ความสำคัญของผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)
การขับเคลื่อนการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ ด้านการมีทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมือง เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างและพัฒนาพลเมืองที่มีคุณภาพ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อตัวนักเรียนในการพัฒนาทักษะทั้งด้านวิชาการและสังคม การปลูกฝังทัศนคติที่ดีนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อประเทศชาติ แต่ยังเป็นการสร้างพื้นฐานในการรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาความเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในอนาคต ดังจะเห็นได้ว่าการพัฒนาจิตสำนึกพลเมืองตามหลักการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม (Social Interactionism) นักเรียนจะเรียนรู้ทัศนคติทางพลเมืองจากการมีปฏิสัมพันธ์กับครูและเพื่อนร่วมชั้น การสร้างสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับความรักชาติ การมีส่วนร่วม และการรับผิดชอบ จะช่วยให้พวกเขาเข้าใจถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและประเทศชาติการส่งเสริมความคิดวิจารณ์ (Critical Thinking) ทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมืองยังเกี่ยวข้องกับการสร้างความสามารถในการคิดวิจารณ์ เมื่อมีความรักและความเข้าใจต่อประเทศ นักเรียนจะมีแนวโน้มที่จะตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหาสังคม ทั้งนี้เป็นไปตามทฤษฎีการคิดเชิงวิจารณ์ (Critical Thinking Theory) ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ โดยพวกเขาจะสามารถเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างจิตสำนึกในการทำงานร่วมกัน เมื่อรับรู้ถึงความสำคัญของการมีทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมือง นักเรียนจะเข้าใจถึงความจำเป็นในการทำงานร่วมกับผู้อื่นในชุมชน ตามทฤษฎีการทำงานเป็นทีม (Teamwork Theory) ซึ่งส่งผลให้เกิดความร่วมมือและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในการสร้างชุมชนที่ยั่งยืน การพัฒนาอัตลักษณ์พลเมือง นักเรียนที่มีทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมืองจะมีแนวโน้มที่จะพัฒนาทัศนคติที่เป็นบวกต่อตนเอง ซึ่งสัมพันธ์กับทฤษฎีอัตลักษณ์ (Identity Theory) ที่ระบุว่า การมองเห็นตนเองว่าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจะช่วยเสริมสร้างความรับผิดชอบและความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับบทบาทของตนในสังคม การเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต การปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมืองในวัยเรียนยังช่วยเตรียมความพร้อมให้นักเรียนเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในอนาคต การเป็นพลเมืองที่รับผิดชอบสามารถทำให้พวกเขาทำงานเพื่อสังคมในแนวทางที่ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
โดยมีรูปแบบการดำเนินการ นวัตกรรมดังนี้
INPUT
พระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ
1. ด้านทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง
2. ด้านการมีพื้นฐานชีวิตที่ดีและมั่นคง
3. ด้านการทำงานและอาชีพ
4. ด้านการเป็นพลเมืองที่ดี
Process
M =(Motivation)การสร้างแรงจูงใจ
- สร้างความตระหนักในการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา 4 ด้าน
- สร้างความรู้ความเข้าใจและลงมือปฏิบัติจริงด้าน ทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมือง ด้านการมีพื้นฐานชีวิตที่ดีและมั่นคง ด้านการทำงานและอาชีพ ด้านการเป็นพลเมืองที่ดี
O = (Opportunity)การสร้างโอกาส
- ส่งเสริมให้ครูบุคลากรและผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมหรือบรรยากาศที่เกี่ยวข้องกับพระบรมราโชบายด้านการศึกษา 4 ด้าน
R = (Role)การสร้างบทบาท
- ครูบุคลากรและผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมหรือบรรยากาศที่เกี่ยวข้องกับพระบรมราโชบายด้านการศึกษา 4 ด้าน โดยได้ลงมือปฏิบัติจริงในบทบาททั้งการเป็นผู้นำและผู้ตาม
A = (Activity)การสร้างกิจกรรม
- กิจกรรมการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการและสอดแทรกเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับพระบรมราโชบายด้านการศึกษา 4 ด้าน ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
- จัดให้มีการอบรมและจัดกิจกรรม ในรูปแบบ Active Learning
L = (Leader)การสร้างผู้นำ
- สร้างแกนนำครูบุคลากร ผู้รับผิดชอบในการขับเคลื่อนการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติและการถ่ายทอด อย่างยั่งยืน
- สร้างแกนนำนักเรียน ผู้รับผิดชอบในการขับเคลื่อนการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติและการถ่ายทอด อย่างยั่งยืน
Output
- ผู้บริหารคณะครูบุคลากรนักเรียนน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ
out come
- ผู้บริหารคณะครูบุคลากรนักเรียนโรงเรียนวังไทรคำวิทยามีทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมือง มีพื้นฐานชีวิตที่ดีและมั่นคงมีคุณธรรม งานเป็นและมีงานทำ เป็นพลเมืองที่ดีของสังคมและประเทศ
หลักการของวงจรเดมมิ่ง (PDCA )
P : Plan = วางแผน
D : DO = ปฏิบัติตามแผน
C : Check = ตรวจสอบ / ประเมินผลและนําผลประเมินมาวิเคราะห
A : Action = ปรับปรุงดำเนินการใหเหมาะสมตามผลการประเมิน