ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล (Bar Model)

ชื่อเรื่องวิจัย การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล (Bar Model)

ชื่อผู้วิจัย นายนัฐชัย ใจเขม็ง

ระยะเวลาในการทำวิจัย ปีการศึกษา 2566

1. ความเป็นมาและสาเหตุของปัญหา

คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาความคิดมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหา และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ถึงแม้ว่าวิชาคณิตศาสตร์จะเป็นวิชาที่มีความสำคัญ แต่สภาพปัจจุบันการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จากการจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลแจ้ห่ม ในปีการศึกษาที่ผ่านมาโดยเฉพาะหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เศษส่วน เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ผลปรากฏว่ามีนักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถวิเคราะห์และแก้ไขโจทย์ปัญหาได้ เนื่องจากไม่เข้าใจในความหมายของโจทย์ปัญหาเศษส่วนและตัวเลขที่อยู่ในโจทย์กำหนดอยู่ในรูปของเศษส่วนจึงทำให้นักเรียนความหมายของโจทย์ไม่ได้ และไม่สามารถแก้โจทย์ปัญหาเศษส่วนได้

โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์เป็นข้อความและตัวเลขที่เป็นนามธรรม และการแก้โจทย์ปัญหาก็เป็นทักษะระดับสูงที่เน้นกระบวนการที่ได้มาซึ่งคำตอบมากกว่าผลลัพธ์ ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ ตลอดจน ทักษะทางคณิตศาสตร์หลายอย่างเข้าด้วยกัน นักเรียนต้องวิเคราะห์ ให้ได้ว่าจำนวนต่างๆ ที่ปรากฏในโจทย์ปัญหานั้น มีความสัมพันธ์กันอย่างไร แต่การจัดการเรียนรู้การแก้โจทย์ปัญหาในรูปแบบเดิมที่ผ่านมาเป็นวิธีการที่เป็นนามธรรม เริ่มด้วยการเขียนสิ่งที่กำหนดมาให้และสิ่งที่ โจทย์ต้องการทราบ จากนั้นเลือกตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์มาจัดกระทำกับข้อมูลหรือเขียนในรูปของ ประโยคสัญลักษณ์ แล้วดำเนินการหาคำตอบ ซึ่งการแก้โจทย์ปัญหาในรูปแบบนี้ค่อนข้างยากต่อการทำความเข้าใจของนักเรียนในระดับประถมศึกษา เพราะเป็นวิธีการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ที่ใช้ภาษาเป็นข้อความ อธิบายความสัมพันธ์ของข้อมูลในโจทย์ปัญหาที่มีลักษณะเป็นข้อความเช่นกัน ส่งผลให้ นักเรียนมองไม่เห็นภาพความสัมพันธ์ของข้อมูลในโจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ จึงไม่สามารถเปลี่ยนจาก โจทย์ปัญหากำหนดให้เป็นประโยคสัญลักษณ์ได้ เนื่องจากเลือกตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์เพื่อใช้ในการแก้ไขโจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ไม่ได้ ท้ายที่สุดจึงไม่สามารถดำเนินการแก้โจทย์ปัญหาได้อย่างถูกต้อง

จากสภาพปัญหาและสาเหตุดังกล่าว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาแนวทาง พัฒนาทักษะการวิเคราะห์และแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนโดยเฉพาะโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัย กอปรได้ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณตามแผนการพัฒนาตนเอง(ID PLAN) ซึ่งได้กล่าวถึงการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาโดยมีรูปแบบที่หลากหลายทั้งการใช้สื่อ การใช้เทคโนโลยี การใช้แผนภาพ แผนผัง เป็นต้น จากแนวคิดดังกล่าวจึงคิดที่จะนำการใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดลมาพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ซึ่งจะทำให้นักเรียนได้คิดวิเคราะห์ข้อความจากโจทย์ปัญหา นำมาเชื่อมโยงกับความคิดวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนแล้ว วาดออกมาเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแทนข้อมูลต่างๆ ที่โจทย์กำหนดให้ เพื่อที่นักเรียนจะสามารถมองความสัมพันธ์ของข้อมูลต่างๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

2. วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล (Bar Model) ในการแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน

3. วิธีการดำเนินการวิจัย

การวิจัย เรื่อง การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล (Bar Model) ดำเนินการระหว่างเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2566 – กันยายน พ.ศ. 2566 โดยมีขั้นตอนและละเอียด

3.1 ประชากร

ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 81 คนโรงเรียนอนุบาลแจ้ห่ม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 3

3.2 เนื้อหาที่ใช้ศึกษา

เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นเนื้อหากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้เศษส่วน เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

1. แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล(Bar Model) จำนวน 3 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง

2. แบบทดสอบ/แบบฝึกหัด เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล

1. ทดสอบก่อนเรียนโดยใช้แบบทดสอบที่สร้างขึ้น ซึ่งเป็นข้อสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 20 คะแนน

2. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามแผนการ

จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล (Bar Model) จำนวน 3 แผน เป็นเวลา 3 วัน วันละ 1 ชั่วโมง โดยแต่ละคาบให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดเสริมจากใบกิจกรรมเพิ่มเติม และจากแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน

3. เมื่อสิ้นสุดการจัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้แล้ว จึงทำการทดสอบ โดยใช้แบบทดสอบฉบับเดียวกับที่ใช้ทดสอบก่อนเรียน บันทึกผลคะแนนการสอบไว้เป็นคะแนนหลังเรียน รวมถึงประเมินจาก

ใบกิจกรรมเพิ่มเติม และแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน

การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้

การวิเคราะห์ข้อมูล

เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล(Bar Model)

สถิติที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล

1. ร้อยละ (Percentage) โดยใช้สูตร

P = f/N × 100

เมื่อ P แทน ร้อยละ

f แทน ความถี่ที่ต้องการแปลงเป็นร้อยละ

N แทน จำนวนความถี่ทั้งหมด

2. ค่าเฉลี่ย ( Mean ) โดยใช้สูตร

x ̅= (∑▒x)/N

เมื่อ x ̅ แทน ค่าเฉลี่ยเลขคณิต

∑▒x แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดในกลุ่ม

N แทน จำนวนคนในกลุ่ม

ผลการวิจัย

ตาราง ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล (Bar Model)

ข้อมูล ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ก่อนเรียน หลังเรียน ร้อยละผลต่างคะแนนความก้าวหน้า

คะแนน ร้อยละ คะแนน ร้อยละ

ค่าเฉลี่ย 9.56 47.78 16.67 83.33 35.56

การวิจัยเรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล (Bar Model) มีผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ซึ่งคะแนนทดสอบก่อนเรียนพบว่านักเรียนได้คะแนนเฉลี่ย 9.56 จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 47.78 และคะแนนทดสอบหลังเรียนพบว่า นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ย 16.67 จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 83.33 และเมื่อนำมาเปรียบเทียบระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังแสดงให้เห็นว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแผนจัดการเรียนรู้กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล (Bar Model) จำนวน 3 แผน มีคะแนนสูงกว่าก่อนเรียน โดยคะแนนพัฒนาการสูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 35.56 รวมถึงการประเมิน

จากใบกิจกรรมเพิ่มเติม และแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัดตามใบกิจกรรมและแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน ทั้งนี้เพราะในการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้เทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล เป็นวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ประกอบด้วยขั้นตอนที่ให้นักเรียนฝึกการอ่านเพื่อการคิดวิเคราะห์โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์อย่าง หลากหลาย โดยเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจโจทย์ก่อนว่าสิ่งที่โจทย์บอกให้ทราบหรือสิ่งที่รู้เกี่ยวกับโจทย์ มีอะไรบ้าง โจทย์ต้องการทราบหรือให้หาสิ่งใด จากนั้นวางแผนแก้โจทย์ปัญหาโดยการวาดรูปบาร์โมเดลที่จะใช้ ในการแก้โจทย์ปัญหา ซึ่งการวาดรูปบาร์โมเดล เป็นการวาดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแสดงปริมาณของข้อมูล แสดงการ อธิบายสถานการณ์ หรือแสดงความสัมพันธ์ของข้อมูลต่างๆ ในโจทย์ปัญหา ซึ่งช่วยให้นักเรียนมองเห็นสิ่ง ที่เป็นนามธรรมออกเป็นรูปธรรม ทำให้นักเรียนเลือกตัวเลือกในการดำเนินการทางคณิตศาสตร์ได้ถูกต้อง นำไปสู่การเขียนประโยคสัญลักษณ์ ดำเนินการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ ด้วยกระบวนการเหล่านี้จึงส่งผลให้คะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

ข้อเสนอแนะทั่วไป

1. ก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูผู้สอนควรมีการเตรียมความพร้อม ให้นักเรียน โดยการฝึกให้นักเรียนวาดรูปบาร์โมเดลเพื่อให้นักเรียนเกิดความคุ้นเคยและสามารถปฏิบัติกิจกรรม การเรียนรู้ได้เร็วขึ้น

2. ควรนำเทคนิคการวาดรูปบาร์โมเดล (Bar Model) ปรับใช้กับการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ในเรื่องอื่นๆ

โพสต์โดย ครูโจ้ : [22 เม.ย. 2568 (10:23 น.)]
อ่าน [62614] ไอพี : 27.55.76.233
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 141,491 ครั้ง
หนู/ผม มาไม่ทันเทียบโอนความรู้ฯ ค่ะ/ครับ ป.บัณฑิตก็ไม่มีให้เรียน  หนู/ผม อยากเป็นครู มีวิธีไหนให้ได้ใบอนุญาตบ้างคะ/ครับ?
หนู/ผม มาไม่ทันเทียบโอนความรู้ฯ ค่ะ/ครับ ป.บัณฑิตก็ไม่มีให้เรียน หนู/ผม อยากเป็นครู มีวิธีไหนให้ได้ใบอนุญาตบ้างคะ/ครับ?

เปิดอ่าน 11,515 ครั้ง
10 ขั้นตอน...ก่อนซื้อ Notebook มือสอง
10 ขั้นตอน...ก่อนซื้อ Notebook มือสอง

เปิดอ่าน 2,844 ครั้ง
สมเด็จพระสังฆราช พระราชทานพรปีใหม่ 2567
สมเด็จพระสังฆราช พระราชทานพรปีใหม่ 2567

เปิดอ่าน 11,104 ครั้ง
มีอะไรซ่อนอยู่ในการนอนของเด็ก
มีอะไรซ่อนอยู่ในการนอนของเด็ก

เปิดอ่าน 15,270 ครั้ง
คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี
คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี

เปิดอ่าน 24,896 ครั้ง
เกมส์เรียงผลไม้
เกมส์เรียงผลไม้

เปิดอ่าน 20,632 ครั้ง
อยากประสบความสำเร็จต้องอ่าน ความจริง 3 ข้อที่คนทำงานไม่อาจมองข้าม
อยากประสบความสำเร็จต้องอ่าน ความจริง 3 ข้อที่คนทำงานไม่อาจมองข้าม

เปิดอ่าน 11,371 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 กรกฏาคม 2552
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 กรกฏาคม 2552

เปิดอ่าน 107,335 ครั้ง
ประเภทของระบบสารสนเทศ
ประเภทของระบบสารสนเทศ

เปิดอ่าน 15,743 ครั้ง
แนวปฏิบัติในการโอนบุคลากรด้านการศึกษาในสถานศึกษาไป อปท.
แนวปฏิบัติในการโอนบุคลากรด้านการศึกษาในสถานศึกษาไป อปท.

เปิดอ่าน 11,544 ครั้ง
ครูโซ่สอนตรีโกณมิติ ชิล ๆ ในแบบบอดี้สแลม !
ครูโซ่สอนตรีโกณมิติ ชิล ๆ ในแบบบอดี้สแลม !

เปิดอ่าน 38,620 ครั้ง
เปิดโผ 15 อาชีพที่กำลังจะสาบสูญไปในอนาคต
เปิดโผ 15 อาชีพที่กำลังจะสาบสูญไปในอนาคต

เปิดอ่าน 21,606 ครั้ง
ประโยชน์จากฟักเขียว
ประโยชน์จากฟักเขียว

เปิดอ่าน 88,304 ครั้ง
วิธีทำ  น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ
วิธีทำ น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ

เปิดอ่าน 13,853 ครั้ง
ฮอร์โมนสังเคราะห์รักษาโรคอ้วนได้
ฮอร์โมนสังเคราะห์รักษาโรคอ้วนได้

เปิดอ่าน 28,784 ครั้ง
"นพ.ยง" มีคำตอบ! เคยติด "โควิด-19" ติดซ้ำได้หรือไม่-ต้อง "ฉีดวัคซีน" อีกหรือไม่.?
"นพ.ยง" มีคำตอบ! เคยติด "โควิด-19" ติดซ้ำได้หรือไม่-ต้อง "ฉีดวัคซีน" อีกหรือไม่.?
เปิดอ่าน 18,125 ครั้ง
หลัก4อ. ป้องกันตัวเองให้ห่างไกลไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
หลัก4อ. ป้องกันตัวเองให้ห่างไกลไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
เปิดอ่าน 35,745 ครั้ง
ยาสีฟันทำมาจากอะไร?
ยาสีฟันทำมาจากอะไร?
เปิดอ่าน 25,045 ครั้ง
นโยบายและมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา
นโยบายและมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา
เปิดอ่าน 53,703 ครั้ง
กรณีตัวอย่างการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ
กรณีตัวอย่างการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ