1. ความสําคัญของผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)
แนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ได้ทรงเน้นย้ำให้สถานศึกษาทุกแห่งมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็น พลเมืองดี มีทักษะชีวิต และมีอาชีพ สภาพปัญหาและความต้องการจำเป็นที่พบในโรงเรียน ซึ่งสะท้อนความสำคัญของการปลูกฝังคุณธรรมควบคู่กับการสร้างทักษะชีวิตที่สอดคล้องกับบริบทจริงของสังคมไทย ผู้บริหารสถานศึกษาจึงมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำทางคุณธรรม สร้างระบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริม ให้โรงเรียนเป็นองค์กรแห่งความสุจริต โปร่งใส และมีวัฒนธรรมเชิงคุณธรรม โรงเรียนบ้านโป่งเปือยประสบปัญหาการบริหารจัดการการศึกษาตามบริบทดังกล่าวข้างต้น จึงได้สำรวจความต้องการในการบริหารจัดการสถานศึกษา จากการประชุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงได้พัฒนานวัตกรรม SMART LIFE-INTEGRITY MODEL เพื่อเป็นเครื่องมือบริหารจัดการที่เชื่อมโยงนักเรียน ครู โรงเรียน และชุมชนให้มีบทบาทร่วมกันในการสร้างสังคมแห่งความสุจริต และคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน จึงพัฒนาเป็นนวัตกรรมขึ้นเพื่อแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการทั้ง 4 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 การพัฒนานักเรียนให้เป็นคนดี มีวินัย ซื่อสัตย์ พอเพียง และรับผิดชอบ มิติที่ 2 สร้างแนวทางให้ครูบูรณาการคุณธรรมกับการเรียนรู้ได้จริง มิติที่ 3 ยกระดับสถานศึกษาให้มีระบบคุณธรรมเชิงนโยบายและวัฒนธรรมองค์กร และมิติที่ 4 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการสร้างคนดีร่วมกัน ผู้จัดทำในฐานะผู้บริหารโรงเรียนบ้านโป่งเปือย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ จึงจัดทำนวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ชื่อผลงาน นวัตกรรมสร้างคนดี SMART LIFE-INTEGRITY MODEL ด้วยพลังบริหารคุณธรรมพัฒนาโรงเรียนสุจริตอย่างยั่งยืน ซึ่งจะยกระดับวาทกรรมการพัฒนาสู่ความเป็นกรอบแนวคิดเชิงวิชาการที่นำไปสู่การพัฒนาสถานศึกษาที่แหลมคมต่อไป
2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)
2.1 วัตถุประสงค์ ของผลงาน/นวัตกรรม
2.1.1 เพื่อพัฒนานักเรียนให้มีคุณธรรมตามคุณลักษณะโรงเรียนสุจริต
2.1.2 เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตและภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่นักเรียน
2.1.3 เพื่อพัฒนาแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูให้สามารถบูรณาการคุณธรรม และทักษะชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม
2.1.4 เพื่อพัฒนาโรงเรียนให้เป็นระบบนิเวศคุณธรรม
2.1.5 เพื่อสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างบ้าน โรงเรียน และชุมชนในการพัฒนาเยาวชนคุณธรรม
2.1.6 เพื่อพัฒนารูปแบบนวัตกรรม ที่สามารถขยายผลได้จริง และเป็นต้นแบบการดำเนินงานโรงเรียนสุจริตที่สามารถประยุกต์ใช้ในหลากหลายบริบท
2.2 เป้าหมาย และกลุ่มเป้าหมายของผลงาน/นวัตกรรม
2.2.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ
1) นักเรียนโรงเรียนบ้านโป่งเปือยทุกคนได้เข้าร่วมกิจกรรม SMART LIFE-INTEGRITY MODEL
2) นักเรียนโรงเรียนบ้านโป่งเปือย ร้อยละ 80 มีพฤติกรรมตามคุณลักษณะโรงเรียนสุจริต
3) ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนบ้านโป่งเปือย ผ่านการอบรมหรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสามารถออกแบบการจัดการเรียนรู้หรือกิจกรรมที่บูรณาการทักษะชีวิตและคุณธรรมในรายวิชา หรือกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนได้อย่างน้อยคนละ 1 กิจกรรม
4) ผู้บริหารสถานศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษา อย่างน้อย 5 คน เข้ามามีบทบาทในการบริหารจัดการเชิงคุณธรรม และส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปลูกฝังคุณธรรมแบบมีระบบ
5) ผู้ปกครองและแกนนำชุมชน อย่างน้อย 100 คน เข้าร่วมกิจกรรม บ้าน วัด โรงเรียน อย่างน้อย 2 กิจกรรมต่อปี
2.2.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ
1) นักเรียนมีพฤติกรรมเชิงคุณธรรมที่ชัดเจนและต่อเนื่อง
2) ครูมีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการคุณธรรม ทักษะชีวิตเป็นแบบอย่างด้านคุณธรรมจริยธรรม และสามารถเป็นผู้นำทางจิตใจของผู้เรียน
3) โรงเรียนมีระบบการบริหารจัดการและวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดหลักคุณธรรม
4) ผู้ปกครองมีทัศนคติเชิงบวกต่อการอบรมลูกหลานแบบคุณธรรม และมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม
5) ชุมชนและภาคีภายนอกมีความร่วมมืออย่างยั่งยืนในการขับเคลื่อนระบบคุณธรรมในโรงเรียน
3. บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned)
หลักการที่ได้เรียนรู้จากการพัฒนาและนำนวัตกรรมไปใช้
3.1 การบูรณาการองค์ความรู้ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน การออกแบบกิจกรรมที่เชื่อมโยงคุณธรรม ทักษะชีวิต การบริหารเชิงระบบ ต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและวัดผลได้ เพื่อให้นวัตกรรมสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ประกอบด้วย
3.1.1 ผู้เรียนคือศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลง เมื่อนักเรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ปลูกฝังคุณธรรมและทักษะชีวิตอย่างต่อเนื่อง พฤติกรรมของนักเรียนจะเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก มีวินัยและความรับผิดชอบ
3.1.2 การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน คือ กุญแจแห่งความยั่งยืน นวัตกรรมจะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้บริหาร ครู ผู้ปกครอง ชุมชน และภาคีเครือข่าย เพื่อสร้างวัฒนธรรมคุณธรรมร่วมกัน
3.1.3 การมีระบบติดตามที่ดีจะช่วยปรับปรุงพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง การประเมินผลกิจกรรม ในแต่ละช่วงช่วยให้เกิดการสะท้อนผลและการถอดบทเรียนที่นำไปสู่การพัฒนาในรอบถัดไป
ข้อมูลจากการนำไปใช้จริง
1) นักเรียนมีพฤติกรรมตามคุณลักษณะโรงเรียนสุจริตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย ร้อยละ 83.5
2) ครูสามารถออกแบบกิจกรรมที่บูรณาการคุณธรรมและทักษะชีวิตได้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 85
3) มีการสร้างกลไกความร่วมมือในระดับ บ้าน วัด โรงเรียน อย่างเป็นรูปธรรม
4) ชุมชนและผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมกิจกรรมคุณธรรมอย่างต่อเนื่อง
5) ระบบการประเมินและติดตามมีความเป็นระบบและพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกเทอม
ข้อสังเกตและข้อควรระวังในการนำผลงานไปประยุกต์ใช้
1) บริบทของโรงเรียน ต้องปรับตามขนาดและทรัพยากรของแต่ละโรงเรียน เช่น โรงเรียนขนาดเล็กอาจต้องใช้กิจกรรมที่ไม่ใช้ทรัพยากรมาก
2) บุคลากร ความพร้อมของครูและบุคลากรเป็นปัจจัยสำคัญ หากไม่มีความเข้าใจหรือศรัทธาในแนวคิดคุณธรรมและทักษะชีวิต อาจไม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีคุณภาพ
3) การวัดผล ควรมีเครื่องมือที่หลากหลายและเหมาะสมในการวัดพฤติกรรมเชิงคุณธรรม ไม่ควรใช้แต่แบบสอบถามเพียงอย่างเดียว
4) การมีส่วนร่วมของชุมชน ต้องมีการสร้างความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นการมีส่วนร่วมจะเป็นเพียงครั้งคราวไม่ยั่งยืน
แนวทางการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
1) พัฒนาเครื่องมือประเมินผลเชิงคุณภาพแบบองค์รวม เช่น เครื่องมือสะท้อนตนเองของนักเรียน, สมุดบันทึกพฤติกรรม
2) จัดตั้งเครือข่ายโรงเรียนต้นแบบ SMART LIFE-INTEGRITY MODEL เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอดองค์ความรู้ในพื้นที่ต่างๆ
3) สร้างระบบติดตามผลแบบดิจิทัล เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อการรายงานผล ประเมินผล และถอดบทเรียนร่วมกัน
4) พัฒนาโปรแกรมอบรมครูและผู้นำชุมชนอย่างต่อเนื่อง ให้สามารถเป็นผู้นำเชิงคุณธรรม ในสถานศึกษาหรือชุมชนของตน