บทคัดย่อ
การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ดังนั้นกระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ โดยเน้นด้านความรู้ คุณธรรม และกระบวนการเรียนรู้ ในเรื่องสาระความรู้ให้บูรณาการความรู้และทักษะด้านต่าง ๆ ให้เหมาะสมในแต่ละ ระดับการศึกษาเพื่อพัฒนาด้านความรู้เกี่ยวกับตนเองและความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับสังคม (พระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓), ๒๕๕๓) ภาษาไทยมีบทบาทสำคัญยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต เพราะภาษาไทยเกี่ยวข้องกับทุกคนทั้งใน ชีวิตประจำวันและการงานอาชีพต่าง ๆ ตลอดจนเทคโนโลยี เครื่องมือเครื่องใช้และผลผลิตต่างๆ ที่มนุษย์ได้ใช้เพื่อ อำนวยความสะดวกในชีวิตและการทำงาน เหล่านี้ล้วนต้องมีภาษาไทยมาเกี่ยวข้อง ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ และศาสตร์อื่น ๆ ภาษาไทยช่วยให้มนุษย์ได้พัฒนาวิธีคิดวิเคราะห์ แยกแยะ สารจากสื่อต่าง ๆ ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็น ผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าหาความรู้ รวมทั้งสามารถค้นหาข้อมูลหรือ สารสนเทศ ประเมินสารสนเทศ ประยุกต์ใช้ทักษะการเขียน การอ่าน และการคิดวิเคราะห์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตจริงอย่า
สร้างสรรค์ สามารถนำความรู้ไปใช้อย่างมีเหตุผล สร้างสรรค์ และมีคุณธรรม ดังนั้นครูผู้สอนจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเชื่อมโยงความรู้กับกระบวนการเรียนรู้และการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะที่ สำคัญทั้งทักษะทางภาษาไทยและเป้าหมายของการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ด้วย กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูลหลากหลายและ ประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ (สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, ๒๕๖๐) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนวัดงิ้วราย(พินพิทยาคาร) จึงมุ่งส่งเสริมให้นักเรียนพัฒนาความรู้แบบบูรณาการ เน้น การเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสามารถนำองค์ ความรู้มาเชื่อมโยงกันในแต่ละสาระการเรียนรู้นำไปสู่การประยุกต์ใช้ได้จริง และสามารถสังเคราะห์องค์ความรู้ออกมา ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงมีแนวคิดในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำและการเรียนรู้เชิงรุกผ่าน ชุดกิจกรรม การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อเพิ่มทักษะที่สำคัญต่าง ๆ ด้านภาษาไทย ที่ใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต และสามารถทำงาน ท่ามกลางความขาดแคลน เป็นการท้าทายความสามารถของตนเอง ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน นอกจากนี้นักเรียนได้ นำองค์ความรู้ที่เกิดจากการศึกษา ค้นคว้าและลงพื้นที่ด้วยตนเองนั้น นำไปเผยแพร่ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา
มีการดำเนินการดังนี้
๑. ศึกษาหลักสูตรของโรงเรียน ศึกษาเอกสารประกอบหลักสูตรและวิเคราะห์หลักสูตร
๒. ออกแบบหน่วยการเรียนรู้และจัดทำแผนการเรียนรู้อย่างชัดเจน ซึ่งในแผนการจัดการเรียนรู้นอกจากจะ กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดแล้ว จะกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้ง ๓ ด้าน คือ ด้านพุทธิพิสัย ด้านจิตพิสัย และด้านทักษะพิสัย
๓. รวบรวมข้อมูลความสามารถของนักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับทักษะการอ่าน การเขียนสะกดคำ และการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับบทเรียนและนักเรียนสนใจรวมถึงเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน (I : Individual competency Assessment)
๔. ทบทวนความรู้เดิมเพื่อเพิ่มความจำที่ถาวรและคงทนด้วยการ อ่านซ้ำ เขียนซ้ำ รวมถึงหาเทคนิคการสอนที่ทำให้ผู้เรียนสามารถจำบทเรียนได้ โดยไม่รู้สึกเบื่อ เช่น การออกแบบท่าทางที่คล้ายสระ ให้การเรียนรู้เป็นภาพจำไม่ใช่แค่ความจำ เป็นต้น (R: Repetition)
๕. กำหนดวิธีการวัดและประเมินผลพร้อมเครื่องมือการวัดและประเมินผลไว้อย่างชัดเจนและแม่นยำ
๖. นำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญใช้สื่อ/นวัตกรรมอย่าง
(A:Active learning) หลากหลายประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รวมทั้งออกแบบและสร้างเครื่องมือวัดและประเมินผลการเรียนรู้ให้ ครอบคลุมตามตัวชี้วัดและมาตรฐานการเรียนรู้