๑. ที่มาและความสำคัญ
๑.๑ ความเป็นมาและสภาพปัญหา
การพัฒนาคุณการศึกษาให้เกิดคุณภาพนั้น สิ่งหนึ่งที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปคือคุณภาพของผู้เรียน เพื่อให้เชื่อมั่นว่าคุณภาพผู้เรียนจะเกิดขึ้นได้ และบรรลุหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และมาตรฐาน การเรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ จะต้องมีกระบวนการสู่ความสำเร็จ มีองค์ประกอบและปัจจัยคือ คุณภาพของผู้เรียน ที่โรงเรียนต้องประกันคุณภาพต่อ ผู้ปกครอง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโรงเรียนต้องประกันคุณภาพต่อผู้ปกครองและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้เรียนจะต้องมีคุณภาพและมาตรฐานตามหลักสูตร มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ ดังนั้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจำเป็นต้องพัฒนาองค์ประกอบและกระบวนการทางการศึกษา กระบวนการที่สำคัญประกอบด้วย กระบวนการเรียนการสอน กระบวนการบริหาร และกระบวนการนิเทศการศึกษา กระบวนการทั้งสามนี้ต้องปฏิบัติงานอย่างประสานสัมพันธ์และสนับสนุนกันและกันเป็นอย่างดี จึงจะช่วยให้การพัฒนาคุณภาพการศึกษาประสบผลสำเร็จตามจุดหมายของหลักสูตร ถ้าส่วนหนึ่งส่วนใด บกพร่อง ไม่เชื่อมโยงกันก็จะทำให้ส่วนอื่น ๆ ได้รับความกระทบกระเทือนไปด้วย ส่งผลให้การศึกษาไม่บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่ากระบวนการสำคัญที่เป็นผลต่อคุณภาพการศึกษาโดยตรงคือ กระบวนการเรียน การสอน ซึ่งเป็นกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาสภาพที่ไม่พึงประสงค์ในปัจจุบันให้เป็นสภาพที่ ประสงค์ในอนาคต คือ เป็นไปตามจุดหมายของหลักสูตร แต่การเรียนการสอนของนักเรียนและครูก็ยัง จำเป็นต้องอาศัยการบริหารมาช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่ครูในด้านต่าง ๆ รวมทั้งกระบวนการนิเทศ การศึกษาที่สนับสนุนการเรียนการสอนของครู อีกทางหนึ่งด้วย จะเห็นได้ว่าในการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพนั้นการนิเทศการศึกษาเป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จะต้องดำเนินงานให้ประสาน สัมพันธ์กับกระบวนการอื่น ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้บรรลุผลตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรทำให้ เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนถาวร ดังคำกล่าวที่ว่า การจัดการที่ดีเป็นกุญแจนำไปสู่ความสำเร็จขององค์การ การนิเทศที่ดีนำไปสู่การจัดการที่ดี
โรงเรียนบ้านแก่งหว้าแก่งไฮ ตั้งอยู่เลขที่ ๒๐๕ หมู่ ๘ ถนน นครไทย ด่านซ้าย ตำบลหนองกะท้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๓
มีเขตพื้นที่บริการ ๓ หมู่บ้าน เปิดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาล ๒ ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โดยสภาพปัญหาของโรงเรียนบ้านแก่งหว้าแก่งไฮ สะท้อนถึงความท้าทายและอุปสรรคที่ต้องเผชิญในกระบวนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยสภาพปัญหาดังกล่าวเกี่ยวข้องทั้งในด้านการจัดการเรียนการสอน การนิเทศภายใน การพัฒนาคุณภาพครูและนักเรียน
ปัญหาที่พบในโรงเรียนบ้านแก่งหว้าแก่งไฮ คุณภาพการเรียนการสอนของครู ด้านการจัดการเรียนการสอนของครูบางท่านยังเน้นการสอนแบบดั้งเดิมที่เน้นการบรรยายและการท่องจำ ทำให้ผู้เรียนขาดทักษะในการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการเรียนรู้ด้วยตนเอง ครูขาดความเชี่ยวชาญและความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสอน ทำให้การเรียนการสอนไม่สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 การนิเทศภายในที่ไม่เป็นระบบ ซึ่งการนิเทศภายในโรงเรียนขาดการวางแผนที่ชัดเจนและเป็นระบบ ทำให้ขาดการติดตามและประเมินผลการพัฒนาและการเรียนการสอนของครู กระบวนการนิเทศขาดความต่อเนื่องและความมีส่วนร่วมของครูทุกท่าน ทำให้การพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพการสอนของครูไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในบางวิชาหลัก เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ยังไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาทั้งในด้านการสอนและการสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียน การพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน นักเรียนบางส่วนยังขาดทักษะด้านคุณธรรมและจริยธรรม เช่น การเคารพตนเองและผู้อื่น ความรับผิดชอบในการเรียนรู้ การมีน้ำใจ และการทำงานร่วมกัน ซึ่งอาจมีผลต่อบรรยากาศการเรียนรู้ในโรงเรียน การพัฒนาครูในด้านวิชาการและวิชาชีพ ครูบางท่านขาดโอกาสในการพัฒนาตนเองผ่านการอบรมหรือการเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการ ทำให้ขาดการเรียนรู้ใหม่ๆ และการพัฒนาแนวทางการสอนที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ปัญหาด้านพฤติกรรมและการใช้เทคโนโลยีของนักเรียน นักเรียนบางกลุ่มมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การขาดวินัยในการเรียน การใช้เวลาไปกับการเล่นเกมหรือสื่อสังคมออนไลน์มากเกินไป ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนลดลง การใช้เทคโนโลยีในทางที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมและการเรียนรู้ของนักเรียน
สภาพปัญหาของโรงเรียนบ้านแก่งหว้าแก่งไฮ ประกอบด้วยปัญหาที่หลากหลายทั้งในด้านการสอน การพัฒนาครู การพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน การนิเทศภายใน การนำกระบวนการนิเทศภายในด้วยรูปแบบ KWKH Model มาใช้สามารถช่วยให้โรงเรียนแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการวางแผน การนิเทศ และการประเมินผลอย่างเป็นระบบเพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้และคุณภาพการสอนในระยะยาว
๑.๒ แนวทางการแก้ปัญหาหรือการพัฒนา
แนวทางการแก้ปัญหาหรือการพัฒนาของโรงเรียนบ้านแก่งหว้าแก่งไฮสามารถทำได้โดยการนำกระบวนการนิเทศภายในด้วยรูปแบบ KWKH Model มาปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน การพัฒนาครู การพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน แนวทางการแก้ปัญหาและการพัฒนามีดังนี้
๑) พัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของครู ส่งเสริมให้ครูเข้าร่วมอบรมและพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง จัดการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างครู (PLC: Professional Learning Community) เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ และปรับปรุงการสอนร่วมกัน ใช้การสอนแบบโครงงาน (Project-Based Learning) และการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Active Learning) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองและทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน
๒) ปรับปรุงกระบวนการนิเทศภายในให้เป็นระบบจัดทำแผนการนิเทศภายในที่ชัดเจนและครอบคลุมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยใช้ KWKH Model เพื่อกำหนดขั้นตอนการนิเทศ การติดตาม การประเมินผล และการปรับปรุงการสอน จัดตั้งคณะกรรมการนิเทศภายในโรงเรียนที่มีการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ และกำหนดบทบาทหน้าที่ของครูแต่ละคนในการนิเทศและพัฒนา ใช้การประเมินผลที่เป็นมาตรฐานและเปิดเผยผลการประเมินเพื่อให้ครูทราบถึงจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนา พร้อมให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์
๓) ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ใช้การสอนที่เน้นการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา เพื่อให้นักเรียนมีทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลและสื่อสารความคิดได้ดีขึ้น จัดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ เช่น ค่ายวิชาการ การแข่งขันวิชาการ และกิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความรู้และทักษะทางวิชาการของนักเรียนจัดกิจกรรมเพิ่มเติม เช่น การเรียนรู้เพิ่มเติมหลังเลิกเรียน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในเนื้อหาวิชาที่เรียน
๔) พัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน จัดกิจกรรมพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม เช่น กิจกรรมการบริการชุมชน การทำกิจกรรมเพื่อสังคม และการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาจิตสำนึกทางศาสนา เพื่อปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมในนักเรียน พัฒนาหลักสูตรเสริมที่เน้นการเรียนรู้คุณธรรมและจริยธรรม สนับสนุนให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมการพัฒนาคุณธรรม เช่น การเข้าร่วมโครงการลูกเสือ-เนตรนารี และโครงการคุณธรรมต่าง ๆ
๕) แก้ไขปัญหาพฤติกรรมและการใช้เทคโนโลยีของนักเรียน จัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เช่น การอบรมการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และการให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการใช้สื่อสังคมออนไลน์สร้างระบบการสนับสนุนและการให้คำปรึกษาในโรงเรียนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาพฤติกรรมแลการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมสร้างกฎระเบียบและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือและเทคโนโลยีในโรงเรียน และให้ครูและผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการควบคุมและดูแล
๒. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย
๒.๑ วัตถุประสงค์
๑) เพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และการทดสอบระดับชาติ
๒) เพื่อพัฒนาครูและส่งเสริมให้มีการเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ
๓) เพื่อพัฒนาระบบการนิเทศภายในที่มีประสิทธิภาพ
๒.๒ เป้าหมาย
เป้าหมายเชิงปริมาณ
๑) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านแก่งหว้าแก่งไฮเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด
๒) ครูและบุคลากรร้อยละ ๘๐ ได้รับการพัฒนาวิชาชีพของครูและเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
๓) ครูผู้สอนร้อยละ ๑๐๐ ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการนิเทศภายในได้อย่างเป็นระบบ
เป้าหมายเชิงคุณภาพ
โรงเรียนบ้านแก่งหว้าแก่งไฮ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น ครูและบุคลากรทางการศึกษามีการพัฒนาวิชาชีพและได้รับการนิเทศภายในอย่างเป็นระบบ
๓. กระบวนการหรือขั้นตอนการนิเทศภายในสถานศึกษา
๓.๑ การออกแบบ
กระบวนการออกแบบการนิเทศในโรงเรียน เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของครูและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน กระบวนการนี้จะช่วยให้การนิเทศเป็นระบบ มีเป้าหมายที่ชัดเจน และสามารถติดตามและประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการนิเทศภายในด้วยรูปแบบ KWKH Model นั้น กระบวนการออกแบบการนิเทศสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนต่าง ๆ ได้ดังนี้
กระบวนการออกแบบการนิเทศภายในด้วยรูปแบบ KWKH Model
KWKH Model (Knowledge-Working-Knowledge-Handling Model) เป็นกรอบแนวคิดที่นำมาใช้ในการพัฒนากระบวนการนิเทศภายใน ซึ่งมีการออกแบบกระบวนการใน ๔ ขั้นตอนหลัก คือ K (Knowledge), W (Working), K (Knowledge), H (Handling) ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: K (Knowledge) - การเตรียมความรู้และข้อมูล
วิเคราะห์สภาพปัจจุบัน: ทำการวิเคราะห์ข้อมูลและสภาพปัญหาภายในโรงเรียน คุณภาพการเรียนการสอน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความต้องการในการพัฒนาครู และข้อมูลด้านพฤติกรรมของนักเรียน
กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์การนิเทศ: ระบุเป้าหมายการนิเทศที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง เช่น การพัฒนาห้องเรียนคุณภาพ การพัฒนาวิธีการสอน การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม เป็นต้น
วางแผนการนิเทศ: จัดทำแผนการนิเทศที่ระบุเนื้อหา วิธีการ ระยะเวลา และเครื่องมือที่ใช้ในการนิเทศ เช่น การสอนแบบ PLC, การอบรมเชิงปฏิบัติการ, การสังเกตการสอนในห้องเรียน และการประชุมเชิงวิชาการ
ขั้นตอนที่ 2: W (Working) - การดำเนินการนิเทศ
การดำเนินการนิเทศ: ปฏิบัติตามแผนการนิเทศที่ได้วางไว้ โดยให้ความสำคัญกับการสังเกตการสอน การให้คำปรึกษา การประเมินการสอน และการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการนิเทศ
การทำงานร่วมกันของทีม: สร้างทีมที่มีความหลากหลายและมีบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนในการนิเทศ เช่น คณะกรรมการนิเทศ ผู้ประสานงาน และครูผู้สอน เพื่อสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนความรู้
การพัฒนาครู: จัดการฝึกอบรมและกิจกรรมที่เสริมสร้างทักษะของครู เช่น การอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ขั้นตอนที่ 3: K (Knowledge) - การประเมินและแลกเปลี่ยนความรู้
การติดตามและประเมินผลการนิเทศ: เก็บรวบรวมข้อมูลและผลการนิเทศ เช่น ผลการประเมินการสอน การสังเกตพฤติกรรมการสอนของครู และผลการเรียนของนักเรียน เพื่อวิเคราะห์และสรุปผล
การประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC Meetings): จัดการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกลุ่มครู เพื่อวิเคราะห์ผลการนิเทศ ร่วมกันแก้ปัญหา และพัฒนาคุณภาพการสอน
การรายงานผลและเสนอแนะการพัฒนา: จัดทำรายงานผลการนิเทศและเสนอแนะแนวทางการพัฒนาครูและการเรียนการสอน เพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่องและยั่งยืน
ขั้นตอนที่ 4: H (Handling) - การปรับปรุงและขยายผล
การปรับปรุงการนิเทศตามผลการประเมิน: ปรับปรุงกระบวนการนิเทศให้ดียิ่งขึ้นโดยใช้ข้อมูลและข้อเสนอแนะจากการประเมินผล เช่น การปรับปรุงวิธีการนิเทศ การเสริมสร้างทักษะของครู และการปรับแผนการสอน
การขยายผลการนิเทศในวงกว้าง: นำผลการนิเทศที่ประสบความสำเร็จมาใช้ในการพัฒนาครูคนอื่นๆ หรือกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ในโรงเรียน เพื่อให้เกิดการพัฒนาแบบเป็นระบบ
การวางแผนการนิเทศในระยะยาว: พัฒนากลยุทธ์และแผนการนิเทศในระยะยาวเพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน และการนิเทศเป็นประจำทุกปี
๓.๒ ขั้นตอนการดำเนินการนิเทศภายในด้วย KWKH Model
การดำเนินการนิเทศภายในตามรูปแบบ KWKH Model ประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญดังนี้
๑) การวางแผนการดำเนินการนิเทศ (Preparation and Planning)
- กำหนดทีมงานนิเทศ: แต่งตั้งคณะกรรมการนิเทศหรือทีมงานที่รับผิดชอบในการดำเนินการนิเทศ ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหาร ครูผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
- กำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์: ยืนยันเป้าหมายที่ต้องการบรรลุและวิธีการที่ใช้ในการนิเทศตามแผนที่วางไว้ เช่น การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop), การสังเกตการสอนในห้องเรียน (Classroom Observation), และการให้คำปรึกษา (Coaching)
- จัดเตรียมสื่อและเครื่องมือ: เตรียมสื่อการสอน เครื่องมือประเมินผล และเอกสารที่ใช้ในการนิเทศ เช่น แบบประเมินผลการสอน เอกสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเทคโนโลยีการสื่อสารที่ใช้ในการประชุมออนไลน์
๒) การสื่อสารและสร้างความเข้าใจ (Communication and Consensus Building)
- จัดการประชุมเตรียมความพร้อม: จัดประชุมร่วมกับครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องเพื่อสื่อสารแผนการนิเทศ วัตถุประสงค์ และบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนในกระบวนการนิเทศ
- สร้างความเข้าใจร่วมกัน: สร้างความเข้าใจและความเห็นพ้องกันเกี่ยวกับการนิเทศในกลุ่มครู เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมและสนับสนุนการพัฒนาอย่างเต็มที่
- ประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูล: จัดทำคู่มือหรือสื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกระบวนการนิเทศที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ครูและบุคลากรเข้าใจ
๓) การดำเนินการนิเทศ (Implementation)
- การนิเทศในห้องเรียน: สังเกตการสอนในห้องเรียน (Classroom Observation) เพื่อวิเคราะห์วิธีการสอนของครู และประเมินประสิทธิภาพการสอน รวมถึงการให้ข้อเสนอแนะและคำแนะนำเพื่อปรับปรุงการสอน
- การประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC Meetings): จัดการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบกลุ่ม (Professional Learning Community) เพื่อให้ครูได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แบ่งปันความรู้ และแก้ไขปัญหาร่วมกัน
- การให้คำปรึกษา (Coaching and Mentoring): ให้คำปรึกษาแก่ครูรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงการสอน การจัดการชั้นเรียน และการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน
- การฝึกอบรมและพัฒนาครู (Training and Development): จัดการฝึกอบรมหรือกิจกรรมเชิงปฏิบัติการที่เน้นทักษะการสอน การใช้สื่อการเรียนรู้ใหม่ ๆ และการพัฒนาตนเองของครู
๔) การติดตามและประเมินผล (Monitoring and Evaluation)
- การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง: ติดตามความก้าวหน้าและการพัฒนาของครูในแต่ละขั้นตอนการนิเทศ เช่น การติดตามผลการสอน การประเมินพฤติกรรมการสอน และการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในห้องเรียน
- การประเมินผลการนิเทศ: ใช้เครื่องมือประเมินที่ออกแบบมาเพื่อวัดความสำเร็จของการนิเทศ เช่น แบบประเมินการสอน แบบสอบถามความพึงพอใจ และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
- การจัดทำรายงานผลการนิเทศ: จัดทำรายงานผลการนิเทศที่ชัดเจนและครอบคลุมเพื่อรายงานให้แก่ทีมบริหารและครูที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นข้อมูลที่เป็นประโยชน์และแนวทางการปรับปรุง
๕) การปรับปรุงและขยายผล (Reflection and Improvement)
- วิเคราะห์ผลการนิเทศ: วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการนิเทศเพื่อหาแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาในอนาคต
- การปรับปรุงแผนการนิเทศ: ปรับปรุงแผนการนิเทศตามข้อมูลที่ได้รับจากการประเมินผล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนิเทศครั้งต่อไป
- การขยายผลการนิเทศ: นำผลการนิเทศที่ได้มาใช้ในการพัฒนาครูคนอื่น ๆ หรือขยายผลในกลุ่มวิชาอื่น ๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาในวงกว้าง