ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนศรีภิรมย์พิทยา

1. สภาพปัจจุบัน ปัญหาของผลงานหรือนวัตกรรมที่นำเสนอ

1.1 ความเป็นมาและสภาพปัญหา

คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เนื่องจากคณิตศาสตร์ช่วยให้มนุษย์มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและถี่ถ้วน ช่วยในการคาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังช่วยพัฒนามนุษย์ให้สมบูรณ์ มีความสุข มีความสมดุลทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญาและอารมณ์ สามารถคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็นและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ปัญหาทางคณิตศาสตร์มักเป็นสถานการณ์หรือคำถามที่มีเนื้อหาสาระและกระบวนการ หรือความรู้ที่ผู้เรียนไม่คุ้นเคยมาก่อนหากไม่ผ่านการศึกษาค้นคว้าอย่างมาก การหาคำตอบจะต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ทางคณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ ประกอบกับความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการตัดสินใจเลือกใช้วิธีการ ดังนั้นการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้นั้น ไปปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ซึ่งสิ่งแรกที่ควรคำนึงถึง คือผู้เรียนควรมีโอกาสในการลงมือทำค้นหาวิธีการ วางแผน และสรุปองค์ความรู้นั้น ๆ ได้ด้วยตนเองมากกว่าที่จะสอนให้ผู้เรียนได้รู้ถึงคำตอบของปัญหานั้นในทันที โดยไม่พยายามส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นพบรูปแบบหรือวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตนเอง กล่าวคือไม่เน้นทักษะกระบวนการคิดของนักเรียนนั่นเอง และจากการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนศรีภิรมย์พิทยา ที่ข้าพเจ้าได้ทำการจัดการเรียนการสอนอยู่นั้น พบว่า นักเรียนมีปัญหาในด้านการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง การเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 ซึ่งเป็นเนื้อหาหลักและเนื้อหาสำคัญอย่างมากในการเรียนเพื่อเชื่อมโยงความรู้ไปใช้ในระดับชั้นเรียนที่สูงขึ้น อีกทั้งบทเรียนดังกล่าวยังคงต้องอาศัยความรู้พื้นฐานอย่างมากในการเรียนรู้และมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งผลที่พบก็คือนักเรียนไม่สามารถเข้าใจหลักการในการเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้ผู้เรียนมีการนำไปประยุกต์ใช้ที่ผิดหลักการ ข้าพเจ้าคิดว่าเกิดจากกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่่ผ่านมายังไม่ดีเท่าที่ควรและเนื้อหาในรายวิชาคณิตศาสตร์ส่วนมากมีลักษณะเป็นนามธรรม ทำให้นักเรียนไม่สามารถเข้าใจถึงหลักการและวิธีการอย่างถูกต้อง นักเรียนขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้ขาดทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นักเรียนเรียนแบบท่องจำ ไม่กล้าแสดงออก ไม่เกิดทักษะการเรียนรู้ ขาดความกระตือรือร้น มีความเบื่อหน่าย ไม่สนใจเรียน ซึ่งผลที่ตามมาก็คือนักเรียนไม่สามารถ ต่อยอดความรู้ได้ ทำให้การเรียนในระดับต่อไปหรือในบทเรียนต่อไปนั้นเกิดความไม่เข้าใจและยากลำบากในการเรียนอีกทั้งนักเรียนยังมีเจตคติที่ไม่ดีต่อรายวิชาคณิตศาสตร์อีกด้วย

1.2 แนวทางการแก้ปัญหา

จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ครูครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์พัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ให้ดีขึ้น และเกิดความคิดที่จะแก้ปัญหาในเรื่องการพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ และเกิดความสนใจที่จะนำรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเปิด (Open Approach) มาใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนศรีภิรมย์พิทยา เพื่อให้นักเรียนมีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ มีความกล้าแสดงออก เกิดทักษะการเรียนรู้ มีความกระตือรือร้น สนใจเรียน และมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์

1.3 จุดประสงค์

1.3.1 เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับที่มากกว่า 100,000

1.3.2 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับที่มากกว่า 100,000

1.3.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเปิด (Open Approach) ของครูผู้สอน

3.ประโยชน์ที่ได้รับ

3.2.1 ผู้เรียนเกิดทักษะด้านการเรียนรู้ คือ มีความร่วมมือในการทำกิจกรรมกลุ่ม แก้ปัญหาเป็น มีการ

สื่อสารซึ่งกันและกัน มีความเต็มใจร่วมมือกัน มีวิจารณญาณในการเลือกใช้วิธีการในการวางแผนการแก้ปัญหาและมีความใส่ใจกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นอย่างดี

3.2.2 ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการเรียนคณิตศาสตร์

3.2.3 นักเรียนมีทักษะทางคณิตศาสตร์เพิ่มขึ้นและทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางเรียนสูงขึ้น

3.2.4 นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อการเรียน มีความตั้งใจ ปฏิบัติกิจกรรมได้อย่างมีความสุข กล้าแสดงออก และมีประสิทธิภาพ

3.2.5 ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในด้านของการทำงาน คือ มีความมุ่งมั่นในการทำงาน และ มีความใฝ่รู้มากขึ้น

3.2.6 ครูผู้สอนได้พัฒนาศักยภาพของตนเองด้วยการแสวงหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ ออกแบบเทคนิค

และวิธีการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถสร้างสื่อและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาอีกด้วย

4.ปัจจัยความสำเร็จ

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมการพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบ การจัดการเรียนรู้แบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนศรีภิรมย์พิทยา เป็นไปตามจุดประสงค์ที่ครูผู้สอนตั้งไว้ รวมถึงสามารถสร้างเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ให้แก่นักเรียนโรงเรียนศรีภิรมย์พิทยา จนส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของโรงเรียนที่เฉลี่ยสูงขึ้น ได้แก่

4.1 การร่วมมือกันในการจัดกระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กิจกรรมต่างๆ ที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนของครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ทั้งโรงเรียน

4.2 การสนับสนุนของผู้บริหารสถานศึกษา ในด้านการให้คำปรึกษา สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์

4.3 นักเรียนมีความพร้อมต่อการจัดกิจกรรม ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรม ตั้งใจเรียนรู้ เกิดความสนุกสนาน เกิดความมั่นใจในตนเอง เมื่อพบว่าสิ่งที่เรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ส่งผลให้การจัดกิจกรรม เกิดประสิทธิภาพและเป็นไปตามจุดประสงค์ที่ครูผู้สอนตั้งไว

5. บทเรียนที่ได้รับ

ในการจัดกิจกรรมการพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเปิด (Open Approach) เรื่อง การเปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนศรีภิรมย์พิทยา ครูผู้สอนต้องมีแผนการจัดกิจกรรมหรือแบบฝึกที่เรียงลำดับจากง่ายไปยาก มีการแบ่งเนื้อหาตามกลุ่ม ความสามารถของนักเรียนกลุ่มอ่อน กลุ่มปานกลาง และกลุ่มเก่ง โดยเนื้อหาสามารถปรับใช้ได้กับทุกกลุ่ม และควรมีเทคนิควิธีการสร้างบรรยากาศให้เกิดความสนุกสนาน ส่งผลโดยตรงให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยความเข้าใจ และมีทัศนคติที่ดี นักเรียนมีความกระตือรือร้นที่อยากจะเรียนคณิตศาสตร์มากขึ้น มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียน

ข้อเสนอแนะในการจัดกิจกรรม ดังนี้

1. ด้านเนื้อหาในแบบฝึก/กิจกรรม ควรมีเนื้อหาสอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน เนื้อหา ไม่ยากเกินกว่าระดับชั้นของนักเรียน สามารถนำเนื้อหาไปใช้ได้จริง

2. ครูผู้สอนคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาชั้นอื่นๆ สามารถนำรูปแบบวิธีการจัดการเรียนรู้แบบ active learning โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเปิด (Open Approach) ไปปรับใช้กับนักเรียนชั้นอื่นๆ ได้

โพสต์โดย แป๊บ : [10 พ.ค. 2568 (15:11 น.)]
อ่าน [59895] ไอพี : 223.207.229.38
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,845 ครั้ง
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"

เปิดอ่าน 1,672 ครั้ง
"สูงวัย เนือยนิ่ง ทอดหุ่ยกับสมองเสื่อม" พฤติกรรมแบบไหน ทำให้เกิดความเสี่ยง?
"สูงวัย เนือยนิ่ง ทอดหุ่ยกับสมองเสื่อม" พฤติกรรมแบบไหน ทำให้เกิดความเสี่ยง?

เปิดอ่าน 12,306 ครั้ง
วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา

เปิดอ่าน 91,373 ครั้ง
การเขียนชื่อจังหวัด เขต และอำเภอ เป็นภาษาอังกฤษ
การเขียนชื่อจังหวัด เขต และอำเภอ เป็นภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 14,745 ครั้ง
"ผลสอบ" วัดความสามารถ การทำงานได้จริงหรือ ?
"ผลสอบ" วัดความสามารถ การทำงานได้จริงหรือ ?

เปิดอ่าน 19,596 ครั้ง
ความรู้เรื่องเมืองสยาม
ความรู้เรื่องเมืองสยาม

เปิดอ่าน 14,879 ครั้ง
เก็บหนังสือเก่าไม่ให้ขึ้นรา
เก็บหนังสือเก่าไม่ให้ขึ้นรา

เปิดอ่าน 37,275 ครั้ง
ลักษณะบุคคลที่มีความสามารถทางด้านพหุปัญญา
ลักษณะบุคคลที่มีความสามารถทางด้านพหุปัญญา

เปิดอ่าน 88,298 ครั้ง
วิธีทำ  น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ
วิธีทำ น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ

เปิดอ่าน 54,908 ครั้ง
7 สัญลักษณ์ในขวดพลาสติก มีความหมายอย่างไร อันไหนรีไซเคิลได้ ที่นี่มีคำตอบ
7 สัญลักษณ์ในขวดพลาสติก มีความหมายอย่างไร อันไหนรีไซเคิลได้ ที่นี่มีคำตอบ

เปิดอ่าน 22,588 ครั้ง
3 steps พุงยุบใน 2 weeks
3 steps พุงยุบใน 2 weeks

เปิดอ่าน 21,311 ครั้ง
เทควันโด : ประวัติเทควันโดในประเทศไทย
เทควันโด : ประวัติเทควันโดในประเทศไทย

เปิดอ่าน 19,549 ครั้ง
ประโยชน์ของ "ผักแพว"
ประโยชน์ของ "ผักแพว"

เปิดอ่าน 25,861 ครั้ง
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 58 ใน 7 สาขา 32 รายการ มีอะไรบ้าง คลิกเลย
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 58 ใน 7 สาขา 32 รายการ มีอะไรบ้าง คลิกเลย

เปิดอ่าน 29,290 ครั้ง
ข้อสอบ O-NET รูปแบบอัตนัย ภาษาไทย ป.6 มีจำนวนกี่ข้อ กี่คะแนน และออกเนื้อหาอะไรบ้าง
ข้อสอบ O-NET รูปแบบอัตนัย ภาษาไทย ป.6 มีจำนวนกี่ข้อ กี่คะแนน และออกเนื้อหาอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 17,673 ครั้ง
ตัวอย่างบริษัท ที่ไม่ควรทำงานด้วย
ตัวอย่างบริษัท ที่ไม่ควรทำงานด้วย
เปิดอ่าน 11,526 ครั้ง
ไม่อยากเป็นผู้หญิง กลิ่นตัวแรง
ไม่อยากเป็นผู้หญิง กลิ่นตัวแรง
เปิดอ่าน 17,101 ครั้ง
นาคเล่นน้ำ
นาคเล่นน้ำ
เปิดอ่าน 28,993 ครั้ง
เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม?  วิชาที่คนไม่เข้าใจ
เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม? วิชาที่คนไม่เข้าใจ
เปิดอ่าน 12,614 ครั้ง
ดื่มนม วิธีเสริมแคลเซียมอย่างประหยัด
ดื่มนม วิธีเสริมแคลเซียมอย่างประหยัด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ