ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

“พัฒนาทักษะอ่านออกเขียนได้ โดยกระบวนการ 4 Steps (เตรียม-อ่าน-สื่อสาร-ต่อยอด) สู่ผู้เรียนคุณภาพอย่างยั่งยืน”

1. ความสำคัญของผลงาน นวัตกรรม หรือแนวปฏิบัติที่นำเสนอ

การอ่านออกเขียนได้เป็นทักษะที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งของผู้เรียนสำหรับการเรียนรู้และการพัฒนาชีวิตสู่ความสำเร็จในศตวรรษที่ 21 การพัฒนาทักษะในการอ่านออก เขียนได้ และสื่อสารได้ เป็นการส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ให้แก่ผู้เรียนตั้งแต่เยาว์วัย ซึ่งเป็นทักษะที่มีความจำเป็น เนื่องจากเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ การพัฒนาความรู้ กระบวนการคิด วิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาตนเองและสังคม ทั้งนี้เพื่อให้สามารถเรียนรู้ในระดับที่ซับซ้อนขึ้นเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นประชากรที่มีคุณภาพในอนาคต ดังพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงกล่าวขึ้นในงาน วันภาษาไทยแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2549 ซึ่งจัดโดยสมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ “การจัดการเรียนการสอนภาษาไทย” โดยพระองค์ทรงเป็นองค์ประธานและเสด็จฯ พระราชทานปาฐกถา ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ดังว่า

ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีนโยบายมุ่งเน้นในการพัฒนาและเสริมความความเข้มแข็งในการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการอ่านและเขียนภาษาไทย โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ซึ่งมีการประเมินอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น การจัดการเรียนรู้ภาษาไทยให้ผู้เรียนอ่านออกเขียนได้ อ่านคล่อง เขียนคล่อง ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จะเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น และใช้ภาษาไทยเป็นเครื่องมือในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นรากฐานที่มั่นคงของการศึกษาของชาติ

ผลการประเมินคัดกรองการอ่านและเขียนภาษาไทยในแต่ละระดับชั้นของโรงเรียนบ้านดอนทราย พบว่าผู้เรียนส่วนใหญ่มีพัฒนาการในการอ่านออกเขียนได้อย่างน่าพอใจ โดยผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ในปีการศึกษา 2567 ของผู้เรียนที่อยู่ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 98.21 อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนมีเป้าหมายที่จะพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ให้สูงขึ้น เพื่อแก้ปัญหาด้านการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ซึ่งมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ในปีการศึกษา 2567 ของผู้เรียนที่อยู่ในระดับผ่านเกณฑ์ คิดเป็นร้อยละ 1.79 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ในภาพรวม และอาจทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาภาษาไทย รวมถึงวิชาอื่น ๆ ในหลักสูตรลดลง อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการประเมินผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test : RT) การทดสอบความสามารถพื้นฐานระดับชาติ (National Test : NT) และการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-NET (Ordinary National Educational Test)

จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น ผู้รายงานจึงได้นำหลักการ “พัฒนาทักษะอ่านออกเขียนได้ โดยกระบวนการ 4 Steps (เตรียม-อ่าน-สื่อสาร-ต่อยอด) สู่ผู้เรียนคุณภาพอย่างยั่งยืน” หลักการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ และเพื่อส่งเสริมผู้เรียนที่อ่านออกเขียนได้ให้มีการพัฒนาที่ดีขึ้นต่อไป ซึ่งจะช่วยยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาภาษาไทยและการเรียนรู้รายวิชาอื่น ๆ ให้สูงขึ้น อีกทั้งการประเมินความสามารถด้านการอ่านและการเขียนให้มีค่ามากกว่าร้อยละ 80 ตามที่โรงเรียนได้กำหนด รวมถึงการยกระดับผลสัมฤทธิ์การทดสอบระดับชาติให้มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศ ทั้งนี้เพื่อส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียนให้มีนิสัยรักการอ่านและการเขียนอย่างยั่งยืน

2. จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน

2.1 จุดประสงค์

2.1.1 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถอ่านออก เขียนได้ ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 โดยกระบวนการ 4 Steps

2.1.2 เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย ผู้เรียนมีความสามารถด้านการอ่านและการเขียน นำไปใช้ในการเรียนรู้รายวิชาอื่น ๆ ได้

2.1.3 เพื่อยกระดับผลการทดสอบระดับชาติ RT , NT และ O-NET ในรายวิชาภาษาไทยของผู้เรียนโรงเรียนบ้านดอนทรายให้มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศ

2.1.4 เพื่อปลูกฝังผู้เรียนให้มีนิสัยในรักการอ่านและการเขียนที่ยั่งยืน

2.2 เป้าหมายของผลงาน

เป้าหมายเชิงปริมาณ

2.2.1 ผู้เรียนระดับชั้น ป.1-6 โรงเรียนบ้านดอนทราย ร้อยละ 80 อ่านออกเขียนได้ ตามมาตรฐานการคัดกรองจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์อยู่ในระดับดีเยี่ยมขึ้นไป

2.2.2 ผู้เรียนระดับชั้น ป.1-6 โรงเรียนบ้านดอนทราย ร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยสูงขึ้น

2.2.3 ผู้เรียนระดับชั้น ป.1-6 โรงเรียนบ้านดอนทราย มีผลคะแนนเฉลี่ยการทดสอบระดับชาติ RT, NT และ O-NET ในรายวิชาภาษาไทย ค่าเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศ ในปีการศึกษา 2567

2.2.4 ผู้เรียนระดับชั้น ป.1-6 โรงเรียนบ้านดอนทราย ร้อยละ 80 มีนิสัยรักการอ่าน โดยมีสถิติการเข้าใช้บริการห้องสมุดจากจำนวนผู้เรียนทั้งหมด ในปีการศึกษา 2567

เป้าหมายเชิงคุณภาพ

2.2.1 ผู้เรียนระดับชั้น ป.1-6 โรงเรียนบ้านดอนทรายมีพัฒนาการเกี่ยวกับการอ่านและการเขียนที่ดีขึ้น มีผลสัมฤทธิ์และผลการทดสอบสูงขึ้น เกิดความรับผิดชอบและเสริมสร้างการมีวินัยในการอ่านหนังสือ ส่งผลให้มีนิสัยรักการอ่านและการเขียนที่ยั่งยืน

3. กระบวนการผลิตผลงานหรือขั้นตอนการดำเนินงาน

หลักการ “พัฒนาทักษะอ่านออกเขียนได้ โดยกระบวนการ 4 Steps (เตรียม-อ่าน-สื่อสาร- ต่อยอด) สู่ผู้เรียนคุณภาพอย่างยั่งยืน” เป็นหลักการที่ผู้รายงานได้นำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ของผู้เรียนโรงเรียนบ้านดอนทราย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้โดยรวม การดำเนินการตามหลักการดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในด้านพฤติกรรมของผู้เรียน โดยเฉพาะความรับผิดชอบ ความมีวินัย และการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ทั้งยังเป็นการสร้างพื้นฐานสำคัญ ในด้านคุณธรรมจริยธรรม อันจะนำไปสู่การพัฒนาผู้เรียนให้เป็น “คนดี” และ “คนเก่ง” ตามเจตนารมณ์ของการจัดการศึกษา ในการขับเคลื่อนกิจกรรม ผู้รายงานได้ดำเนินการทั้งภายในโรงเรียนและขยายผลสู่ผู้ปกครอง โดยมีการสื่อสารและสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครอง ส่งผลให้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริมพฤติกรรมการอ่านและเขียนของนักเรียนในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่งผลให้ทั้งผู้เรียนและผู้ปกครองเกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกอย่างเป็นรูปธรรม หลักการนี้ยังสอดคล้องกับพระประสงค์ของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงส่งเสริมให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านอย่างยั่งยืน ทั้งนี้กระบวนการดำเนินงานเป็นไปตามหลักการของ PDCA ซึ่งช่วยให้การพัฒนางานมีความเป็นระบบ ตรวจสอบได้ และนำไปสู่การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

กระบวนการ 4 Steps คือ หลักการหรือวิธีการดำเนินงานที่ผู้รายงานนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติภายในโรงเรียนบ้านดอนทรายภายใต้กระบวนการทำงาน PDCA มีดังนี้

P (Plan)

ผู้บริหาร คณะครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้รายงาน ได้ร่วมกันประชุม เพื่อประเมินและวิเคราะห์ผลการคัดกรองการอ่านและเขียนภาษาไทย รวมถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และผลการทดสอบระดับชาติของผู้เรียน พร้อมทั้งพิจารณาปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากกระบวนการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาภาษาไทย จากการประชุมดังกล่าว ได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การวางแผนดำเนินโครงการ พร้อมกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนในการแก้ไขปัญหา ส่งเสริม และพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ของผู้เรียน รวมถึงยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและผลการทดสอบระดับชาติในรายวิชาภาษาไทยให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผู้รายงานและบุคลากรทางการศึกษาได้กำหนดแนวทางการดำเนินกิจกรรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยของผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยรูปแบบกิจกรรมได้รับการออกแบบให้ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการสร้างนิสัยรักการอ่านอย่างยั่งยืน โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นดำเนินโดยกระบวนการ 4 Steps (เตรียม – อ่าน – สื่อสาร- ต่อยอด)

D (DO)

การลงมือปฏิบัติร่วมกันของผู้รายงาน คณะครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้เรียนทุกคน ผ่านการดำเนินกิจกรรมอย่างเป็นระบบโดยกระบวนการ 4 Steps (เตรียม – อ่าน – สื่อสาร – ต่อยอด) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนให้เกิดผลอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ดังนี้

ขั้นเตรียม (Preparation)

ขั้นเตรียมถือเป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางรากฐานการเรียนรู้ของผู้เรียนโดยเฉพาะในเรื่องของการอ่านและการเขียนภาษาไทย ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น การเตรียมความพร้อมของผู้เรียนทั้งในด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และความรู้พื้นฐานก่อนเข้าสู่บทเรียน จะช่วยให้ผู้เรียนมีสมาธิ เปิดใจรับสิ่งใหม่ และกล้าแสดงออกทางภาษาได้อย่างมั่นใจ ในการดำเนินกิจกรรมขั้นเตรียม ผู้รายงานได้มีการทบทวนเนื้อหาเก่า เช่นทบทวนคำศัพท์พื้นฐานจากระดับชั้นเดิมเพื่อทำให้สามารถประเมินพฤติกรรมตั้งต้นเพื่อปรับวิธีการสอนได้อย่างเหมาะสมและเพื่อให้ผู้เรียนได้เตรียมความพร้อมจะก้าวเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ การดำเนินการในขั้นเตรียมเน้นกิจกรรมฝึกทักษะพื้นฐานก่อนอ่าน ซึ่งภายในกิจกรรมประกอบด้วย ฝึกการแยกพยัญชนะ - สระ - วรรณยุกต์ และฝึกออกเสียงแบบประสมคำ

ขั้นอ่าน (Reading)

ขั้นอ่าน เป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการส่งเสริมทักษะภาษาไทย โดยเฉพาะในระดับประถมศึกษาตอนต้นที่ผู้เรียนกำลังอยู่ในช่วงวัยของการสร้างพื้นฐานการอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง ชัดเจน และนำไปสู่การอ่านรู้เรื่องอย่างมีความหมาย การเรียนรู้ในขั้นอ่านจึงไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การอ่านออก แต่ต้องพัฒนาทั้งด้านความเข้าใจ ความคล่อง และการจับใจความของสิ่งที่อ่าน ในขั้นตอนนี้ ผู้รายงานได้จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนฝึกอ่านอย่างหลากหลายรูปแบบ และเน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ โดยเริ่มจาก การอ่านแบบเป็นกลุ่ม เพื่อสร้างความกล้าและลดความประหม่า แล้วจึงค่อยๆ ปรับเข้าสู่ การอ่านรายบุคคล ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกอ่านอย่างอิสระตามศักยภาพของตนเอง โดยมีการฝึกอ่านช่วงพักกลางวันและหลังเลิกเรียนทุกวัน สื่อที่ใช้ในขั้นนี้จะถูกคัดเลือกให้เหมาะสมกับวัยและระดับความสามารถ เช่น แบบฝึกอ่านคำพยัญชนะ-สระ คำศัพท์พื้นฐานภาษาไทยในแต่ละระดับชั้น หนังสือเรียน นิทานต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเน้นการฝึกอ่านเชิงความเข้าใจ โดยใช้คำถามชี้นำหลังการอ่าน เช่น “ตัวละครนี้ทำอะไร” เป็นต้น เพื่อกระตุ้นกระบวนการคิด วิเคราะห์ และเชื่อมโยง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดสู่ทักษะการเขียนและการสื่อสาร

ขั้นสื่อสาร (Communication)

ขั้นสื่อสาร คือกระบวนการที่เน้นให้ผู้เรียนได้นำสิ่งที่ตนได้เรียนรู้จากการอ่าน มาถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดและตัวหนังสืออย่างมีความหมาย ด้วยภาษาของตนเอง ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การเล่าเรื่อง การตอบคำถาม การเขียนสรุป เป็นต้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร ทั้งในด้านการพูดและการเขียนให้สอดคล้องกับช่วงวัย

ขั้นต่อยอด (Extension)

ขั้นต่อยอด คือกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะที่สูงขึ้น จากสิ่งที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ในขั้นก่อนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการอ่านและการสื่อสาร ให้สามารถเชื่อมโยง ประยุกต์ใช้ คิดวิเคราะห์ และสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ได้ด้วยตนเอง เป็นขั้นที่ช่วยหล่อหลอมให้ผู้เรียนเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิตและสามารถใช้ภาษาไทยเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ในรายวิชาอื่นและการดำรงชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ กิจกรรมที่ใช้ในขั้นต่อยอด ได้แก่ การตั้งคำถามปลายเปิดจากเรื่องที่อ่านฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ เพื่อนำไปสู่การเตรียมความพร้อมในการทดสอบระดับชาติ RT , NT และ O-NET กิจกรรมในขั้นต่อยอดจึงมีบทบาทสำคัญในการ “วางรากฐานเชิงคุณภาพ” ให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอย่างเข้าใจ คิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล และถ่ายทอดได้อย่างมั่นใจ ซึ่งล้วนเป็นทักษะสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและผลการสอบในระดับชาติอย่างยั่งยืน

โพสต์โดย ครูอภิชญา : [16 ก.ค. 2568 (01:05 น.)]
อ่าน [59569] ไอพี : 182.53.137.184
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,898 ครั้ง
มาแล้ว! เอ็มวี ซิงเกิ้ล "Gentleman" ของ "ไซ (PSY)"
มาแล้ว! เอ็มวี ซิงเกิ้ล "Gentleman" ของ "ไซ (PSY)"

เปิดอ่าน 8,446 ครั้ง
เคล็ดลับเรียนแล้วรวย
เคล็ดลับเรียนแล้วรวย

เปิดอ่าน 13,426 ครั้ง
โรคกระดูกพรุน..ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง
โรคกระดูกพรุน..ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง

เปิดอ่าน 90,407 ครั้ง
เทคนิคพิเศษในการระบายสี
เทคนิคพิเศษในการระบายสี

เปิดอ่าน 23,852 ครั้ง
วิจัยพบ "สารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น" ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
วิจัยพบ "สารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น" ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

เปิดอ่าน 19,110 ครั้ง
กินปลาจะช่วยป้องกันรักษาชีวิต สกัดหลอดเลือดตีบตัน
กินปลาจะช่วยป้องกันรักษาชีวิต สกัดหลอดเลือดตีบตัน

เปิดอ่าน 23,162 ครั้ง
10 สายพันธุ์สุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก
10 สายพันธุ์สุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 66,895 ครั้ง
ค่าการศึกษาของบุตร ของข้าราชการครูฯ
ค่าการศึกษาของบุตร ของข้าราชการครูฯ

เปิดอ่าน 12,392 ครั้ง
"พระโค"เสี่ยงทายกินหญ้าน้ำท่า-อาหารบริบูรณ์
"พระโค"เสี่ยงทายกินหญ้าน้ำท่า-อาหารบริบูรณ์

เปิดอ่าน 44,699 ครั้ง
ประวัติศาสตร์ไทย
ประวัติศาสตร์ไทย

เปิดอ่าน 28,239 ครั้ง
ใช้ยานอนหลับกับข้อควรระวัง
ใช้ยานอนหลับกับข้อควรระวัง

เปิดอ่าน 42,490 ครั้ง
คำแนะนำสำหรับนักเรียน และ ครูผู้สอน ในการสอบ O-NET วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบอัตนัย
คำแนะนำสำหรับนักเรียน และ ครูผู้สอน ในการสอบ O-NET วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบอัตนัย

เปิดอ่าน 16,876 ครั้ง
ดื่มน้ำแค่ไหนจึงจะพอ?
ดื่มน้ำแค่ไหนจึงจะพอ?

เปิดอ่าน 11,598 ครั้ง
1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก
1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก

เปิดอ่าน 5,686 ครั้ง
เตรียมพร้อม สอบ O-NET ปีการศึกษา 2565
เตรียมพร้อม สอบ O-NET ปีการศึกษา 2565

เปิดอ่าน 13,313 ครั้ง
รู้ทันแก๊งบัตรเครดิต ขโมยง่ายกว่า ATM
รู้ทันแก๊งบัตรเครดิต ขโมยง่ายกว่า ATM
เปิดอ่าน 13,008 ครั้ง
5 สเต็ปคิดสักนิดก่อนตัดสินใจกู้
5 สเต็ปคิดสักนิดก่อนตัดสินใจกู้
เปิดอ่าน 21,952 ครั้ง
เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี
เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี
เปิดอ่าน 19,537 ครั้ง
ประกาศศธ. เรื่อง วรรณคดีสำหรับจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลาง 2551
ประกาศศธ. เรื่อง วรรณคดีสำหรับจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลาง 2551
เปิดอ่าน 14,822 ครั้ง
ควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ได้อย่างไร
ควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ได้อย่างไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ