ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน

บทคัดย่อ

หัวข้องานวิจัย รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิด

วิเคราะห์ของนักเรียน

ผู้วิจัย นายอภิวรุณ โสมมา

หน่วยงานที่รับผิดชอบ โรงเรียนบกวิทยาคม

การวิจัยในครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและสภาพความต้องการในการพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบ การพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1. กลุ่มผู้ร่วมวิจัย จำนวน 168 คนประกอบด้วย ครูผู้สอน จำนวน 13 คน และนักเรียน จำนวน 155 คน 2. กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ครูผู้สอน จำนวน 13 คน และนักเรียน จำนวน 155 คน และ 3. กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 16 คน ประกอบด้วย 3.1 ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษาที่โรงเรียนจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School และจิตศึกษา เช่นกัน ร่วมกำกับ ติดตาม ให้คำปรึกษา และนิเทศในการดำเนินการพัฒนาการจัด การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถ ในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน จำนวน 3 คน และ 3.2 กลุ่มผู้ร่วมวิจัย ประกอบด้วย ครูผู้สอนจำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ แบบทดสอบ แบบสอบถาม แบบสังเกต และแบบบันทึกประเด็นสนทนากลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x̄) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ค่า Wilcoxon Signed Ranks Test ค่า Paired–Samples T-Test และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและสภาพความต้องการในการพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน พบว่า กฎหมาย นโยบาย เป้าหมายผลการปฏิรูปการศึกษาในช่วงแรก ข้อเสนอแนะในการปฏิรูปการศึกษาในศตวรรษที่ 21 และแนวคิดทฤษฎีทางการศึกษาต่างๆ ได้แก่ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) จิตศึกษา สมรรถนะครูการฝึกอบรม การคิดวิเคราะห์ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ การนิเทศการศึกษา การฝึกอบรม และรูปแบบ ล้วนให้ความสำคัญกับการศึกษา และจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการคิดของผู้เรียน และทักษะ ในศตวรรษที่ 21 ส่วนการวิเคราะห์สภาพปัจจุบันและสภาพความต้องการเกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนนั้น พบว่า ปัญหาที่ต้องทำการแก้ไขเร่งด่วนคือ การคิดวิเคราะห์ของของนักเรียน ครู ร้อยละ 85 ยังขาดศักยภาพและสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้และการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน จากข้อมูลพื้นฐานและสภาพความต้องการดังกล่าวจึงนำมาสู่การพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน

2. ผลการพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียน ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การศึกษาวิเคราะห์ 2) การออกแบบและการพัฒนา 3) การทดลองใช้รูปแบบ และ 4) การประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบ ผลการออกแบบและพัฒนาได้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน (SME2TEA Model) ซึ่งมีองค์ประกอบหลัก 7 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์ SWOT : S ขั้นที่ 2 Model : M การกำหนดรูปแบบสมรรถนะครู ขั้นที่ 3 Experience : E การวัดระดับประสบการณ์ ขั้นที่ 4 Training : T การฝึกอบรม ขั้นที่ 5 Take Action : การปฏิบัติ ขั้นที่ 6 Evaluation : E การประเมินผล และขั้นที่ 7 After Action Review : A การทบทวนผลการปฏิบัติงาน

3. ผลการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียน พบว่า

3.1 การฝึกอบรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School สรุปภาพรวมทุกด้าน อยู่ในระดับสูงมาก (x̄ = 4.63, S.D = 0.54)

3.2 การฝึกอบรมการจัดการเรียนรู้จิตศึกษา สรุปภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับสูงมาก (x̄ = 4.68, S.D = 0.53)

3.3 การทดสอบความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อ 1 โดยหลังการใช้รูปแบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน (SME2TEA Model) ( x̄= 33.38, S.D. = 2.60) สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน (SME2TEA Model) (x̄= 20.85, S.D. = 4.56)

3.4 การสังเกตการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยการสอนคิดตามแนวทาง Thinking School หลังการอบรมพัฒนาเชิงปฏิบัติการ โดยภาพรวม ครูมีการปฏิบัติได้ดี (x̄= 4.47, S.D. = 0.50) ยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อ 2

3.5 การสังเกตการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้จิตศึกษา (ด้านกิจกรรม จิตศึกษา) หลังการอบรมพัฒนาเชิงปฏิบัติการ โดยภาพรวม ครูมีการปฏิบัติได้ดีมาก (x̄ = 4.58, S.D. = 0.48) ยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อ 2

3.6 การประเมินสมรรถนะครู ที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถ ในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โดยภาพรวมครูมีสมรรถนะสูง (x̄ = 4.27, S.D. = 0.60) ยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อ 2

3.7 การทดสอบการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โดยเปรียบเทียบก่อน และหลังการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา

3.7.1 การทดสอบการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน (ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อ 3 โดยหลังการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน (SME2TEA Model) (x̄ = 33.34, S.D. = 4.95) สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน (SME2TEA Model) (x̄ = 22.98, S.D. = 4.59)

3.7.2 การทดสอบการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน (ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อ 3 โดยหลังการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครู โดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน (SME2TEA Model) (x̄ = 34.49, S.D. = 5.31) สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน (SME2TEA Model) (x̄ = 23.89, S.D. = 4.29)

4. ผลการประเมินผลกระทบการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัด การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน

4.1 การศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน พบว่า ครู ผู้บริหาร และศึกษานิเทศก์ มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.68, S.D. = 0.47) ยอมรับสมมติฐานการวิจัยข้อ 4

4.2 การสนทนากลุ่มเกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูโดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โดยผู้วิจัย ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และครูกลุ่มเป้าหมาย สรุปว่า องค์ประกอบของรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครู โดยบูรณาการจิตศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ทุกองค์ประกอบ มีความเหมาะสมและสอดคล้องสัมพันธ์กัน การพัฒนาสมรรถนะครู เป็นกระบวนการที่เป็นประโยชน์และสามารถพัฒนาสมรรถนะครูได้จริง ตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมทั้งกระบวนการในแต่ละขั้นตอน มีความต่อเนื่องและสัมพันธ์กัน ทำให้ส่งผลต่อการพัฒนาทั้งด้านการจัดการเรียนการสอน การบริหารจัดการชั้นเรียน การพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ รวมทั้งส่งผลต่อการพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน โดยครูต้องมีความมุ่งมั่นจริงใจในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ตามแนวทาง Thinking school โดยบูรณาการจิตศึกษาตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ด้วยความเต็มใจ ร่วมมือกัน และมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติ ทุกขั้นตอน ผู้บริหารต้องให้การสนับสนุนทั้งทางด้านการจัดการอบรม งบประมาณ สื่อ วัสดุ สิ่งอำนวยความสะดวก และสร้างขวัญกำลังใจ สร้างแรงจูงใจให้กับครู และใช้กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) และการนิเทศการศึกษาในขั้นตอนการปฏิบัติของการใช้รูปแบบ

โพสต์โดย EAK : [11 ก.ค. 2568 (11:01 น.)]
อ่าน [58451] ไอพี : 1.10.250.144
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 39,950 ครั้ง
ระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงาน วิจัยและพัฒนา พ.ศ. 2552
ระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงาน วิจัยและพัฒนา พ.ศ. 2552

เปิดอ่าน 14,612 ครั้ง
เผยอีโคไลตัวใหม่ ทนยาปฏิชีวนะ ถึงตายได้
เผยอีโคไลตัวใหม่ ทนยาปฏิชีวนะ ถึงตายได้

เปิดอ่าน 22,825 ครั้ง
หลักสูตรการสอบภาค ค ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558
หลักสูตรการสอบภาค ค ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558

เปิดอ่าน 11,064 ครั้ง
นักวิจัยเผย ผู้หญิงมากกว่าชาย เกือบเก้าแสนคน
นักวิจัยเผย ผู้หญิงมากกว่าชาย เกือบเก้าแสนคน

เปิดอ่าน 22,796 ครั้ง
ทายนิสัยจากการอาบน้ำ
ทายนิสัยจากการอาบน้ำ

เปิดอ่าน 29,973 ครั้ง
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต

เปิดอ่าน 35,694 ครั้ง
ความเป็นมาของพระไตรปิฎก
ความเป็นมาของพระไตรปิฎก

เปิดอ่าน 16,609 ครั้ง
ลายมืออัจฉริยะผู้นำ เป็นอย่างไร?
ลายมืออัจฉริยะผู้นำ เป็นอย่างไร?

เปิดอ่าน 537 ครั้ง
เปิดขั้นตอนการวางระบบสระว่ายน้ำ มีอะไรบ้าง
เปิดขั้นตอนการวางระบบสระว่ายน้ำ มีอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 50,042 ครั้ง
กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม
กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม

เปิดอ่าน 21,276 ครั้ง
อาการ ไอ แก้ได้ไม่ง้อยา
อาการ ไอ แก้ได้ไม่ง้อยา

เปิดอ่าน 9,734 ครั้ง
คุณธรรม จริยธรรม บทสะท้อนการศึกษาไทย จากกรณีหมอฟันหนีทุน โดย นพดล ปกรณ์นิมิตดี
คุณธรรม จริยธรรม บทสะท้อนการศึกษาไทย จากกรณีหมอฟันหนีทุน โดย นพดล ปกรณ์นิมิตดี

เปิดอ่าน 24,059 ครั้ง
เลี้ยงปลามงคลเสริมโชคลาภ
เลี้ยงปลามงคลเสริมโชคลาภ

เปิดอ่าน 16,759 ครั้ง
อินจัด แชร์กันว่อนไปทั่วโลก โฆษณาของไทย
อินจัด แชร์กันว่อนไปทั่วโลก โฆษณาของไทย

เปิดอ่าน 19,679 ครั้ง
เปิดประตูบ้านทิศใด เจรจาความจะสำเร็จ
เปิดประตูบ้านทิศใด เจรจาความจะสำเร็จ

เปิดอ่าน 17,601 ครั้ง
ข้อสอบยากๆใช่ว่าจะพัฒนาคนได้
ข้อสอบยากๆใช่ว่าจะพัฒนาคนได้
เปิดอ่าน 29,383 ครั้ง
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)
เปิดอ่าน 12,596 ครั้ง
ความต่างของ 3จี กับ 3.9จี
ความต่างของ 3จี กับ 3.9จี
เปิดอ่าน 14,315 ครั้ง
12 เทคนิคกันสมองเหี่ยว
12 เทคนิคกันสมองเหี่ยว
เปิดอ่าน 463,712 ครั้ง
     กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘  พร้อมตัวอย่าง ง่ายต่อการจดจำ
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ พร้อมตัวอย่าง ง่ายต่อการจดจำ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ