การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ โดยวิธีการสอนด้วยแบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเต็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดใหม่พรหมสุวรรณ ปีการศึกษา 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) โดยใช้รูปแบบการทดลอง One Group Pre-test Post-test Design มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเต็ม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ มาตรฐาน (E1/E2 ) เท่ากับ 80/80 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดย วิธีการสอนด้วยแบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเต็ม ก่อนเรียนและหลังเรียน
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดใหม่พรหมสุวรรณ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 1 ห้อง เป็นนักเรียนจำนวน 12 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดใหม่พรหมสุวรรณ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ผู้วิจัยสอนอยู่ ได้มาโดยวิธีการแบบเจาะจง เรียนโดยวิธีการสอนด้วยแบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเต็ม เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบฝึก ทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเต็ม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน แบบประเมินแบบฝึกทักษะทาง คณิตศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความสอดคล้อง ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) และการทดสอบ ( t-test) แบบ Dependent t-test สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
1. แบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเต็ม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ (E1/E2 ) เท่ากับ 81.40/80.22 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่มาตรฐาน (E1/E2 ) เท่ากับ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยวิธีการสอนด้วยแบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเต็ม มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
สรุปผลการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้ สรุปผลได้ดังนี้
1. แบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเต็ม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ (E1/E2 ) เท่ากับ 81.40/80.22 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่มาตรฐาน (E1/E2 ) เท่ากับ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยวิธีการสอนด้วยแบบฝึ กทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเต็ม มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 อภิปรายผลการวิจัย
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเต็ม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ (E1/E2 ) เท่ากับ 81.40/80.22 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่มาตรฐาน (E1/E2 ) เท่ากับ 80/80 ที่ตั้งไว้ ผลเนื่องจากการวางแผนอย่างเป็นระบบ ดำเนินการสร้างแบบฝึกตามขั้นตอน การสร้างผ่านการตรวจสอบความสอดคล้อง พร้อมทั้งประเมินคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ โดยแบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์มีผลการประเมินคุณภาพส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีมาก โดยพิจารณารายแบบฝึกหัด มีแบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เล่มที่ 1 เท่านั้นที่ผู้เชี่ยวชาญประเมินคุณภาพอยู่ใน ระดับดี ทั้งนี้ยังได้แก้ไขปรับปรุงตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำเพื่อให้แบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับ วิจัยของไข่มุก มณีศรี (2554, บทคัดย่อ) ได้ทำการสร้างแบบฝึก ทักษะทางการเรียนรู้เรื่อง การบวก การลบ การคูณ ทศนิยม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเมืองพัทยา 1 ( เชิญ พิศลยบุตรราษฎร์บ˚าเพ็ญ) จังหวัดชลบุรี พบว่า แบบฝึกทักษะสาระการ เรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าประสิทธิภาพ 85.00/83.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 วิจัยของณัฐภัทรชญา ถนอมสุข (2560, บทคัดย่อ) ได้ทำการพัฒนาแบบฝึกทักษะ คณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า 1) แบบฝึกทักษะ คณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.95/81.92 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ 2) ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็มสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 0.6842 คิดเป็นร้อยละ68.42 แสดงว่า นักเรียนมีคะแนนความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 68.42 รวมถึงสอดคล้องกับ วิจัยของจินตนา มาลี (2559, บทคัดย่อ) ได้ทำการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง ระบบจำนวนเต็ม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า 1) คะแนนเฉลี่ยของแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทั้ง 9 ชุด เท่ากับ 33.48 คิดเป็นร้อยละ 83.69 และคะแนนเฉลี่ยของแบบทดสอบหลังเรียนใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทั้ง 9 ชุด เท่ากับ 8.63 คิดเป็นร้อยละ 86.30 ดังนั้นแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 83.69/86.30 แสดงว่าแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง ระบบจำนวนเต็มกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 อีกทั้งพบว่าสอดคล้องกับงานวิจัยของอนุรักษ์ เร่งรัด (2557, บทคัดย่อ) ได้ทำการพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การประยุกต์ 1 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่าชุดฝึกที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ 80.37/82.21 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ และพบว่า นักเรียนมีความเห็นว่าการทำแบบฝึกทักษะสามารถทำให้แก้โจทย์ปัญหาได้มากขึ้นและเข้าใจง่าย
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยวิธีการสอนด้วยแบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนเต็ม มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 หลังจากเรียนด้วยแบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ เนื่องจากแบบฝึกทักษะทางคณิตศาสตร์ มีความน่าสนใจ เนื้อหาเป็นไปตามลำดับจากง่ายไปยาก นักเรียนมีการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเป็นการฝึกทักษะการปฏิบัติด้วยตนเอง ทำให้เกิดความ เข้าใจในเนื้อหาที่เรียนได้มากขึ้น สอดคล้องกับ งานวิจัยของชาติชาย ช่วยจันทร์ (2554, บทคัดย่อ) ได้ทำการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตสาสตร์ เรื่อง การบวกและ การลบจำนวนเต็ม ของนักเรียนโรงเรียนสตรีพัทลุงผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง การบวกและการ ลบจำนวนเต็มโดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสตรี พัทลุงหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ รวมทั้งงานวิจัยของเยาลักษณ์ วีระพันธ์ (2557, บทคัดย่อ) ได้ทำการพัฒนาชุดฝึกทักษะ เรื่อง การประยุกต์ จำนวนเต็มและเลขยกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่าทำการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มทดลองที่สอนโดยใช้ชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการประยุกต์จำนวนเต็ม และเลขยกกำลังชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กับกลุ่มควบคุมที่สอนแบบปกติ พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ สอดคล้องกับงานวิจัยของ สำลี ดวงบุบผา (2558, บทคัดย่อ) ได้ทำการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบซิปปา เรื่องระบบจำนวนเต็ม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่าทำการเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา
เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียนสูง กว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05