ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การนิเทศภายในแบบมีส่วนร่วม โดยใช้ C-U-SMILE Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนบ้านใหม่พนมทอง

การนิเทศภายในแบบมีส่วนร่วม โดยใช้ C-U-SMILE Model เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนบ้านใหม่พนมทอง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ส่งเสริมให้ครูสามารถนําผลจากกระบวนการนิเทศภายในสถานศึกษาไปใช้ในการพัฒนา และปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบริบทของผู้เรียน 2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านใหม่พนมทองให้สูงขึ้น จากกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างต่อเนื่องผ่านการนิเทศภายในโดยกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ครูและบุคลากรโรงเรียนบ้านใหม่พนมทอง จำนวน 11 คน ระยะเวลาดำเนินการ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 (ตุลาคม - มีนาคม 2567)

โดยใช้การนิเทศแบบมีส่วนร่วม และประยุกต์ใช้แนวคิด C-U-SMILE Model เป็นแนวทางในการออกแบบและดำเนินงาน ซึ่งประกอบด้วย 7 ขั้นตอนสำคัญ ดังนี้

1. C – Communicate (การสื่อสาร) เริ่มต้นด้วยการสื่อสารสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างผู้บริหาร ผู้นิเทศ และครู เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ แนวทาง และเป้าหมายของการนิเทศ เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีและความพร้อมในการดำเนินการร่วมกัน

2. U – Understanding (การทำความเข้าใจบริบทและความต้องการ) ผู้นิเทศและครูร่วมกันวิเคราะห์บริบทของผู้เรียน สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ และความต้องการพัฒนาของครู เพื่อวางแผนการนิเทศที่ตรงจุด สอดคล้องกับความเป็นจริงในห้องเรียน

3. S – Set Goals (การกำหนดเป้าหมาย) ครูและผู้นิเทศร่วมกันกำหนดเป้าหมายของการนิเทศ โดยเน้นการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับนโยบายเชิงรุก เช่น Active Learning, Problem-Based Learning และการจัดการเรียนรู้รายบุคคล

4. M – Monitor and Observe (การติดตามและสังเกตการณ์) ผู้นิเทศติดตามการสอนจริงของครูในชั้นเรียน โดยใช้เครื่องมือที่ออกแบบอย่างมีระบบ เช่น แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการสอน เพื่อเก็บข้อมูลที่สะท้อนถึงกระบวนการจัดการเรียนรู้ของครูได้อย่างชัดเจน

5. I – Improve (การปรับปรุงและพัฒนา) ผู้นิเทศและครูร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตและสะท้อนผลร่วมกัน เพื่อวางแนวทางในการปรับปรุงการสอน โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นสำคัญ

6. L – Learn Together (การเรียนรู้ร่วมกัน) จัดให้มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครู เช่น การประชุม PLC การสาธิตการสอน หรือการร่วมกันพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันในโรงเรียน

7. E – Evaluate and Reflect (การประเมินและสะท้อนผล) ดำเนินการประเมินผลทั้งในระดับครูและนักเรียน โดยใช้เครื่องมือวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการสะท้อนผลรายบุคคล เพื่อใช้ในการปรับปรุงกระบวนการนิเทศในรอบต่อไป

ผลการดำเนินการ พบว่า

1) ครูส่วนใหญ่สามารถนำข้อเสนอแนะ จุดเด่น และข้อควรปรับปรุงจากการนิเทศ ไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ของตนได้อย่างเหมาะสม โดยครูได้มีการปรับแผนการสอน กิจกรรมในชั้นเรียน และการใช้เทคนิค Active Learning ให้เหมาะสมกับบริบทของผู้เรียนมากยิ่งขึ้น และผลลัพธ์ที่เด่นชัดประการหนึ่งคือ ครูที่เข้าร่วมกระบวนการนิเทศได้นำเสนอผลงานการจัดการเรียนรู้ในระดับกลุ่มโรงเรียนเข้าแข่งขัน และได้รับรางวัล Best Practice “วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศในการสอน”จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 โดยเน้นรูปแบบการเรียนรู้ที่กระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม เช่น การเรียนรู้ผ่านสถานการณ์จำลอง การจัด การเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นฐาน และการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน เป็นต้น

2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 ก่อนและหลังการดำเนินกระบวนการนิเทศภายใน โดยใช้เกณฑ์การประเมินผลตามตัวชี้วัดของสถานศึกษา พบว่านักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังการนิเทศสูงขึ้น แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทางวิชาการที่เกิดจากการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพและต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรายวิชาหลัก ได้แก่ ภาษาไทย และสังคมศึกษา นักเรียนมีพัฒนาการทางการเรียนรู้ที่โดดเด่น สะท้อนให้เห็นว่าครูได้นำแนวทางการสอนที่ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Active Learning) และการใช้กิจกรรมที่สอดคล้องกับบริบทของผู้เรียนมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากไปกว่านั้น จากการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า นักเรียนร้อยละ 85.58 มีคะแนนเฉลี่ยใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ตั้งแต่ ระดับ 3.00 ขึ้นไป ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเชิงปริมาณที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 70 สะท้อนถึงผลลัพธ์ปลายทางของกระบวนการนิเทศภายในที่สามารถส่งเสริมให้การจัดการเรียนรู้ของครูนำไปสู่การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน

ประโยชน์ที่ได้รับ

ผลที่ได้จากการพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในแบบมีส่วนร่วมมีประโยชน์ ดังนี้

1) ครูผู้สอนได้แนวทางการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาทักษะและความสามารถในการจัด การเรียนการสอนและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน และนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

2) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนบ้านใหม่พนมทอง มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

ปัจจัยความสำเร็จ

การดำเนินงานนิเทศภายในสถานศึกษาตามแนวทาง C-U-SMILE Model เพื่อส่งเสริมการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของครูและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านใหม่พนมทอง บรรลุผลสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนภายในสถานศึกษา โดยมีปัจจัยแห่งความสำเร็จที่สำคัญ ดังนี้

1. ภาวะผู้นำและการสนับสนุนของผู้บริหาร ผู้บริหารโรงเรียนมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบาย สนับสนุนทรัพยากร และสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ภายในโรงเรียน เปิดโอกาสให้ครูได้พัฒนาตนเอง สนับสนุนกระบวนการนิเทศ และให้ความสำคัญกับการสะท้อนผลเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่เอื้อต่อความสำเร็จของกระบวนการนิเทศ

2. ความร่วมมือของครูผู้สอน ครูในโรงเรียนมีความตระหนักรู้ในบทบาทหน้าที่ของตนในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน พร้อมเปิดใจรับการนิเทศในเชิงพัฒนา นำข้อเสนอแนะไปปรับใช้ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการประชุม PLC การสะท้อนผลการสอน และการติดตามพัฒนาตนเอง ส่งผลให้เกิด Best Practice ในการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับบริบทของนักเรียน

3. แรงจูงใจและการตอบสนองของนักเรียน นักเรียนมีความพร้อมในการเรียนรู้มากขึ้นจากวิธีการสอนที่เปลี่ยนแปลง ครูเน้นการจัดกิจกรรมที่กระตุ้นการมีส่วนร่วม ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้น สนุกกับการเรียน และพัฒนาทักษะในรายวิชาต่างๆอย่างต่อเนื่อง จนสามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้

4. ระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โรงเรียนมีระบบบริหารจัดการข้อมูลและการนิเทศที่ชัดเจน ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บข้อมูล บันทึกผลการนิเทศ การติดตามผล และการประเมินอย่างเป็นระบบ โดยมีการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในแต่ละขั้นตอนของ C-U-SMILE Model ซึ่งเอื้อต่อการวิเคราะห์ พัฒนา และใช้ผลในการปรับปรุงการเรียนการสอนได้อย่างต่อเนื่อง

บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned)

1) ผู้เรียน มีความสนใจ กระตือรือร้น ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ให้ความร่วมมือกับเพื่อนและครูผู้สอนในการเรียนรู้และการทำงานเป็นทีม กล้าคิด กล้าแสดงออก มีวินัยและมีความรับผิดชอบมากขึ้น

2) ครูผู้สอนและบุคลากรมีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ การวางแผนการจัดการเรียนรู้ มีกระบวนการ เทคนิค ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ที่เป็นระบบและสอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

3) โรงเรียนสามารถนำผลที่ได้จากการนิเทศภายใน มาปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ และได้รับการยอมรับจากผู้ปกครองและชุมชน

โพสต์โดย AiPhanthippa : [26 พ.ค. 2568 (22:19 น.)]
อ่าน [58740] ไอพี : 1.46.14.65
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,908 ครั้ง
7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง
7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง

เปิดอ่าน 20,099 ครั้ง
วิธีแก้ปวดหลัง
วิธีแก้ปวดหลัง

เปิดอ่าน 13,853 ครั้ง
ฮอร์โมนสังเคราะห์รักษาโรคอ้วนได้
ฮอร์โมนสังเคราะห์รักษาโรคอ้วนได้

เปิดอ่าน 31,342 ครั้ง
5 อาหารกินแล้วอ้วนตามความเชื่อแบบผิด ๆ
5 อาหารกินแล้วอ้วนตามความเชื่อแบบผิด ๆ

เปิดอ่าน 22,503 ครั้ง
ประโยชน์ของการบริโภค "ต้นหอมญี่ปุ่น"
ประโยชน์ของการบริโภค "ต้นหอมญี่ปุ่น"

เปิดอ่าน 12,587 ครั้ง
คนค้นฅน ปลัดตงฉิน ผู้รักษาแผ่นดินเกิด
คนค้นฅน ปลัดตงฉิน ผู้รักษาแผ่นดินเกิด

เปิดอ่าน 12,451 ครั้ง
แนวทางการพัฒนาและประเมินค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ
แนวทางการพัฒนาและประเมินค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ

เปิดอ่าน 11,646 ครั้ง
อยากได้กันมั๊ย ชมคลิปโชว์ความสามารถ Google Glass แว่นตาอัจฉริยะ
อยากได้กันมั๊ย ชมคลิปโชว์ความสามารถ Google Glass แว่นตาอัจฉริยะ

เปิดอ่าน 14,478 ครั้ง
ใช้หมากรุกเป็นวิชา แก้ตกเลขซ้ำซาก
ใช้หมากรุกเป็นวิชา แก้ตกเลขซ้ำซาก

เปิดอ่าน 21,608 ครั้ง
การแพ้ยา Drug Hypersensitivity
การแพ้ยา Drug Hypersensitivity

เปิดอ่าน 17,776 ครั้ง
Download "ส.ค.ส."พระราชทาน ให้กำลังใจพสกนิกร "ตั้งอยู่ในความเพียร"
Download "ส.ค.ส."พระราชทาน ให้กำลังใจพสกนิกร "ตั้งอยู่ในความเพียร"

เปิดอ่าน 28,993 ครั้ง
เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม?  วิชาที่คนไม่เข้าใจ
เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม? วิชาที่คนไม่เข้าใจ

เปิดอ่าน 16,097 ครั้ง
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เปิดอ่าน 10,033 ครั้ง
ทำไมแมวไม่ชอบน้ำ
ทำไมแมวไม่ชอบน้ำ

เปิดอ่าน 48,596 ครั้ง
เคล็ดลับการซักรีดให้เสื้อผ้าหอมคงทน
เคล็ดลับการซักรีดให้เสื้อผ้าหอมคงทน

เปิดอ่าน 212,767 ครั้ง
บทบาทของครู
บทบาทของครู
เปิดอ่าน 15,216 ครั้ง
ลายมือมีพลัง
ลายมือมีพลัง
เปิดอ่าน 17,899 ครั้ง
ฮอร์โมนเพศชายDHT-ต้นตอศีรษะล้าน
ฮอร์โมนเพศชายDHT-ต้นตอศีรษะล้าน
เปิดอ่าน 21,708 ครั้ง
คลิปสุดซึ้ง รับวันครู 2559 สร้างจากเรื่องจริงของครูใหญ่ กับเงิน 1,000 ล้าน (Full Version)
คลิปสุดซึ้ง รับวันครู 2559 สร้างจากเรื่องจริงของครูใหญ่ กับเงิน 1,000 ล้าน (Full Version)
เปิดอ่าน 16,332 ครั้ง
ปีใหม่แล้ว.....แต่การศึกษาไทยยังบ้าไม่เลิก!
ปีใหม่แล้ว.....แต่การศึกษาไทยยังบ้าไม่เลิก!

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ