1. สภาพปัจจุบัน/ ปัญหา
จากการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนยังอยู่ในระดับที่ไม่เป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ซึ่งคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนชั้น ป.6 ในวิชาวิทยาศาสตร์มักต่ำกว่าระดับเขตพื้นที่การศึกษาและระดับประเทศอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับผลการวิจัยของ อัจฉรา ชัยปัญหา (2561) ที่พบว่านักเรียนระดับประถมศึกษาขาดความเข้าใจในกระบวนการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ และมีทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลจากการทดลองในระดับต่ำ
ปัญหาดังกล่าวส่วนหนึ่งเกิดจากวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ยังเน้นการท่องจำมากกว่าการลงมือปฏิบัติ ขาดกิจกรรมที่กระตุ้นการคิดวิเคราะห์ และการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริง อีกทั้งยังไม่มีระบบติดตามและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องและนำไปสู่การปรับปรุงพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุธาสินี ศรีสวัสดิ์ (2562) ที่ชี้ให้เห็นว่า การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนต้องควบคู่กับระบบการวางแผน การดำเนินงาน การประเมินผล และการปรับปรุงอย่างเป็นวงจร
กระบวนการ PDCA (Plan-Do-Check-Act) เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยเริ่มจากการวางแผนการจัดกิจกรรมที่เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง การจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีส่วนร่วม การติดตามผลการเรียนรู้รายบุคคลอย่างต่อเนื่อง และการนำผลการประเมินไปปรับปรุงการเรียนการสอนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยการดำเนินงานพัฒนาการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ PDCA ดังกล่าว ไม่เพียงช่วยยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในวิชาวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา และการเรียนรู้ตลอดชีวิต อันเป็นพื้นฐานสำคัญในการก้าวสู่การศึกษาระดับที่สูงขึ้นอย่างมีคุณภาพ
ผู้รายงานในฐานะเป็นครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 โรงเรียนวัดเหล่าขวัญ (จ่างอนุเคราะห์) อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก จึงมีความสนใจที่จะพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการ PDCA อันจะส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์สูงขึ้น
วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการ PDCA อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
2. เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการ PDCA
เป้าหมาย
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนวัดเหล่าขวัญ (จ่างอนุเคราะห์) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 จำนวน 17 คน
เป้าหมายเชิงปริมาณ
1. ร้อยละ 80 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
เป้าหมายเชิงคุณภาพ
1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์เฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศ
2. ขั้นตอนการดําเนินงาน
ขั้นตอนการดำเนินงานกระบวนการผลิตผลงานได้การดำเนินงานกิจกรรมตามวงจรการบริหารงานเชิงคุณภาพ (PDCA) ดังนี้
2.1 Plan (การวางแผน)
2.1.1 ศึกษาสภาพปัญหาและวิเคราะห์ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้น ป.6 โดยเฉพาะผลคะแนน O-NET ย้อนหลัง
2.1.2 วิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง และความต้องการพัฒนาทั้งของนักเรียนและครูผู้สอน
2.1.3 วางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยออกแบบหน่วยการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การคิดวิเคราะห์ และการเรียนรู้จากการทดลองจริง
2.1.4 กำหนดเป้าหมาย ตัวชี้วัด และระยะเวลาดำเนินงาน พร้อมจัดเตรียมสื่อการเรียนรู้และเครื่องมือประเมินผลที่สอดคล้องกับเนื้อหาและมาตรฐานการเรียนรู้
2.2 Do (การดำเนินการ)
2.2.1 ดำเนินการจัดการเรียนการสอนตามแผนที่วางไว้ โดยเน้นกิจกรรม Active Learning เช่น การทดลอง การตั้งสมมติฐาน การอภิปรายกลุ่ม
2.2.2 ส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมทุกขั้นตอน ทั้งในรูปแบบเดี่ยว คู่ และกลุ่ม
2.2.3 ใช้สื่อเทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้หลากหลายเพื่อเพิ่มความเข้าใจและความสนใจของผู้เรียน
2.2.4 ให้แบบฝึกหัด สื่อเสริม และการบ้านที่สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อฝึกทักษะและประเมินความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง
3. Check (การตรวจสอบ/ประเมินผล)
3.3.1 ประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ด้วยแบบทดสอบและการสังเกตพฤติกรรม
3.3.2 วิเคราะห์ผลคะแนนเพื่อเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่วางไว้
3.3.3 รวบรวมข้อเสนอแนะจากนักเรียนและครูเพื่อประเมินประสิทธิภาพของกิจกรรมและวิธีการสอน
3.3.4 สรุปผลการดำเนินงานพร้อมระบุปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จหรือปัญหาที่พบ
4. Act (การปรับปรุงพัฒนา)
4.4.1 ปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยอิงจากผลการประเมินและข้อเสนอแนะที่ได้รับ
4.4.2 พัฒนาแผนการสอนให้เหมาะสมยิ่งขึ้นสำหรับรอบถัดไป เช่น เพิ่มกิจกรรมหรือปรับสื่อการสอนให้เข้าใจง่ายขึ้น
3. ผลการดําเนินงาน / ประโยชน์ที่ได้รับ
จากการดำเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการ PDCA อย่างเป็นระบบ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกทั้งในด้านการเรียนรู้ของนักเรียน และการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอน ดังนี้
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้นอย่างชัดเจน
จากการเปรียบเทียบผลคะแนนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมตามแผนที่วางไว้ พบว่า นักเรียนมีผลการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์สูงขึ้น โดยเฉพาะในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล การทดลอง และการสรุปผลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดไว้ และเมื่อเปรียบเทียบผลคะแนน O-NET พบว่าคะแนนเฉลี่ยของผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดเหล่าขวัญ (จ่างอนุเคราะห์) สูงกว่าระดับประเทศ
2. นักเรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และความมั่นใจในการเรียนรู้เพิ่มขึ้น
นักเรียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียนมากขึ้น กล้าคิด กล้าถาม และสามารถอธิบายแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างเข้าใจลึกซึ้ง ผ่านกิจกรรมที่เน้นการทดลอง การสังเกต และการอภิปรายกลุ่ม โดยใช้สถานการณ์จำลองและกิจกรรมเชิงประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริง
3. ครูผู้สอนสามารถออกแบบและจัดการเรียนรู้เชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
กระบวนการ PDCA ช่วยให้ครูสามารถวางแผน ตรวจสอบ และปรับปรุงการสอนของตนเองอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้กิจกรรมการเรียนรู้มีความต่อเนื่อง ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล และสามารถพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนได้ตรงจุด
4. ปัจจัยความสำเร็จ
ความสำเร็จของดำเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการ PDCA มาจากปัจจัยสำคัญหลายประการที่เกื้อหนุนและส่งเสริมซึ่งกันและกัน ดังนี้
1. การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบตามกระบวนการ PDCA
การดำเนินงานที่เป็นขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การวางแผน (Plan) การดำเนินการ (Do) การประเมินผล (Check) และการปรับปรุงพัฒนา (Act) ทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาและวางแนวทางแก้ไขได้ตรงจุด มีการติดตามความก้าวหน้าและปรับแนวทางอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การพัฒนามีความยั่งยืน
2. ความร่วมมือของครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษา
การทำงานเป็นทีมของครูผู้สอน โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนแนวทางการสอน การวางแผนร่วมกัน และการช่วยกันวิเคราะห์ผลการเรียนของนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้การจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับวัยของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 โดยเน้นการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง (Active Learning) และการบูรณาการเนื้อหาให้เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน ทำให้นักเรียนเกิดความเข้าใจ สนุกกับการเรียน และมีพัฒนาการทางด้านทักษะการคิดอย่างชัดเจน
4. การสนับสนุนจากผู้บริหารสถานศึกษาและผู้ปกครอง
ผู้บริหารให้การสนับสนุนทั้งด้านทรัพยากร เวลา และโอกาสในการพัฒนาครู ขณะเดียวกัน ผู้ปกครองก็มีส่วนร่วมในการติดตามพัฒนาการของนักเรียนและสนับสนุนการเรียนรู้ของบุตรหลานที่บ้าน ซึ่งช่วยเสริมแรงจูงใจในการเรียนรู้
5. บทเรียนที่ได้รับ
จากการดำเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการ PDCA พบว่า การวางแผนอย่างเป็นระบบคือรากฐานของความสำเร็จ การใช้กระบวนการ PDCA ทำให้เห็นความสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกก่อนวางแผนการเรียนรู้ การวางเป้าหมายที่ชัดเจน รวมถึงการออกแบบกิจกรรมที่สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของผู้เรียน ส่งผลให้การจัดการเรียนรู้เป็นไปอย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงความร่วมมือคือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ โดยการทำงานเป็นทีมระหว่างครู ผู้บริหาร นักเรียน และผู้ปกครอง มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการพัฒนา ทั้งในการวางแผน สนับสนุนทรัพยากร และสร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียน