แนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนา
ใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning ) ของครูโรงเรียนบ้านขวดน้ำมัน
1.3 กำหนดจุดประสงค์และเป้าหมาย
1.3.1 วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาองค์ประกอบรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning ) ของครูโรงเรียนบ้านขวดน้ำมัน
2.เพื่อศึกษาความพึงพอใจครูผู้สอนที่มีต่อรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน
ด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning ) ของครูโรงเรียนบ้านขวดน้ำมัน
3.เพื๋อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) และการพัฒนาผู้เรียนตามแนวนโยบาย
เรียนดี มีความสุข
1.3.2 เป้าหมาย
เชิงปริมาณ : ครูโรงเรียนบ้านขวดน้ำมัน จำนวน 8 คน ได้รับการนิเทศและการจัดการเรียนรู้
เชิงรุกด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL ร้อยละ 100
เชิงคุณภาพ : รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning )
1.รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL เพื่อส่งเสริม
การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning ) สามารถพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ของครู
ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
2.สามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนทุกระดับชั้นให้สูงขึ้นตามเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนบรรลุค่าเป้าหมายตามบันทึกข้อตกลงของกลุ่มสาระฯ
3.ความพึงพอใจครูผู้สอนที่มีต่อรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning ) อยู่ในระดับดีขึ้นไป
ผลการศึกษาการใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL ที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active learning ของครูโรงเรียนบ้านขวดน้ำมันในภาพรวมก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL ที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active learning ของครูโรงเรียนบ้านขวดน้ำมัน มีค่าเฉลี่ยโดยรวม(( X) ̅ ) = 3.16 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.71 แปลผล ได้คือมีการปฏิบัติ
ระดับปานกลางและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL ที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active learning มีค่าเฉลี่ยโดยรวม(( X) ̅ ) = 4.13 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.67 แปลผล ได้คือมีการปฏิบัติระดับมาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้านได้ ดังนี้
ด้านความสามารถในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active learning ของครูโรงเรียนบ้านขวดน้ำมัน ก่อนดำเนินการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL ค่าเฉลี่ย(( X) ̅ ) = 2.95 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.72 แปลผล ได้คือมีการปฏิบัติในระดับปานกลาง ส่วนหลังดำเนินการนิเทศภายในมีค่าเฉลี่ย(( X) ̅ ) = 4.25 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.61 แปลผล ได้คือมีการปฏิบัติในระดับมาก ด้านความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active learning ของครูโรงเรียนบ้านขวดน้ำมัน ก่อนดำเนินการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL ค่าเฉลี่ย(( X) ̅ ) = 3.31 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.74 แปลผล ได้คือมีการปฏิบัติในระดับปานกลาง ส่วนหลังดำเนินการนิเทศภายใน
มีค่าเฉลี่ย(( X) ̅ ) = 4.14 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.67 แปลผล ได้คือมีการปฏิบัติในระดับมาก
ด้านความสามารถในการประเมินผล ของครูโรงเรียนบ้านขวดน้ำมัน ก่อนดำเนินการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL ค่าเฉลี่ย(( X) ̅ ) = 2.95 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
(S.D.) = 0.72 แปลผล ได้คือมีการปฏิบัติในระดับปานกลาง ส่วนหลังดำเนินการนิเทศภายในมีค่าเฉลี่ย
(( X) ̅ ) = 4.03 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.69 แปลผล ได้คือมีการปฏิบัติในระดับมากและ
ด้านความสามารถในการจัดสภาพแวดล้อมในชั้นเรียนของครูโรงเรียนบ้านขวดน้ำมัน ก่อนดำเนินการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL ค่าเฉลี่ย(( X) ̅ ) = 3.42 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.65 แปลผล ได้คือมีการปฏิบัติในระดับปานกลาง ส่วนหลังดำเนินการนิเทศภายใน
มีค่าเฉลี่ย(( X) ̅ ) = 4.10 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.67 แปลผล ได้คือมีการปฏิบัติในระดับมาก
โดยสามารถสรุปได้ว่าการใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active learning ของครูโรงเรียนบ้านขวดน้ำมัน โดยก่อน
ดำเนินการมีระดับการปฏิบัติอยูในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ยโดยรวม(( X) ̅ ) = 3.16 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.71 หลังการดำเนินการนิเทศมี ระดับการปฏิบัติอยูในระดับมาก (( X) ̅ ) = 4.13 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 0.67 ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น ดังนี้
1) ระดับปฐมวัย ผลการประเมินพัฒนาการของนักเรียนระดับอนุบาล 2-3 ปีการศึกษา 2567 พบว่า นักเรียนได้รับการพัฒนาและประเมินพัฒนาการ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านสติปัญญา ด้านสังคม มีผลการประเมินในระดับคุณภาพ ดี ร้อยละ 100
2) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 16 ปีการการศึกษา 2567 พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ และการงานอาชีพ มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 คือ ร้อยละ 90.48 อันดับ 2 คือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(วิชาภาษาอังกฤษ) ร้อยละ 88.10 อันดับ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร้อยละ 85.71
ผลการศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL เพือส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active learning ของครูโรงเรียนบ้านขวดน้ำมัน ครูผู้สอนโรงเรียนบ้านขวดน้ำมัน มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานด้วยนวัตกรรม SPIEMD MODEL ภาพรวมอยูใน ระดับมาก โดยพบว่าด้านที่พึงพอใจมากที่สุดคือการส่งเสริมให้ครูจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ Active learning รองลงมาคือ การสร้างบรรยากาศการนิเทศที่เป็นกันเอง รูปแบบการนิเทศเปิดโอกาสให้ครูสะท้อนผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และแสดงความคิดเห็น ผู้นิเทศมีองค์ความรู้ สามารถให้ความรู้ ความเข้าใจ การดำเนินการนิเทศ รูปแบบการนิเทศภายในสามารถแก้ปัญหาได้สอดคล้องกับความต้องการของครู การสนับสนุนและให้กำลังใจ
จากผู้บริหารและคณะผู้นิเทศ การกระตุ้นให้ครูสร้างนวัตกรรมการสอนใหม่ ๆ ความชัดเจนของกระบวนการนิเทศ SPIEMD รูปแบบการนิเทศช่วยให้ครูมีความรู้
ความเข้าใจในการวางแผน ออกแบบกิจกรรม เพื่อพัฒนาผู้เรียนได้เรียนรู้เชิงรุก Active Learning ชัดเจน และความสม่ำเสมอในการติดตามพัฒนาหลังการนิเทศ