ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center

1. ความเป็นมาและความสำคัญ

คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาความคิดมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหา และสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ทำให้สามารถคาดการณ์ วางแผนตัดสินใจ และแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม คณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือในการศึกษา วิทยาศาตร์และเทคโนโลยีตลอดจนศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง คณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต และ ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังช่วยพัฒนามนุษย์ ให้สมบูรณ์ มีความสมดุลทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และอารมณ์ สามารถคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข(สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2556: 1)

คณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษาเป็นเหมือนส่วนพื้นฐานของการเรียนคณิตศาสตร์ จึงคาดหวังเป็น อย่างยิ่งว่าการจัดหลักสูตรให้นักเรียนได้เรียนรู้แนวคิดหลักการคณิตศาสตร์ที่จำเป็น ให้นักเรียนได้เข้าใจ อย่างลึกซึ้งมากกว่าการท่องจำพัฒนาความรู้สึกทางคณิตศาสตร์ที่สำคัญต่างๆ เช่น ความรู้สึกเชิงจำนวน การนึกภาพ นักเรียนได้มีโอกาสที่จะคิด ได้พัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่ปรับเปลี่ยน สอดคล้องกับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เพื่อเป็นพื้นฐานความเข้าใจในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในระดับที่สูงขึ้น (เหมือนฝัน เยาวิวัฒน์, 2556 : 18)

ในยุคดิจิทัล สื่อเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยให้ครูจัดการเรียนการสอน รวมไปถึงเป็นการพัฒนาผู้เรียนให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเด็กๆ มีความรู้ ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้น อีกทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับการเรียนรู้ของนักเรียนค่อนข้างหลากหลาย และเพื่อให้ผู้เรียนได้เกิดสมรรถนะต่างๆ การนำเทคโนโลยีมาบูรณาการร่วมกับการจัดการเรียนการสอนจึงเป็นสิ่งสำคัญ และมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเปิดโอกาสให้ผู้เรียน ได้ใช้ความสามารถของตนเองในการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังกระตุ้นความสนใจในการเรียนได้มากขึ้น จากการใช้เทคโนโลยีในการสร้างสื่อให้มีความหลากหลาย และยังเป็นการเตรียมความพร้อมของ

นักเรียนเพื่อเข้าสู่สังคมยุคใหม่ ดังนั้น เทคโนโลยีจึงเป็นทางเลือกในการเรียน เพื่อตอบสนองการเรียนรู้ที่แตกต่างของนักเรียนได้

จากการจัดการเรียนการสอนที่ผ่านมา ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในรายวิชาคณิตศาสตร์ พบว่า นักเรียนไม่สามารถบอกเวลานาฬิกาแบบเข็มได้ มีการบอกเวลาที่ผิดไม่ถูกต้อง ไม่สามารถอธิบายวิธีการบอกเวลาได้ ทั้งนี้เนื่องจากนักเรียนไม่ฝึกคิด ไม่ทบทวน ขาดการฝึกฝนอยางต่อเนื่อง จนทําให้นักเรียนคิดว่าเนื้อหาที่เรียนยากจนเกิดความเบื่อหน่ายในวิชาคณิตศาสตร์ จึงส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์การเรียนวิชาคณิตศาสตร์แย่ลง เป็นผลกระทบโดยตรงต่อการเรียนในระดับที่สูงขึ้น และเป็นอุปสรรค์ต่อการพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์

เพื่อแก้ปัญหาดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ในฐานะที่เป็นผู้สอนในรายวิชาคณิตศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในกระบวนการจัดการเรียนการสอน โดยใช้เว็บไซต์ OBEC Content Center โดยออกแบบวิธีการสอนที่เหมาะสมเข้าไปในกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเรียน ซึ่งวิธีสอนตามแนวการสอนที่นํามาใช้ในการจัดการเรียนรู้ เป็นวิธีการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถใช้ทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ต้องอาศัยทักษะและวิธีการที่ซับซ้อนในการส่งเสริม ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ควรเริ่มต้นตั้งแต่ระดับอนุบาลและระดับประถมศึกษาเพราะเด็กวัยนี้มีความ อยากรู้ อยากลองแสวงหาคำตอบ ชอบความท้าทาย การผจญภัย การทดลอง การเรียนด้วยการลงมือ ปฏิบัติซึ่งสอดคล้องกับหลักการของจอห์น ดิวอี้ (John Dewey) เรื่องการเรียนรู้จากการลงมือทำ (Learning by doing) ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของบรูเนอร์ (Bruner) เกี่ยวกับการเรียนรู้ว่า ผู้เรียน ทุกระดับชั้นมีพัฒนาการสามารถเรียนรู้เนื้อหาใดก็ได้ถ้ามีแรงจูงใจและมีการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนให้ตรงกับความสามารถและจัดเนื้อหาให้เรียงลำดับตามความยากง่ายของเนื้อหาก็จะทำให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้ได้ตามที่ต้องการ และถ้าหากเราได้จัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจนเกิด การเรียนรู้กระบวนการต่าง ๆ จนกลายเป็นความชำนาญเป็นทักษะที่แต่ละบุคคลจะมีติดตัวผู้เรียนไป ตลอดชีวิตซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ Montessori ที่ว่าเด็กทุกคนมีจิตซึมซับ คือถ้าเด็กได้ลงมือทำ อะไรหรือมีประสบการณ์หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมอย่างไรเขาก็จะซึมซับสิ่งนั้นติดตัวไปและจะเป็นการ เตรียมการที่ดีถ้าหากเราได้ฝึกให้นักเรียนได้ฝึกกระบวน การทางคณิตศาสตร์ให้ติดเป็นนิสัยทำจนเกิด ความชำนาญเป็นทักษะและเมื่อมีมโนทัศน์ (concept) ที่ถูกต้องชัดเจนร่วมกับทักษะและ กระบวนการที่ถูกต้องก็จะส่งผลให้นักเรียนนั้นมีจิตคณิตศาสตร์ที่แข็งแกร่งต่อไป

จากการศึกษาหลักการและเหตุผลดังกล่าว จึงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผู้เรียนโดยการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาทีให้มากขึ้น เกิดความรู้ความเข้าใจ รวมทั้ง เกิดความชํานาญในทักษะการสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น

2. วัตถุประสงค์

1. เพื่อพัฒนาการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที

2. เพื่อให้นักเรียนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน

3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center

3. ขั้นตอนการดำเนินงาน

3.1 เป้าหมาย

3.1.1 กลุ่มเป้าหมาย

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 17 คน

3.1.2 เชิงปริมาณ

1) นักเรียนร้อยละ 70 สามารถพัฒนาการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที อยู่ในระดับดีมาก

2) นักเรียนร้อยละ 70 มีความใฝ่รู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน อยู่ในระดับดี

3) นักเรียนร้อยละ 70 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center

3.1.3 เชิงคุณภาพ

1) นักเรียนสามารถพัฒนาพัฒนาการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที ได้

2) นักเรียน มีความใฝ่รู้ และมีความมุ่งมั่นในการ

3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center

โพสต์โดย ni : [14 ก.ค. 2568 (14:31 น.)]
อ่าน [58823] ไอพี : 171.5.112.191
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,340 ครั้ง
ครูยุคใหม่ แค่มีจิตวิญญาณครู-ไม่พอ
ครูยุคใหม่ แค่มีจิตวิญญาณครู-ไม่พอ

เปิดอ่าน 15,320 ครั้ง
ตัวอย่างแนววินิจฉัยของ ก.พ.ค. 24 กรณี
ตัวอย่างแนววินิจฉัยของ ก.พ.ค. 24 กรณี

เปิดอ่าน 20,555 ครั้ง
เงินเดือน ผู้ว่าฯ กทม. เท่าไหร่??
เงินเดือน ผู้ว่าฯ กทม. เท่าไหร่??

เปิดอ่าน 13,018 ครั้ง
"เสือจับค้างคาว" ของขวัญพระราชทานปี
"เสือจับค้างคาว" ของขวัญพระราชทานปี '53

เปิดอ่าน 56,462 ครั้ง
ปัญหาเด็กไม่ยอมออกไปเล่นกลางแจ้งและวิธีแก้
ปัญหาเด็กไม่ยอมออกไปเล่นกลางแจ้งและวิธีแก้

เปิดอ่าน 13,425 ครั้ง
"โดนัท เซลฟี่" เทรนด์ใหม่มาแรง คืออะไร ไปดูกันครับ
"โดนัท เซลฟี่" เทรนด์ใหม่มาแรง คืออะไร ไปดูกันครับ

เปิดอ่าน 47,624 ครั้ง
วิธีแก้ the dependency service or group failed to start ใน Win7
วิธีแก้ the dependency service or group failed to start ใน Win7

เปิดอ่าน 5,081 ครั้ง
"ไหว้ 4 สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ค้าขายรุ่งเรือง
"ไหว้ 4 สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ค้าขายรุ่งเรือง

เปิดอ่าน 49,978 ครั้ง
6 หลักสำคัญ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กดี เก่ง มีความสุข
6 หลักสำคัญ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กดี เก่ง มีความสุข

เปิดอ่าน 7,276 ครั้ง
การละลาย (Solubility)
การละลาย (Solubility)

เปิดอ่าน 11,161 ครั้ง
วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน
วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน

เปิดอ่าน 17,802 ครั้ง
กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว
กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว

เปิดอ่าน 29,522 ครั้ง
ซักซ้อมแนวปฏิบัติการขออนุญาตไปต่างประเทศ (เพิ่มเติม)
ซักซ้อมแนวปฏิบัติการขออนุญาตไปต่างประเทศ (เพิ่มเติม)

เปิดอ่าน 30,521 ครั้ง
พยาธิใบไม้ในตับ
พยาธิใบไม้ในตับ

เปิดอ่าน 11,148 ครั้ง
เอกสารประกอบคำบรรยายประชุมขับเคลื่อนการปฏฺิรูปการศึกษาฯ โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา เมื่อวันที่ 11-13 พ.ค. 59
เอกสารประกอบคำบรรยายประชุมขับเคลื่อนการปฏฺิรูปการศึกษาฯ โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา เมื่อวันที่ 11-13 พ.ค. 59

เปิดอ่าน 24,707 ครั้ง
Franck Muller นาฬิกาไม่เรียงเลข โดดไปมา คลิกดูซิว่าทำงานยังไง
Franck Muller นาฬิกาไม่เรียงเลข โดดไปมา คลิกดูซิว่าทำงานยังไง
เปิดอ่าน 23,868 ครั้ง
ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก
ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก
เปิดอ่าน 16,806 ครั้ง
เรื่องกล้วย ๆ
เรื่องกล้วย ๆ
เปิดอ่าน 13,443 ครั้ง
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
เปิดอ่าน 14,371 ครั้ง
ยืดอายุหนูได้เท่าอายุคน125ปี อาจจะนำวิธีการมา ใช้กับมนุษย์
ยืดอายุหนูได้เท่าอายุคน125ปี อาจจะนำวิธีการมา ใช้กับมนุษย์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ