ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนรู้แบบ PWIM เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ผู้วิจัย นางสาวอภิญญา คงสุวรรณ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านกลาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1
ปีที่วิจัย 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนรู้แบบ PWIM เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียน 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนรู้แบบ PWIM เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียน 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนรู้แบบ PWIM เพื่อพัฒนา ทักษะการอ่านและเขียน และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนรู้แบบ PWIM เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียน วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ขั้นที่ 2 การสร้างและพัฒนารูปแบบ ขั้นที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบ และขั้นที่ 4 การประเมินรูปแบบ กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1 จำนวน 16 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบวิเคราะห์เอกสาร 2) แบบสอบถาม 3) แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม 4) คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 5) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ 6) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 7) แบบประเมินทักษะการอ่าน และเขียน และ 8) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการคำนวณค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันในการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนของนักเรียน พบว่า สภาพปัจจุบันในการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย ตามความคิดเห็นของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยรวมการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก
2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนรู้แบบ PWIM เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนของนักเรียน พบว่า มีองค์ประกอบสำคัญ ประกอบด้วย 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) กระบวนการจัดการเรียนการสอน 4) ระบบสนับสนุน และ 5) การวัดและการประเมินผล โดยองค์ประกอบที่ 3 มีกระบวนการจัดการเรียนการสอน 4 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่การอ่าน ขั้นที่ 2 ขั้นโยงภาพจากการอ่าน ขั้นที่ 3 ขั้นฝึกกิจกรรมอ่านและเขียน และขั้นที่ 4 ขั้นประเมินผล จากการประเมินคุณภาพความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนรู้แบบ PWIM เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียน พบว่า
3.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนรู้แบบ PWIM เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียน มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละการพัฒนา 58.82
3.2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนรู้แบบ PWIM เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียน มีคะแนนทักษะการอ่านและเขียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละการพัฒนา 59.77
4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนรู้แบบ PWIM เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและเขียน อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.52 และผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อพฤติกรรมการอ่านและเขียนของนักเรียนหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.56