บทสรุปผู้บริหาร
ชื่อผลงาน : การพัฒนาระบบแนะแนว (coaching)การศึกษามุ่งสู่อาชีพ โรงเรียนโยธินบำรุง
ผู้รายงาน : นายเถกิงศักดิ์ ชะนะทอง
ตำแหน่ง : รองผู้อำนวยการโรงเรียนโยธินบำรุง
สถานศึกษา : โรงเรียนโยธินบำรุง สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช
ปีที่ประเมิน : ประจำปี 2567
บทสรุปผู้บริหาร
รายงานวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เรื่อง การพัฒนาระบบแนะแนว (coaching)การศึกษามุ่งสู่อาชีพ โรงเรียนโยธินบำรุง
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราชมี
มีวัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาระบบแนะแนว(coaching)อย่างเป็นระบบ
2. เพื่อพัฒนาการแนะแนวด้านการศึกษามุ่งสู่อาชีพตรงกับความถนัด
3. เพื่อความพึงพอใจต่อการบริการแนะแนวโรงเรียนโยธินบำรุง
4. เพื่อยกระดับการบริการแนะแนวของโรงเรียนให้มีคุณภาพและยั่งยืน
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้บริหาร และครูบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนโยธินบำรุง จำนวน 100 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 2,072 คน โดยใช้กลุ่มตัวอย่าง สุ่มแบบง่าย(Simple Random Sampling)
ผลการรายงานพบว่า
1. ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการพัฒนาระบบแนะแนว (coaching)การศึกษามุ่งสู่อาชีพ โรงเรียนโยธินบำรุง ของผู้บริหาร และครูบุคลากรทางการศึกษา พบว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ โดยภาพรวมผู้บริหาร และครูบุคลากรทางการศึกษา มีความเห็นว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
2. ผลการดำเนินการพัฒนาการแนะแนวด้านการศึกษามุ่งสู่อาชีพตรงกับความถนัด พบว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ นักเรียน มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน สามารถวางแผนการเรียน การศึกษาต่อ และการเลือกอาชีพได้อย่างเหมาะสมโดยมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เข้าศึกษาต่อร้อยละ 100 ได้ศึกษาต่อสายสามัญ 64.01 ที่ได้ศึกษาต่อสายอาชีพ 35.99 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย ร้อยละ 100 ได้ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย โดยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/7 ห้องเรียนพิเศษมุ่งสู่แม่พิมพ์ จำนวน 29 คน ได้ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย คณะศึกษาศาสตร์และครุศาสตร์ คิดเป็นร้อยละ 100 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 ห้องเรียนพิเศษมุ่งสู่ทหาร จำนวน 23 คน ได้ศึกษาต่อโรงเรียนทหาร จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 56.52 และได้ศึกษาเฉพาะทางโรงเรียนทหาร คิดเป็นร้อยละ 7.56 ของระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนทั้งหมด
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการบริการแนะแนวโรงเรียนโยธินบำรุง พบว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ในภาพรวมนักเรียน มีความเห็นว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาผลการประเมินในแต่ละด้าน เรื่องที่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก สูงสุด ได้แก่ ด้านการศึกษา เรื่องแนวทางในการเตรียมตัวสอบ รองลงมามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ได้แก่ ด้านอาชีพ ส่วนเรื่องที่มีความพึงพอใจต่ำสุด อยู่ในระดับ มาก ด้านส่วนตัวและสังคม กล่าวโดยสรุป ผลการประเมินความพึงพอใจต่อการบริการแนะแนวโรงเรียนโยธินบำรุง นักเรียนมีความเห็นว่ามีความพึงพอใจต่อการบริการแนะแนวโรงเรียนโยธินบำรุง อยู่ในระดับมากและผ่านเกณฑ์ การประเมินทุกเรื่อง
4. ผลการยกระดับการบริการแนะแนวของโรงเรียนมีคุณภาพและยั่งยืน ซึ่งงานแนะแนวมีการยกระดับการบริการ และมีคุณภาพอย่างยั่งยืน สามารถเป็นต้นแบบแนวปฏิบัติที่ดีแก่สถานศึกษาอื่น ๆ จากการดำเนินงานตามกรอบแนวคิด C-PATH Y.B. พบว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ มีประสิทธิภาพสูงในหลายมิติ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาศักยภาพรายบุคคลของนักเรียน เนื่องจากมีการวางระบบที่เชื่อมโยงกระบวนการโค้ชชิ่งรายบุคคล (C) เข้ากับข้อมูลเชิงลึกด้านความสนใจและความถนัดของนักเรียน (P) สนับสนุนด้วยฐานข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาต่อและอาชีพ (A) จัดกิจกรรมที่เน้นทักษะและความสามารถเฉพาะบุคคล (T) พร้อมทั้งมีระบบติดตามประเมินผลแบบองค์รวม (H) และสามารถบูรณาการกับกิจกรรมในบริบทของโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Y.B.) ทำให้นักเรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้ ลดอัตราการออกกลางคันและการเปลี่ยนแผนการเรียน และเพิ่มความชัดเจนในการวางเป้าหมายชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนและศักยภาพของนักเรียนเป็นรายบุคคล
ข้อเสนอแนะ
1. พัฒนาระบบฐานข้อมูลนักเรียนให้เป็นดิจิทัลแบบออนไลน์ เพื่อให้ครูสามารถเข้าถึงและอัปเดตข้อมูลได้สะดวก
2. จัดอบรมพัฒนาศักยภาพครูด้านการโค้ชชิ่งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทักษะการฟัง การตั้งคำถาม และการสะท้อนกลับ
3. ขยายความร่วมมือกับภาคีภายนอก เช่น มหาวิทยาลัย สถานประกอบการ หรือหน่วยงานแนะแนววิชาชีพ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้นักเรียน
4. พัฒนากลไกติดตามศิษย์เก่าเพื่อประเมินผลในระยะยาวเกี่ยวกับความสอดคล้องของการแนะแนวกับเส้นทางชีวิตจริง