ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย

ชื่อเรื่อง : รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย

ผู้วิจัย : นายเอกสิทธิ์ ธนะสูตร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาโรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย การวิจัยมี 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน โดยการศึกษาเอกสาร หลักการ แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การบริหารจัดการโรงเรียนที่ประสบผลสำเร็จภายใต้เครือข่ายความร่วมมือ การสัมภาษณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิในด้านการจัดการศึกษาของโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จํานวน 3 คน และการสํารวจสภาพปัญหาและความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนเกี่ยวกับกระบวนการสร้างเครือข่ายและองค์ประกอบของเครือข่ายความร่วมมือในโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระยะที่ 2 การสร้าง และตรวจสอบกระบวนการสร้างเครือข่ายและองค์ประกอบของเครือข่าย ความร่วมมือเพื่อคุณภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียน ระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัด กองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย และระยะที่ 4 การประเมินการใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย

ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย ประกอบด้วย กระบวนการสร้างเครือข่าย 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นตระหนักถึงความจําเป็นในการสร้างเครือข่าย 2) ขั้นประสานหน่วยงาน/องค์กรเครือข่าย 3) ขั้นสร้างพันธสัญญาร่วมกัน 4) ขั้นบริหารจัดการเครือข่าย 5) ขั้นพัฒนาความสัมพันธ์ และ 6) ขั้นรักษาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ส่วนองค์ประกอบของเครือข่ายความร่วมมือเพื่อคุณภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียน ได้แก่ 1) ลักษณะหรือกิจกรรมสําคัญที่เสริมประสิทธิภาพการดําเนินภารกิจของเครือข่าย 2) ขอบข่ายและภารกิจการบริหารจัดการสถานศึกษา 3) เทคนิควิธีการพัฒนาสมาชิก เครือข่าย 4) กระบวนการเสริมสร้างพลังอํานาจของเครือข่าย 5) คุณลักษณะที่ดีของผู้นําเครือข่าย และ 6) การปฏิบัติงานของเครือข่ายและการสะท้อนผล

ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย พบว่า กลุ่มบุคคล หน่วยงาน/องค์กร ที่สมัครใจรวมกลุ่มเครือข่ายความร่วมมือ ได้แก่ กลุ่มผู้ปกครองนักเรียน กลุ่มผู้นําชุมชน สถาบันทางศาสนา สถาบันอุดมศึกษา กลุ่มศิษย์เก่า ภูมิปัญญาท้องถิ่น โรงพยาบาลชุมชน สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยได้ดําเนินการตามกระบวนการปฏิบัติงานของเครือข่าย ตั้งแต่การวิเคราะห์บริบทเพื่อทราบจุดแข็ง และจุดที่ควรพัฒนาของการดําเนินงานด้านวิชาการ ด้านงบประมาณ ด้านบุคคล และด้านบริหารทั่วไป แล้วสรุปรวมจุดแข็งและจุดที่ควรพัฒนาของการดําเนินงานแต่ละด้าน เพื่อกําหนดเป้าหมายในการทํางาน มีการกําหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ และจัดทําแผนพัฒนาร่วมกัน มีโครงการเกิดขึ้นหลายโครงการ การดําเนินงานตามโครงการเสร็จสิ้นในหนึ่งปีการศึกษา ผลการประเมินโครงการพบว่า ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงการบริหารงานด้านวิชาการ งบประมาณ บุคคล และบริหารทั่วไป และส่งผลกระทบต่อนักเรียนตามขอบข่ายที่คาดหวังสูงกว่าปีที่ผ่านมา

ผลการวิจัย

ในการสรุปผลการวิจัย ผู้วิจัยได้นำเสนอผลของการวิจัย 4 ประเด็น ดังนี้ 1) ผลการสร้างรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา 2) ผลการสร้างคู่มือการดำเนินการรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา 3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย 4) ผลการประเมินการใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ผลการสร้างรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ผู้วิจัยได้ดําเนินการวิเคราะห์เนื้อหาจากการศึกษาเอกสาร แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ศึกษาดูงานโรงเรียนที่ประสบผลสำเร็จในการบริหารจัดการศึกษาภายใต้เครือข่ายความร่วมมือ สัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) ผู้ทรงคุณวุฒิ และศึกษาสภาพปัญหาความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการ ขั้นตอนการสร้างเครือข่ายและองค์ประกอบของรูปแบบเครือข่าย ความร่วมมือเพื่อคุณภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียน ทำให้ได้กรอบแนวคิดเพื่อการจัดทำร่างรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย 1) กระบวนการสร้างเครือข่าย 6 ขั้นตอนหลัก 45 ประเด็นย่อย 2) องค์ประกอบของเครือข่ายความร่วมมือเพื่อคุณภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียน 6 องค์ประกอบหลัก 60 องค์ประกอบย่อย จากนั้นนำไปตรวจสอบเบื้องต้นและการปรับปรุงแก้ไขร่างรูปแบบ ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 โดยใช้วิธีการอภิปรายกลุ่ม (Focus Group Discussion) แล้วจึงผ่านการตรวจสอบกระบวนการสร้างเครือข่ายและองค์ประกอบของเครือข่ายความร่วมมือเพื่อคุณภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียนครั้งสำคัญ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกและสอบถามความคิดเห็น ตลอดจนการให้ข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของกระบวนการสร้างเครือข่ายและองค์ประกอบสำคัญของเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อคุณภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียน สรุปผลได้รูปแบบที่ประกอบด้วย 1) กระบวนการสร้างเครือข่าย 6 ขั้นตอนหลัก 49 ประเด็นย่อย 2) องค์ประกอบของเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อคุณภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียน 6 องค์ประกอบหลัก 61 องค์ประกอบย่อย ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

กระบวนการ/ขั้นตอนการสร้างเครือข่าย

1) ขั้นตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างเครือข่าย

(1) ผู้บริหารโรงเรียนต้องสร้างความตระหนักแก่สมาชิกในองค์กร

(2) องค์กรต้องมีความชัดเจนในศักยภาพของตนเอง

(3) สมาชิกต้องมีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อกันและกัน

(4) สมาชิกที่เข้าร่วมต้องศรัทธาเครือข่าย

(5) เครือข่ายต้องมีวัฒนธรรมองค์กรร่วมกัน

(6) สมาชิกต้องตระหนักถึงความสำคัญของเครือข่าย

(7) ก่อนสร้างเครือข่ายควรมีการเตรียมกลุ่ม หรือเตรียมเครือข่าย

(8) องค์กรที่รวมตัวเป็นเครือข่ายต้องมีเป้าหมายและความต้องการเหมือนกัน

2) ขั้นประสานหน่วยงาน/องค์กรเครือข่าย

(1) มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง

(2) มีการเชื่อมโยงสมาชิกที่ไม่โอกาสติดต่อกันเพื่อให้เข้าใจกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(3) สื่อสาร เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์บทบาทของเครือข่ายและมวลสมาชิก

(4) ชี้ให้สมาชิกเครือข่ายเห็นสภาพปัญหาและประเด็นการพัฒนาร่วมกัน

(5) ประสานหน่วยงาน/องค์กรเครือข่ายที่เป็นแหล่งวิชาการและแหล่งทุน เพื่อการให้ความช่วยเหลือ

(6) เสนอโครงการความร่วมมือเพื่อการแบ่งปันทักษะและประสบการณ์แก่เครือข่าย

3) ขั้นสร้างพันธสัญญาร่วมกัน

(1) กำหนดและสร้างข้อตกลงเป็นพันธสัญญาร่วมกัน

(2) สมาชิกในเครือข่ายต้องมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีการยอมรับและมีความจริงใจต่อกันและกัน

(3) ควรกำหนดวัตถุประสงค์และข้อตกลงในการทำงานร่วมกัน

(4) ควรมีบุคลากรฝ่ายกำกับ ติดตาม และประเมินผลแบบมีส่วนร่วม

(5) ควรกำหนดบทบาทของสมาชิกให้ชัดเจน

(6) สมาชิกควรสร้าง ส่งเสริมและดำรงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

(7) ต้องมีการสื่อสารแบบสองทางและสื่อสารอย่างทั่วถึง

(8) จะต้องเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งและมีศักยภาพ

(9) สมาชิกควรมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และดำเนินตามแผนอย่างเป็นระบบ

4) ขั้นบริหารจัดการเครือข่าย

(1) เครือข่ายควรมีกระบวนการดำเนินงานและพัฒนางานอย่างเป็นระบบ

(2) เครือข่ายควรมีการกำหนดโครงสร้างและบทบาทหน้าที่

(3) ควรมีการกำหนดกฎ กติกา ของเครือข่าย

(4) ควรมีการสื่อสารระหว่างผู้นำกับสมาชิกเครือข่ายอย่างหลากหลายรูปแบบ

(5) ควรมีการควบคุมตรวจสอบ

5) ขั้นการพัฒนาความสัมพันธ์และการใช้ประโยชน์

(1) เครือข่ายควรมีการสร้างนวัตกรรมใหม่และการจัดการความรู้อย่างต่อเนื่อง

(2) สมาชิกเครือข่ายต้องมีความสัมพันธ์ต่อกันในลักษณะของกัลยาณมิตรที่แท้จริง

(3) ควรส่งเสริมให้สมาชิกมีอิสระในความคิด

(4) เครือข่ายควรมีการเสริมสร้างวัฒนธรรมเครือข่ายเพื่อขจัดความขัดแย้ง

(5) ต้องมีการสร้างผู้นำทั้งองค์กรและสมาชิกเครือข่าย

(6) องค์กรเครือข่ายควรมีการเสริมสร้างกิจกรรมสาธารณะและเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

(7) องค์กรเครือข่ายควรสรุปและทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน

(8) เครือข่ายมีบรรยากาศแบบพลังเกื้อกูล สามัคคี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

(9) มีกระบวนการทำงานที่เชื่อมประสานจุดเล็กและขยายไปสู่หน่วยใหญ่

(10) เครือข่ายควรมีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้

(11) ควรมีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของเครือข่ายเป็นระยะ ๆ สม่ำเสมอ

6) ขั้นรักษาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง

(1) ควรมีการเสริมสร้างผู้นำรุ่นใหม่ในเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง

(2) ควรมีการให้ความช่วยเหลือและการแก้ไขปัญหาภายในเครือข่าย

(3) เครือข่ายควรมีการบริหารจัดการข้อมูลที่ทันสมัยและเหมาะสมกับการใช้งาน

(4) ควรมีการรักษาสัมพันธภาพที่ดีระหว่างสมาชิกเครือข่ายทุกระดับ

(5) เครือข่ายต้องมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อกัน

(6) เครือข่ายควรมีการกำหนดและสร้างระบบแรงจูงใจในการทำงาน

(7) เครือข่ายต้องส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาฐานข้อมูลสารสนเทศ

(8) เครือข่ายต้องมีการสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

(9) ควรสร้างบรรยากาศการทำงานแบบสมานฉันท์

(10) ควรนำระบบเทคโนโลยีที่มีคุณภาพมาใช้ในระบบการประสานงาน

องค์ประกอบของเครือข่ายความร่วมมือเพื่อคุณภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียน

1) ลักษณะหรือกิจกรรมสำคัญที่เสริมประสิทธิภาพการดำเนินภารกิจของเครือข่าย

(1) การสร้างวิสัยทัศน์ร่วม

(2) มีปฏิสัมพันธ์เชิงแลกเปลี่ยน

(3) การติดต่อสื่อสารที่หลากหลายวิธี

(4) การเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้และการปรับตัว

(5) การพัฒนากิจกรรมและความเคลื่อนไหวทางการศึกษา

(6) การพัฒนาสมาชิกเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง

(7) การมีส่วนร่วมขององค์กรอื่น

(8) การติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน

2) ขอบข่ายและภารกิจการบริหารจัดการสถานศึกษา

งานวิชาการ

(1) การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา

(2) การพัฒนากระบวนการเรียนรู้

(3) การพัฒนาและใช้แหล่งเรียนรู้ภายในและภายนอกโรงเรียนการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาเพื่อการประเมินภายนอก

(4) การแนะแนวการศึกษา

(5) การนิเทศการศึกษา

งานงบประมาณ

(6) การส่งเสริมการระดมทุนการศึกษาและทุนเพื่อพัฒนาสถานศึกษา

(7) การมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากร

(8) การควบคุมดูแล บำรุงรักษา และจำหน่ายพัสดุ

(9) การพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านทรัพยากรทางการศึกษา

(10) การหาผลประโยชน์จากทรัพย์สิน

(11) การประสานร่วมมือกับผู้รับผิดชอบแหล่งทรัพยากรทางการศึกษา

งานบุคคล

(12) การพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

(13) การนําเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาบุคคล

(14) การส่งเสริมและพัฒนาจริยธรรมครู

(15) การส่งเสริมให้บุคลากรครูมีวิทยฐานะสูงขึ้น

(16) การบริหาร โดยใช้หลักธรรมาภิบาล

(17) การประเมินผลการปฏิบัติงานที่นำเอาการพัฒนาวิชาชีพมามีส่วนเกี่ยวข้อง

(18) การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

งานบริหารทั่วไป

(19) การวางแผนการบริหารงานการศึกษา

(20) การบริการ/สนับสนุนทรัพยากรทางการศึกษา

(21) การประสานงานเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง

(22) การจัดระบบควบคุมภายใน

(23) การประเมินสถานศึกษาและรายงานผลการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

(24) การพัฒนามาตรฐานการปฏิบัติงาน

3) เทคนิควิธีการพัฒนาสมาชิกเครือข่าย

(1) การบรรยาย

(2) การอภิปราย

(3) การระดมความคิด

(4) การศึกษาดูงาน

(5) การประชุมเชิงปฏิบัติการ

(6) การปฏิบัติจริง

4) กระบวนการเสริมสร้างพลังอำนาจ (Empowerment)

(1) สร้างความตระหนัก

(2) มอบหมายอำนาจหน้าที่

(3) ให้อิสระในการทำงาน

(4) เสริมสร้างความรู้ ทักษะความสามารถ

(5) สนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็น

(6) จัดบรรยากาศแลกเปลี่ยนเรียนรู้

(7) ส่งเสริมการสร้างขวัญและกำลังใจ

(8) สร้างความไว้วางใจ

(9) ยอมรับในผลการปฏิบัติงาน

5) คุณลักษณะที่ดีของผู้นำเครือข่าย

(1) มีความเป็นประชาธิปไตย

(2) มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

(3) มีความรับผิดชอบสูง

(4) มีภาวะผู้นำทางวิชาการสูง

(5) มีมนุษยสัมพันธ์จริงใจต่อเพื่อนร่วมงาน

(6) มีความสามารถในการสื่อความคิด

6) การปฏิบัติงานที่ของเครือข่ายและการสะท้อนผล

(1) กำหนดวิสัยทัศน์

(2) กำหนดเป้าหมาย

(3) กำหนดบทบาทหน้าที่

(4) กำหนดวิธีการสื่อสารและกลไกการประสานงาน

(5) ให้ความรู้ความเข้าใจในแผนการปฏิบัติ และประเมินผล

(6) กำหนดแผนปฏิบัติการ

(7) วางระบบการประเมินผล

2. ผลการสร้างคู่มือการดำเนินการของเครือข่ายความร่วมมือเพื่อคุณภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียน

คู่มือการดำเนินการของรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา เป็นเอกสารรูปเล่มที่มีสาระสำคัญ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการตามรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ประกอบด้วยส่วนสำคัญ ดังนี้

1) หลักการและเหตุผล

2) วัตถุประสงค์

3) วิธีดำเนินการของเครือข่าย

4) การรวมกลุ่มเครือข่าย

5) กระบวนการ ขั้นตอนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อคุณภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียน ได้แก่ 1) ขั้นตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างเครือข่าย 2) ขั้นประสานหน่วยงาน/องค์กรเครือข่าย 3) ขั้นสร้างพันธสัญญาร่วมกัน 4) ขั้นบริหารจัดการเครือข่าย 5) ขั้นพัฒนาความสัมพันธ์ และ 6) ขั้นรักษาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง

6) องค์ประกอบของเครือข่ายความร่วมมือเพื่อคุณภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียน ได้แก่ 1) ลักษณะหรือกิจกรรมสำคัญที่เสริมประสิทธิภาพการดำเนิน ภารกิจของเครือข่ายความร่วมมือ 2) ขอบข่ายและภารกิจการบริหารจัดการสถานศึกษาด้านงาน วิชาการ งานงบประมาณ งานบุคคลและงานบริหารทั่วไป 3) เทคนิควิธีการพัฒนาสมาชิกเครือข่าย 4) กระบวนการเสริมสร้างพลังอำนาจ (Empowerment) 5) คุณลักษณะที่ดีของผู้นำเครือข่าย และ 6) การปฏิบัติงานที่ของเครือข่ายและ การสะท้อนผล

ผลการประเมินคู่มือการดำเนินการของรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ครูวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญ ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า คู่มือการดำเนินการของรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย

3.1 จากการทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย ผลที่ได้จากการดำเนินการตามรูปแบบคือ กลุ่มผู้ปกครองนักเรียน กลุ่มผู้นำชุมชน สถาบันทางศาสนา สถาบันอุดมศึกษา กลุ่มศิษย์เก่า ภูมิปัญญาท้องถิ่น โรงพยาบาล ชุมชน สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมัครใจรวมกันเป็นกลุ่ม เครือข่ายความร่วมมือที่จะปฏิบัติภารกิจงาน 4 ด้าน โดยได้ดำเนินการตามกระบวนการปฏิบัติงาน ตั้งแต่การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเพื่อทราบจุดแข็งและจุดอ่อนของการดำเนินงานด้านวิชาการ ด้านงบประมาณ ด้านบุคคล และด้านบริหารทั่วไป สรุปรวมจุดแข็งและจุดอ่อนของการดำเนินงานแต่ละด้าน แล้วระบุเป้าหมายในการทำงาน โดยกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าประสงค์ แล้วจัดทำแผนร่วมกัน ทั้งแผนงาน/โครงการ และแผนปฏิบัติการ จนได้โครงการทั้งหมด 15 โครงการ โรงเรียนได้ดําเนินการตามโครงการ 15 โครงการ เมื่อเสร็จสิ้นโครงการแล้ว ได้ทำการประเมินผลโครงการเพื่อรายงานผลการปฏิบัติงาน ผลปรากฏว่า ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงการบริหารงานด้านวิชาการ งบประมาณ บุคคล และบริหารทั่วไป และส่งผลต่อนักเรียนตามขอบข่ายที่คาดหวังสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลการประเมินการใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย

ผลการตอบแบบสอบถามของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนอนุบาลเชียงคาน (เทศบาล 1) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย ที่พัฒนาขึ้นพบว่า ทั้งผู้บริหาร ครูวิชาการ ครูแผนงานส่วนใหญ่ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบที่พัฒนาขึ้นว่ามีความเหมาะสม โดยแนวปฏิบัติ ขั้นตอน และวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามรูปแบบมีความเหมาะสมมาก มีความเป็นไปได้ของการนำรูปแบบไปใช้ และมีประโยชน์ในการดำเนินงานบริหารจัดการศึกษา

ผลการสัมภาษณ์กลุ่มเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะมีดังนี้ 1) ควรมีการจัดอบรมพัฒนาสมาชิกเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง 2) ขาดงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่าย 3) การประสานงานของกลุ่มเครือข่ายยังมีน้อย 4) ขาดโอกาสในการสร้างเครือข่ายกับสถาบันอุดมศึกษา 5) ควรมอบหมายให้บุคลากรครูทำหน้าที่เป็นแกนนำในการประสานระหว่างเครือข่าย 6) ควรจัดประชุมและสรุปผลการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ บ่อย ๆ เพื่อให้ทราบปัญหา 7) ควรให้มีการติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง 8) ควรแต่งตั้งคณะกรรมการเครือข่ายทำหน้าที่ประสานงาน จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานของกลุ่มเครือข่าย 9) การดำเนินกิจกรรมควรเป็นไปอย่างต่อเนื่องให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และได้รับความรู้นวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดจนสมาชิกควรได้รับการพัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ ทำให้เกิดความสามัคคี มีความกระตือรือร้นมากขึ้น

โพสต์โดย เอก : [24 พ.ค. 2568 (10:28 น.)]
อ่าน [58829] ไอพี : 184.22.241.209
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,118 ครั้ง
ว่าด้วยกรณีมหาวิทยาลัยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน??? โดย สุพจน์ เอี้ยงกุญชร
ว่าด้วยกรณีมหาวิทยาลัยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน??? โดย สุพจน์ เอี้ยงกุญชร

เปิดอ่าน 15,903 ครั้ง
อย่าลืมเป้าหมายการศึกษา : โดย ดร.กมล รอดคล้าย
อย่าลืมเป้าหมายการศึกษา : โดย ดร.กมล รอดคล้าย

เปิดอ่าน 16,450 ครั้ง
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!

เปิดอ่าน 42,489 ครั้ง
คำแนะนำสำหรับนักเรียน และ ครูผู้สอน ในการสอบ O-NET วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบอัตนัย
คำแนะนำสำหรับนักเรียน และ ครูผู้สอน ในการสอบ O-NET วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบอัตนัย

เปิดอ่าน 31,098 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 23,301 ครั้ง
ลมมรสุม
ลมมรสุม

เปิดอ่าน 4,465 ครั้ง
เลือก "เคาน์เตอร์ครัว" ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำครัว
เลือก "เคาน์เตอร์ครัว" ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำครัว

เปิดอ่าน 16,269 ครั้ง
4 ท่าบริหาร เพื่อหน้าท้องเพรียวสวย
4 ท่าบริหาร เพื่อหน้าท้องเพรียวสวย

เปิดอ่าน 10,703 ครั้ง
PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ภาคบังคับ ประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาที่ 3
PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ภาคบังคับ ประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาที่ 3

เปิดอ่าน 27,992 ครั้ง
4 วิธีบังคับให้ตัวเองออมเงินได้จริง
4 วิธีบังคับให้ตัวเองออมเงินได้จริง

เปิดอ่าน 16,639 ครั้ง
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2558
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2558

เปิดอ่าน 12,870 ครั้ง
7 วิธี ช่วยคุณจัดสรรเวลา
7 วิธี ช่วยคุณจัดสรรเวลา

เปิดอ่าน 18,482 ครั้ง
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?

เปิดอ่าน 18,396 ครั้ง
แต่งบ้านเรียกทรัพย์
แต่งบ้านเรียกทรัพย์

เปิดอ่าน 61,419 ครั้ง
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

เปิดอ่าน 57,698 ครั้ง
ขั้นตอนการขอต่อใบอายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ขั้นตอนการขอต่อใบอายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
เปิดอ่าน 3,973 ครั้ง
เขียน Resume อย่างไรให้ได้งานดี
เขียน Resume อย่างไรให้ได้งานดี
เปิดอ่าน 9,285 ครั้ง
ประโยคเพื่อการสื่อสาร
ประโยคเพื่อการสื่อสาร
เปิดอ่าน 17,314 ครั้ง
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal
เปิดอ่าน 566 ครั้ง
ขอบยาง (Tire Bead) คืออะไร มีส่วนสำคัญอย่างไรในยางรถยนต์
ขอบยาง (Tire Bead) คืออะไร มีส่วนสำคัญอย่างไรในยางรถยนต์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ