที่ 4 ส่งเสริมให้มีการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการในการจัดการศึกษา กลยุทธ์ที่ 5 เสริมสร้างโอกาสและความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และกลยุทธ์ที่ 6 พัฒนาสถานศึกษาให้มีความปลอดภัยแก่ผู้เรียน
2.2 ผลการตรวจสอบคุณภาพร่างรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ พบว่า ด้านความเป็นไปได้ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเลขคณิต เท่ากับ 4.65 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.53 ด้านความเป็นประโยชน์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเลขคณิต เท่ากับ 4.71 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.52 ด้านความเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเลขคณิต เท่ากับ 4.70 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.50 และด้านความถูกต้อง ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเลขคณิต เท่ากับ 4.64 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.50
3. ผลการนำรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล ไปสู่การปฏิบัติจริง พบว่า ด้านความเหมาะสม ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเลขคณิต เท่ากับ 4.63 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.54 และด้านความเป็นประโยชน์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเลขคณิต เท่ากับ 4.67 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.52
4. ผลการใช้รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล
4.1 ทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล พบว่า นักเรียนได้ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมทักษะชีวิต ทักษะอาชีพและสมรรถนะของผู้เรียน รวม 18 โครงการ
4.2 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจหลังการใช้รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล หลังการใช้รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์โดยใช้เบญจภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าแพ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล พบว่า ความพึงพอใจของผู้ปกครอง ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเลขคณิต เท่ากับ 4.60 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.57