ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านจันทัย
ผู้วิจัย นางสาวอัมรินทร์ จาระงับ
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2565 - 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านจันทัย 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านจันทัย 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านจันทัย และ 4) เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านจันทัย การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ผู้ให้ข้อมูล คือ 1) ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน 2) ครูผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 12 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบวิเคราะห์เอกสาร 2) แบบสัมภาษณ์ และ 3) แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบ ผู้ให้ข้อมูล คือ 1) ผู้เชี่ยวชาญในการสนทนากลุ่ม จำนวน 7 คน 2) ผู้ทรงคุณวุฒิในการประเมินรูปแบบ จำนวน 9 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม 2) แบบตรวจสอบความเหมาะสมของร่างรูปแบบ และ 3) แบบประเมินรูปแบบ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบ กลุ่มเป้าหมาย คือ 1) ครูผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 12 คน และ 2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 จำนวน 60 คน ปีการศึกษา 2566 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบทดสอบความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 2) แบบประเมินทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 3) แบบวัดเจตคติต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบ และขั้นตอนที่ 4
การประเมินประสิทธิผลของรูปแบบ กลุ่มเป้าหมาย คือ 1) ครูผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 11 คน และ 2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 จำนวน 57 คน ปีการศึกษา 2567 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบทดสอบความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 2) แบบประเมินทักษะ
การจัดการเรียนรู้เชิงรุก 3) แบบวัดเจตคติต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Wilcoxon Signed-Ranks Test และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านจันทัย มีดังนี้ 1) แนวคิดและทฤษฎีที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบ ได้แก่ 1.1) แนวคิดเกี่ยวกับการนิเทศภายใน 1.2) แนวคิดเกี่ยวกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 1.3) แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 1.4) แนวคิดเกี่ยวกับสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 1.5) แนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบและการพัฒนารูปแบบ และ 1.6) แนวคิดเกี่ยวกับความพึงพอใจ 2) สภาพปัญหาของการนิเทศภายใน พบว่า การนิเทศภายในขาดการวางแผนการนิเทศ การปฏิบัติการนิเทศไม่เป็นระบบและขาดความต่อเนื่อง ขาดเครื่องมือการนิเทศ และขาดการติดตามและประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ การสังเกตชั้นเรียนเน้นการตรวจสอบและประเมินมากกว่าการให้คำปรึกษาแนะนำแก่ครูเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนมีงบประมาณและทรัพยากรไม่เพียงพอต่อการดำเนินงาน ครูมีภาระงานค่อนข้างมากและเวลามีจำกัด และ 3) ความต้องการในการใช้รูปแบบ พบว่า ครูต้องการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกผ่านกระบวนการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพที่เน้นการพัฒนาทักษะการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ การประยุกต์ใช้รูปแบบและวิธีการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน การพัฒนาสื่อและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ โดยดำเนินการนิเทศภายในอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริงและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน มีการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผู้บริหารสถานศึกษาให้การสนับสนุนทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้การนิเทศภายในมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด
2. รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านจันทัย มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการนิเทศ มี 4 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 การเตรียมการนิเทศ (Preparation: P) ขั้นที่ 2 การให้ความรู้ก่อนการนิเทศ (Informing: I) ขั้นที่ 3 การปฏิบัติการนิเทศ (Doing: D) ขั้นที่ 4 การประเมินผลการนิเทศ (Evaluation: E) 4) การวัดและประเมินผล และ 5) เงื่อนไขความสำเร็จผลการประเมินรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านจันทัย โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านจันทัย พบว่า 1) ความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูหลังการใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยรวมอยู่ในระดับดี 3) เจตคติต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยรวมอยู่ในระดับมาก 4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยรวมอยู่ในระดับมาก และ 5) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านจันทัย โดยรวมอยู่ในระดับมาก
4. ผลการประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านจันทัย พบว่า 1) ความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูหลังการใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก 3) เจตคติต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยรวมอยู่ในระดับมาก และ 5) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านจันทัย โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด