รายละเอียดการนำเสนอ
1.ความสำคัญของผลงาน/นวัตกรรมหรือวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ
การพัฒนากล้ามเนื้อมือของเด็กปฐมวัยโดยใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ เป็นการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กให้แข็งแรง ที่เด็กก็พอจะลากลีลามือซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเขียนเพราะความคล่องแคล้วของกล้ามเนื้อนิ้วมือมีความสัมพันธ์กันอย่างมากกับการเขียนของเด็ก ซึ่งกิจกรรมหรืออุปกรณ์ที่ใช้ส่งเสริมการใช้กล้ามเนื้อมือกับตาให้ประสานสัมพันธ์กัน สอดคล้องกับบการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช 2560 ได้ให้ความสำคัญกับกิจกรรมศิลปะเพื่อช่วยให้เด็กพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กให้แข็งแรงโดยจัดให้ศิลปะเป็นกิจกรรมจำเป็นอย่างหนึ่ง สำหรับเด็กปฐมวัยในกิจกรรม สร้างสรรค์เพื่อช่วยให้เด็กแสดงออกทางอารมณ์ ความรู้สึก ความคิดริเริ่ม ความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการ โดยใช้ศิลปะตัวอย่างเช่นวาดภาพ ระบายสีฉีก ตัด ปะกระดาษ ปั้น ประดิษฐ์เศษวัสดุ ประโยชน์ที่ได้จากศิลปะ ได้แก่ การสร้างานศิลปะเป็นการสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้จากภายในแล้วถ่ายทอด ออกสู่ภายนอก เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการสะท้อนผล การแสดงออกทางศิลปะ ส่งเสริมความสามารถของเด็กในการแปลสัญลักษณ์ การแสดงออกทางศิลปะทำให้เด็กเป็นผู้ทำอย่างมีความหมายและเป็นผู้สร้าง เป็นผู้ค้นพบ และทำความรู้ให้เป็นรูปร่างขึ้นมากกว่า เป็นผู้รับรู้ในสิ่งที่รู้แล้วการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสำหรับเด็กปฐมวัยนั้น เด็กส่วนใหญ่มีปัญหาด้านความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก และเนื่องจากเด็กในระดับปฐมวัยยังไม่มีความคล่องตัวในการใช้กล้ามเนื้อมืออาจเป็นเพราะเด็กไม่ได้รับการส่งเสริมการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กเท่าที่ควร เนื่องจากสภาพการอบรมเลี้ยงดูจากทางบ้านที่มักไม่ปล่อยให้เด็กทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง ซึ่งทำให้มีผลเสียต่อพัฒนาการของเด็ก ในขณะเดียวกันผู้ปกครองมีค่านิยมในการเร่งให้เด็กเขียนหนังสือได้โดยไม่คำนึงถึงความพร้อมของเด็ก และกระบวนการจัดกิจกรรมของครูผู้สอนในโรงเรียน ยังขาดกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กเฉพาะด้านและครูมีหน้าที่เสนอแนะให้เด็กเกิดความคิดจินตนาการได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปด้วยหลักการและเหตุผลดังกล่าวผู้วิจัยจึงศึกษาการพัฒนาทักษะการใช้กล้ามเนื้อมือในการทำงานของเด็กปฐมวัย โดยใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
2.จุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน
1.เพื่อศึกษาและพัฒนาทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก โดยใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
2.เพื่อเปรียบเทียบทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก โดยใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ก่อนและหลังการทดลอง
ขอบเขตของการวิจัย
ประชากร
ประชาชนที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้เป็นเด็กปฐมวัย ชาย - หญิง อายุระหว่าง 4 - 5 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ของโรงเรียนวิทยสัมพันธ์ จำนวน 15 คน
กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นเด็กปฐมวัย ชาย - หญิง อายุระหว่าง 4 - 5 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ของโรงเรียนวิทยสัมพันธ์ จำนวน 15 คน
ตัวแปร
1. ตัวแปรต้น ไต้แก่ กิจกรรมสร้างสรรค์
2. ตัวแปรตาม ได้แก่ การพัฒนากล้ามเนื้อมือ
ระยะเวลา
การศึกษาครั้งนี้ทำในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 4 สัปดาห์
1.เอกสารที่เกี่ยวข้องกับทักษะการใช้กล้ามเนื้อมือมัดเล็ก
1.1 ความหมายของทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
หมายถึง ความสามารถในการบังคับใช้กล้ามเนื้อ มือ นิ้วมือ และประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตาใน การทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่วมั่นคง มีผู้ให้ความหมายของความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ไว้ดังนี้
พรรณี ช.เจนจิต, (2558) กล่าวว่า ความสามารถในการบังคับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแข่น มือ และ นิ้วมือในการทำกิจกรรมต่าง ๆโดยสัมพันธ์กับการใช้สายตา (Foman and Fleet. 1908) เน้นว่าเป็น ความสามารถในการปรับตัวที่เด็กมีทักษะการใช้มือในการปฏิบัติงานในชีวิตประจำวันได้ เช่น การช่วยตังเอง การแต่งตัว การทำงานต่าง ๆ ตลอดจนการเล่น
1.2 ความสำคัญของทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
กล้ามเนื้อมัดเล็ก เป็นอวัยวะที่สำคัญหนึ่งในการได้ประกอบกิจวัตรประจำวันด้วย ตนเอง การใส่ถอด กระดุมหลุดซิปการแปรงฟันผูกเชือกรองเท้างานศิลปะรวมทั้งการขีดเขียนห้าเด็กใช้กล้ามเนื้อเหล็กได้ คล่องแคล่ว จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ เส้นด้านสติปัญญาให้ดีขึ้นเพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กมีส่วนทำให้ เด็กได้ใช้มือสำรวจ สังเกตจากการสัมผัสจับต้องในทุก ๆ กิจกรรม (อธิษฐาน พลศิลป์ศักดิ์กุล. 2556: 111) ซึ่ง การใช้มือเพื่อที่จะจับของเล่นและเรียนรู้ทักษะ ในการช่วยเหลือตนเองเช่นการกินอาหารและแต่งตัว
1.3 ทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
เป็นการบริหารส่วนของร่างกายที่เล็กกว่า เช่น การจับคว้าสิ่งของระหว่างนิ้วขี้และนิ้วโป้ง หรือ การ กวาดนิ้วเท้าบนผืนทราย การฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กเหล่านี้ ไม่ใช่แค่ขยับนิ้วมือหรือนิ้วเท้าเท่านั้น ยัง รวมไปถึง การใช้ริมฝีปากและลิ้นในการชิมรส และรับรู้ลักษณะรูปทรงสิ่งของ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการ บริหารกล้ามเนื้อเล็ก เช่นกัน โดยปรกติแล้วทักษะการเคลื่อนไหวทั้งสองชนิดจะพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน เพราะการเล่นของเด็ก ๆ ส่วน ใหญ่จะใช้กล้ามเนื้อทั้งสองแบบทำงานร่วมกันนั่นเอง ในเด็กวัยแรกเกิด สมองยังไม่เติบโตเพียงพอที่จะควบคุม การเดิน การเคลื่อนไหวต่าง ๆ โดยพัฒนาการของร่างกายจะเริ่ม จากหัวก่อนและไล่ลงไปที่ตัว ซึ่งเราจะเห็นว่า เด็กแรกเกิดนั้น จะสามารถควบคุมปาก ริมฝีปาก หน้า และลิ้นได้ดี ขณะที่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายจะถูก พัฒนาขึ้นตามหลัง เด็ก ๆ จะเรียนรู้การตั้งคอ ก่อนที่ จะตั้งไหล่และหลังให้ตรง พวกเขาจะสามารถควบคุมการ เคลื่อนไหวของแขน ก่อนควบคุมการใช้มือ และไส่ไปถึงการใช้นิ้วหยิบจับสิ่งของ ซึ่งร่างกายของคนเราช่วงวัย เด็กจะพัฒนาทักษะกล้ามเนื้อมัด ใหญ่ก่อนกล้าม เนื้อมัดเล็กเสมอ ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าเด็ก ๆ จะสามารถนำ มือมาประสานกันได้ก่อนที่ จะเรียนรู้การสลับของเล่นผ่านมือจากข้าย ไปขวา หรือจากขวาไปซ้าย ทักษะทั้ง สองชนิดจะทำได้ดีขึ้น เรื่อย ๆ ในวัยหัดเดิน และชำนาญขึ้น เมื่อร่างกายเติบโต โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วย ส่งเสริมทักษะ พัฒนากล้ามเนื้อได้ด้วยของเล่น เช่น เวลาที่เด็กสามารถนั่งได้โดยตัวเองแล้ว ให้ลองวางของเล่น ที่เขา ชอบพ้นรัศมีมือเอื้อมถึง ซึ่งเด็กจะต้องทรงตัวและลุกมาหยิบของเล่นของเขาเอง พ่อแม่เพียงแต่คอย ช่วย ดูและเป็นก าลังใจให้เด็กใช้ขา แขน และนิ้วมือของเขาในการเคลื่อนไหว และหลังจากที่เด็ก ๆ สามารถเล่น ของเล่นขึ้นเก่าได้อย่างชำนาญแล้ว ให้หาของเล่น หรือกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะใหม่ๆ ให้เขาได้ฝึกฝนกล้ามเนื้อต่าง ๆ แต่อย่าบังคับให้ทำกิจกรรม หรือเล่นของเล่นที่ยากเกิดกว่าวัย หรือ 7 ความสามารถของเด็กซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถศึกษาเรืองความเหมาะสมของของเล่นกับวัยของเด็ก ได้จากคำแนะนำข้างกล่อง หรือหาความรู้จากหนังสือเกี่ยวกับเด็กต่าง ๆ การที่พ่อแม่ความความรู้ ความเข้าใจเรื่องการพัฒนาทักษะต่าง ๆตามวัย
1.4 พัฒนาการทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
สมาคมสหเศรฐศาสตร์แห่งประเทศไทย (2555: 124 ) กล่าวถึง พัฒนาการความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ตังนี้ เมื่ออายุ 34 ขวบ จะเริ่มใช้ช้อนป้อนอาหารเองได้ เมื่ออายุ 5-6 ขวบ จะขว้างรับลูกบอลได้คล่องแคล่วมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (2543:249) กล่าวถึง พัฒนาความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กปฐมวัย
1.5 ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
กีเซล (ประมวญ ดิดคินสัน. 2554: 178-179; อ้างอิงมาจาก Gesell. 1947) ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาพัฒนาการกล่าวว่า ความสามารถในการโช้กล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กสามารถแบ่งออกเป็นระยะการพัฒนาการโดยเริ่มจากขั้นแรก คือ การใช้มือตะปบ ขั้นต่อมาจับของด้วยนิ้ว 4 นิ้วติดกันกับฝ่ามือ โดยเริ่มใช้ฝ่ามือตอนใกล้ๆสันมือ ต่อมาเสื่อนไปใช้กลางใจมือ 2. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
2.1 ความหมายของศิลปะสร้างสรรค์
จากการศึกษาการใช้คำเรียกกิจกรรมศิลปะพบว่า มีการใช้คำที่หลากหลากแตกต่างกันไป เช่น ศิลปะ ศิลปศึกษา และศิลปะสร้างสรรค์ในการศึกษาครั้งนี้ผู้ศึกษาใช้คำว่า กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ถึงแม้จะมีผู้ใช้ คำศัพท์แตกต่างกันไป แต่ให้ความหมายของคำต่าง ๆ
2.2 ความสำคัญของกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์มีความสำคัญอย่างมากต่อเด็กปฐมวัย ดังที่ นักวิชาการหลายท่านได้กล่าวไว้ เลิศ อานนัทนะ (2535: 44) กล่าวว่า กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์มีบทบาท สำคัญในการทำให้เด็กมีความสุข จิตใจร่าเริง เบิกบาน รู้สึกว่าตนเองมีค่า ชีวิตมีความหมาย ก่อให้เกิดความรักความภาคภูมิใจในตนเองและผู้อื่น มีจิตสำนึกในคุณค่าความงามของศิลปะธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็น ดังนี้
2.3 ประเภทของกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
เกศินีนิสสัยเจริญ (๒๕๒๙: ๕ - ๖) ใดก้ล่าวว่า กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์สร้างหรับเด็กปฐมวัย สามารถจัดได้ดังต่อไปนี้
1. กิจกรรมวาดภาพระบายสีเป็นกิจกรรมการสร้างภาพ ที่เด็กเขียนด้วยความรู้ในตัวเองให้เป็น สัญสักษณ์แบบสวยงาม จังหวะและสีสันต่าง ๆ แทนการใช้คำพูด เช่น การวาดภาพด้วยสีน้ำพู่กันการวาดรูป ระบายสีด้วยสีเทียน และดินสอสีการเล่นกับสีแบบต่าง ๆ
2. กิจกรรมการฉีกปะ และติดกระตาษ เป็นกิจกรรมที่ใช้กระตาบต่าง ๆ มาฉีก ตัดและนำมาติดบน กระดาษทำให้เป็นภาพ กระดาษที่นำมาใช้ได้แก่กระดาษหนังสือพิมพ์กระดาษวารสาร กระดาษห่อของขวัญ กระดาษสีมัน
2.4 หลักการในการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
การจัดกิจกรรมศิลปะใหกับเด็กปรมวัยในแต่ละวัน นับวามความสำคัญอย่างยิงสำหรับเด็กปฐมวัย นอกจากจะได้พัฒนาความแข็งแรงของกล้านเนื้อเล็กและการประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับสายดาแล้วกิจกรรมศิลปะยังสอตคล้องกับแบบแผนการเรียนรู้ของสมอง หรือที่เรียกว่า Bxain Base Learning (B3) อีก ด้วย เด็กจะได้ฝึกปฏิบัติจริง มีประสบการณ์ตรงเรียนรู้ผ่านาารสังกตและฝึกกิจกรรมอย่างหลากหลาย เพื่อ เกิดจุดเชื่อมต่อของไยประสาทที่ส ามารถพัฒนาไปสู่แบบ เผนการเรียนรู้ของสมอง ในการจัดกิจกรรมศิลปะ. หรือกิจกรรมสร้างสรรค์ ครูควรจัดกิจกรรมให้เตี๋กมประสบการณ์ตรงและฝึกปฏิบัติอยางหลากหลาย
เครื่องมือที่ใช้
1. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้กิจกรรมสร้างสรรค์
2. แบบประเมินการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก
3. กระบวนการ หรือขั้นตอนการดำเนินงาน
1. กิจกรรมการฝึกทักษะกระบวนการปฏิบัติ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ 5 ขั้นตอน
1.1) ขั้นสังเกตรับรู้
1.2) ขั้นทำตามแบบ
1.3) ขั้นทำเองโดยไม่มีแบบ
1.4) ขั้นฝึกให้ชำนาญ
1.5) ขั้นฝึกทำตามความคิดสร้างสรรค์
2. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เป็นแผนการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ เป็นแผนการจัดกิจกรรมที่เน้น ทักษะกระบวนการปฏิบัติ 5 ขั้นตอน ดังนี้
2.1) ขั้นสังเกตและรับรู้ ให้นักเรียน ดูรูปภาพการฉีกตัดปะที่ทำสำเร็จและสนทนาซักกถามเกี่ยวกับ รูปภาพ
2.2) ขั้นทำตามแบบ ครูนำกระดาษ อุปกรณ์ต่าง ๆ มาจัดวางเรียงเป็นรูปดอกไม้ชนิดต่าง ๆ ให้ นักเรียนดู สังเกตแล้วให้นักเรียนทำตามทีละขั้นตอนี้ เช่น การฉีกตัดปะติดดอกไม้ด้วยกาวให้เป็นรูปแบบต่าง ๆ ตามแบบของจริง เป็นต้น
2.3) ขั้นทำเองโดยไม่มีแบบ ครูให้นักเรียนทำ ตามความคิดของตนเอง
2.4) ขั้นฝึกทำให้ชำนาญ ครูให้นักเรียนฝึกการฉีก การตัด การปะติดภาพต่าง ๆด้วยตนเองตั้งแต่ต้น จนสำเร็จ ตามรูปแบบที่ครูกำหนดให้
2.5) ขั้นฝึกทำตามความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ครูให้นักเรียนฝึกฉีก ตัด ปะ ภาพพร้อมติดตกแต่งตาม ความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง
3. แบบบันทึกผลการปฏิบัติงาน เป็นแบบสังเกตพัฒนาการในการใช้กล้ามเนื้อมือ และบันทึกผลการปฏิบัติงาน ของนักเรียน โดยแบ่งระดับพัฒนาการและผลการปฏิบัติงานออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
ระดับที่ 1 ควรเสริม หมายถึง ปฏิบัติด้วยตนเองได้บางไม่ได้บ้างแม้ได้รับคำชี้แนะ
ระดับที่ 2 พอใช้ หมายถึง ปฏิบัติด้วยตนเองได้ถูกต้องเมื่อได้รับคำแนะนำ
ระดับที่ 3 มากที่สุด หมายถึง การปฏิบัติด้วยตนเองอย่างถูกต้องมั่นใจ
จากผังกระบานการดำเนินงาน PDCA สามารถอธิบายใด้ดังนี้
Plan = P
1.กำหนดเป้าหมาย โดยกรพัฒนากล้ามเนื้อเล็กของเด็กปฐมวัย เพื่อควบคุมการใช้กล้ามเนื้อเล็กให้ ประสานสัมพันธ์กัน ซึ่งเป็นพัฒนาการที่เป็นพื้นฐานของ การเขียน และกิจกรรมอื่น ๆ และกิจกรมการพัฒนา กล้ามเนื้อเล็ก โดยการจัดกิจการรมสร้างสรรค์ นั้นเป็นการสงเสริมพัฒนาการทางด้านกล้ามเนื้อเล็กที่เกี่ยวกับ ความสามารถในการใช้มือและนิ้วมือ และ การประสานสัมพันธ์ระหว่าเมือกับตา ส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ของเด็กปฐมวัย ทำให้เดีกมีความ พร้อมในการเขียน เด็กมีความสนุกและเกิดความสุขในการเรียนรู้
2.วางแผนการทำงาน ดำเนินการ์โดยวิเคราะห์สภาพบัญหาจากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ศึกษา หลักสูตรปฐมวัย มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและตัวบ่งซี้ศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับการพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก การจัด กิจกรรมสร้างสรรค์ ให้กับเด็กปฐมวัย โดยกำหนดจุดมุ่งหมายและรูปแบบ ของสื่อให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก
3.เตรียมวัสดุ อุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมสร้างสรรค์
DO = D
4. ลงมือปฏิบัติงานตามแผน โดยการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ และนำมาใช้กับนักเรียน
Check = C
5. ตรวจสอบผลงาน โดยจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ให้กับเด็ก สังเกตผลการทำกิจกรรมของนักเรียน หา ข้อบกพร่องและนำไปแก้ไขปรับปรุงต่อไป
Action = A
6.ปรับปรุผลงานให้ดีขึ้น โดยการวัดผลและประเมินผลจากการทำกิจกรรมของนักเรียนและนำผลที่ ได้มาปรับปรุงและพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไป
ระยะเวลาในการดำเนินงาน
ดำเนินการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ในแผนการจัดประสบการณ์ระดับชั้นอนุบาล 2 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 เป็นเวลา 4 สัปดาห์สัปดาห์ละ 3 วัน วันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ เวลา 10.00 - 10.30 น. วันละ 30 นาที โดยใช้กิจกรรมที่หลากหลาย
ตารางที่ 1 การจัดกิจกรรมการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กปฐมวัยโดยใช้กิจกรรมศิลปะ สร้างสรรค์เป็นพื้นฐาน ชั้นอนุบาลปีที่ 2
สัปดาห์ที่ ทดลองครั้ง/วัน กิจกรรมสร้างสรรค
1.หน่วยบ้านแสนสุข 1.วันจันทร์
2.วันพุธ
3.วันศุกร์ -การปั้นดินน้ำมัน
-การวาดภาพระบายสี
-การฉีก ตัด ปะ (กระดาษ)
2.หน่วยต้นไม้ให้คุณค่า 1.วันจันทร์
2.วันพุธ
3.วันศุกร์ -การปั้นดินน้ำมัน
-การวาดภาพระบายสี
-การฉีก ตัด ปะ (กระดาษ)
3.หน่วยหน่วยวันเฉลิมพระ
ชนมพรรษา รัชกาลที่ 10 1.วันจันทร์
2.วันพุธ
3.วันศุกร์ -การปั้นดินน้ำมัน
-การวาดภาพระบายสี
-การฉีก ตัด ปะ (กระดาษ)
4.หน่วยวันแม่แห่งชาติ 1.วันจันทร์
2.วันพุธ
3.วันศุกร์ -การปั้นดินน้ำมัน
-การวาดภาพระบายสี
-การฉีก ตัด ปะ (กระดาษ)
4.ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ
4.1 ผลการดำเนินการ
นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ ได้มีพัฒนาการทางกล้ามเนื้อมัดเล็ก หลังการจัด ประสบการณ์กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ที่ดีขึ้น ทั้งนี้จากการจัดประสบการณ์ที่เน้นให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองจาก ประสบการณ์ตรงโดยการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กในการปฏิบัติกิจกรรม ทำให้นักเรียนสามารถใช้มือในการหยิบจับ ได้แข็งแรง มั่นคงแม่นยำ มากยิ่งขึ้น จึงอาจกล่าวได้ว่า การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กปฐมวัยด้วยการจัด กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ สามารถพัฒนาศักยภาพด้านร่างกายอารมณ์ สังคมและสติปัญญาได้เต็มศักยภาพ และมีประสิทธิผลสูง
4.2 ผลสัมฤทธิ์
1. ด้านผู้เรียน นักเรียนมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และสนใจในการเรียนมากขึ้น เพราะได้ปฏิบัติ กิจกรรมที่สร้างความสนุกสนาน และกระตุ้นให้เด็กคิดและปฏิบัติด้วยวิธีการต่าง ๆ ทำให้กล้ามเนื้อมือของเด็ก แข็งแรง
2. กล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ ในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งแสดงว่ากล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กได้รับการพัฒนาและมีความแข็งแรงและยังส่งเสริม ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กพัฒนาขึ้นเช่นกัน
3. กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ส่งผลดีต่อนักเรียน และทำให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในกิจกรรม ส่งเสริม สนับสนุนและจัดหาสื่อในการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย
ข้อเสนอแนะ
1. ในการพัฒนาครั้งนี้พบว่ากิจกรรมที่นำมาใช้ ทำให้กล้ามเนื้อเล็กของเด็กปฐมวัยมีการ พัฒนา จึง ควรนำกิจกรรมเกมการศึกษา เคลื่อนไหวและจังหวะ เชิดหุ่นมือ มาใช้ในการพัฒนา
2. การพัฒนากล้ามเนื้อเล็กเป็นพื้นฐานของการเรียนและการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันเด็ก ต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และทำช้ำๆ เพื่อให้เด็กเกิดทักษะ และเป็นพื้นฐานที่ดีในระดับต่อไป
3. ผู้ปกครองสามารถนำกิจกรรมไปให้เด็กทำที่บ้านเพื่อเป็นการพัฒนาอย่างเต็มตาม ศักยภาพ
4.3 ประโยชนที่ได้รับ
1.เด็กได้เรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติ ทำให้เข้าใจและเกิดทักษะ นำไปสู่การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้ดี ขึ้นต่อไป
2. เด็กมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง
3. ครูผู้สอนเห็นคุณค่าของกิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของเด็กเป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอน ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย ที่จะใช้กิจกรรมพิมพ์ภาพด้วยนิ้วมือในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สำหรับเด็กปฐมวัยต่อไป
5.ปัจจัยความสำเร็จ
ปัจจัยที่ทำให้วิธีการพัฒนากิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ประสบผลสำเร็จ คือ
1. คณะครู นักเรียนทุกคนให้การสนับสนุนและร่วมแรงร่วมใจในการทำงาน
2.ครูมีความมุ่งมั่น ในการพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็ก
3.ผู้ปกครองให้การร่วมมือสนับสนุนในการจัดหาสื่อเพื่อใช้ในการจัดกิจกรรม
4.เด็กปฐมวัยมีความสนใจและกระตือรือร้นในการทำงาน
5. มีการประเมินพัฒนาการและปรับปรุงผลการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
6.บทเรียนที่ได้รับ
1. เด็กปฐมวัยเกิดทักษะต่าง ๆ ดีขึ้น หลังจากจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
2. เด็กปฐมวัยเกิดการเรียนรู้ ด้านความคิดริเริ่ม ความคิดคล่องแคล่ว ความคิดยืดหยุ่น และ ความคิด ละเอียดลออ ได้ดีขึ้น
3. เด็กมีพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ดีขึ้น พร้อมที่จะเรียนรู้ในระดับต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. เด็กมีเจตคติที่ดีต่อการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ สนใจใฝรู้ ไผ่เรียน และกล้าแสดงออก
5. เด็กสามารถนำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
ข้อเสนอแนะ
1. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้ใช้ กล้ามเนื้อมัดเล็ก ความคิดและ จินตนาการ เป็นการส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานใน การพัฒนาด้านอื่น ๆ ต่อไป
2. เด็กมีความสนใจในการปฏิบัติกิจกรรมการปั่น การวาตภาพระบายสี การฉีก ตัด ปะ กระดาษ การ ประดิษฐ์สิ่ง ๆ มีความสุขและสนุกกับการเลือกอุปกรณ์ตามความสนใจ มีความคิดและจินตนาการของ ตนเอง ในการสร้างผลงาน
3. เด็กได้เรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ เช่น ความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์บางชนิด การแบ่งปันวัสดุอุปกรณ์ การเก็บของเข้าที่เมื่อทำกิจกรรมเสร็จแล้ว การักษาความสะอาด และมีความผิดชอบทำงานให้เสร็จตามเวลาที่ กำหนด
การนำผลงานไปประยุกต์ให้และแนวทางการพัฒนาเพิ่มเดิม
1. ควรมีการศึกษาผลการจัดกิจกรรมต่อความสามารถต้านอื่น 1 เช่น ความคิดสร้างสรรค์ ความ เชื่อมั่น ในตนเอง หรือพฤติกรรมในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
2. ควรมีการศึกษาเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ที่ใช้ชุดกิจกรรมกับเด็กที่ความต้องการพิเศษ