ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีพุทธิปัญญาร่วมกับการสะท้อนคิด เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ผู้วิจัย นางมยุรฉัตร คะสุดใจ
ปีที่วิจัย 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและสภาพปัญหาในการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีพุทธิปัญญาร่วมกับการสะท้อนคิด เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีพุทธิปัญญาร่วมกับการสะท้อนคิด เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีพุทธิปัญญาร่วมกับการสะท้อนคิด เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 4) ประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีพุทธิปัญญาร่วมกับการสะท้อนคิด เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ผู้วิจัยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) แบ่งการวิจัยเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานและสภาพปัญหาในการจัดการเรียนรู้ ขั้นตอน ที่ 2 การสร้างและตรวจสอบรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ และขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาผลการใช้รูปแบบ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านดอนแดง อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวนนักเรียน 9 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถาม 2) แบบสัมภาษณ์ 3) คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 4) แผนการจัดการเรียนรู้ 5) แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านจับใจความ และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) การหาค่าเฉลี่ย (x̄) ค่าร้อยละ (P) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) ดัชนีประสิทธิผล (E.I.) และสถิตินอนพาราเมตริก Nonparametric Test แบบ Wilcoxon Signed Rank Test
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการเรียนรู้ ด้านการอ่านภาษาไทย ที่เชื่อมโยงพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ พบว่า ครูผู้สอนมีความคิดเห็นว่าสภาพปัจจุบันในการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย โดยรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก และนักเรียนต้องการให้มีการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน โดยรวมอยู่ในระดับมาก
2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีพุทธิปัญญาร่วมกับการสะท้อนคิด มีองค์ประกอบ ดังนี้ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เนื้อหา 4) ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มี 5 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 สร้างแรงจูงใจ ขั้นที่ 2 ใฝ่หาความรู้ ขั้นที่ 3 การเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ขั้นที่ 4 ค้นหาข้อสรุปอย่างเป็นเหตุเป็นผล และขั้นที่ 5 ประเมินความก้าวหน้า 5) การวัดและประเมินผล และผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมาก
3. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า ภายหลังการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีพุทธิปัญญาร่วมกับการสะท้อนคิด นักเรียนมีคะแนนทักษะการอ่านจับใจความหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เท่ากับ 87.82/84.81 ถือว่ามีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด และนักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 60.95
4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า ภายหลังการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีพุทธิปัญญาร่วมกับการสะท้อนคิด นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียน อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด (x̄= 4.56, = 0.55)