นวัตกรรม WANG-ON+ MODEL พัฒนาต่อยอดจาก WANG-ON MODEL ซึ่งเป็นโมเดลหลักของการใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษาในสถานศึกษา โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต ได้แก่ ทักษะกระบวนการคิด มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต อยู่อย่างพอเพียง และมีจิตสาธารณะ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการลงมือปฏิบัติจริง มีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมความร่วมมือจากครอบครัวและชุมชน ทั้งนี้ WANG-ON+ MODEL ได้ออกแบบกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับหลักการบริหารจัดการตามวงจร PDCA (Plan Do Check Act) อย่างเป็นระบบ โดยเริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์บริบทและวางแผน (Plan) การออกแบบและดำเนินกิจกรรม (Do) การติดตามประเมินผล (Check) และการพัฒนาเพื่อต่อยอดสู่ความยั่งยืน (Act) ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกถักทออยู่ในกรอบ WANGON อย่างกลมกลืนและเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนสุจริต
P Plan (วางแผน)
1) W Wayfinding = การกำหนดเป้าหมายและทิศทางงาน หมายถึง การวิเคราะห์บริบทของสถานศึกษาเพื่อกำหนดทิศทางของการพัฒนา โดยยึดตามเป้าหมายของโครงการโรงเรียนสุจริต ผ่านกิจกรรม ค้นหาตัวตน ฉันเป็นใคร อันได้แก่ การส่งเสริมคุณลักษณะ 5 ด้านของนักเรียน คือ 1) ทักษะกระบวนการคิด 2) มีวินัย 3) ซื่อสัตย์สุจริต 4) อยู่อย่างพอเพียง และ 5) จิตสาธารณะ โดยเน้นการเรียนรู้จากสถานการณ์จริงและบริบทของนักเรียนในโรงเรียนบ้านวังชะโอน เพื่อให้แผนงานตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริง สอดคล้องกับ: Reflective Thinking และ Community Linkage (ครูและครอบครัวช่วยวิเคราะห์ร่วมกัน)
2) A Arrangement = การออกแบบกิจกรรมและวางโครงสร้างงาน หมายถึง การออกแบบกิจกรรมที่ตอบสนองเป้าหมายทั้ง 5 ด้าน โดยจัดเป็นกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ ดังนี้
กิจกรรม ทางเลือก
ที่โลกต้องการ สำหรับพัฒนาทักษะคิด
กิจกรรม ภารกิจ 21 วัน พิชิตวินัย สำหรับส่งเสริมวินัย
กิจกรรม พูดความจริง...เรื่องเล็กก็สำคัญ เพื่อฝึกซื่อสัตย์
กิจกรรม เศรษฐกิจในกระเป๋า พอเพียงในใจ สำหรับส่งเสริมความพอเพียง
กิจกรรม สายใยใจอาสา เพื่อพัฒนาจิตสาธารณะ
โดยโครงสร้างงานจะระบุผู้รับผิดชอบหลัก ได้แก่ ครูผู้สอน 16 คน ที่ร่วมบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนตามระดับชั้น พร้อมทั้งวางแผนสนับสนุนจากผู้ปกครองและภาคีชุมชน สอดคล้องกับ: Learning by Doing, Moral Practice Cycle และ Community Linkage (ออกแบบกิจกรรมให้ปฏิบัติจริงทั้งที่โรงเรียนและบ้าน)
D Do (ดำเนินการ)
3) N Navigation = การดำเนินกิจกรรมตามแผนงาน หมายถึง การนำกิจกรรมต่าง ๆ ไปสู่การปฏิบัติจริง โดยมีการแบ่งบทบาทตามกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่
นักเรียน 159 คน มีส่วนร่วมในการลงมือทำกิจกรรมที่สะท้อนพฤติกรรมคุณธรรม
ครูดำเนินกิจกรรมและบันทึกผล
ผู้ปกครองช่วยติดตามพฤติกรรมที่บ้าน
ชุมชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมจิตอาสา
การดำเนินงานต้องมีความยืดหยุ่น เหมาะสมกับวัยและบริบทโรงเรียนขนาดเล็กในชนบท และใช้แนวคิดเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ (Experiential Learning) เพื่อให้คุณธรรมเกิดขึ้นจริง สอดคล้องกับ: Learning by Doing, Moral Practice Cycle, Community & Family Linkage
C Check (ตรวจสอบ/ประเมินผล)
G Guidance = การนิเทศ กำกับ และให้ข้อเสนอแนะอย่างมีระบบ หมายถึง การติดตามและกำกับอย่างเป็นระบบโดยใช้เครื่องมือ เช่น แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล การสะท้อนคิดประจำสัปดาห์ และการประชุมชั้นเรียน เพื่อให้ครูสามารถให้คำแนะนำรายบุคคล และส่งเสริมให้เกิดความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากภายใน โดยให้ความสำคัญกับการชื่นชมเชิงบวกมากกว่าการลงโทษ สอดคล้องกับ: Reflective Thinking และ Moral Practice Cycle
O Outcome Evaluation = การประเมินผลลัพธ์ของการดำเนินงาน หมายถึง การประเมินผลสำเร็จของนวัตกรรมผ่านหลักฐานเชิงประจักษ์ เช่น ผลการประเมินคุณลักษณะของนักเรียนในแต่ละด้าน แฟ้มสะสมพฤติกรรมคุณธรรม นิทรรศการ เส้นทางความดีของฉัน ผลสะท้อนจากผู้ปกครองและชุมชน ข้อมูลเหล่านี้นำมาเปรียบเทียบกับเป้าหมายเพื่อวิเคราะห์คุณภาพของกระบวนการและผลลัพธ์ สอดคล้องกับ: Reflective Thinking และ Community & Family Linkage
A Act (ปรับปรุง/พัฒนา)
N Next Step Development = การพัฒนาและต่อยอดสู่การยั่งยืน หมายถึง การขยายผลแนวปฏิบัติที่ดี โดยนำบทเรียนจากการดำเนินงานมาเผยแพร่สู่ชั้นเรียนอื่น โรงเรียนเครือข่าย และพัฒนาสู่ระบบการบริหารคุณธรรมแบบยั่งยืน เช่น การบรรจุแนวทางเข้าสู่แผนปฏิบัติการของโรงเรียนในปีต่อไป และการ บูรณาการกับหลักสูตรระดับชั้นเรียนให้เป็นระบบ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายผู้ปกครองและชุมชนที่มีส่วนร่วมในระยะยาว สอดคล้องกับ: Moral Practice Cycle และ Community & Family Linkage