ดนตรี เป็นศิลปะประเภทมองไม่เห็น ใช้เสียงเป็นสื ่อกลางในการถ่ายทอดความรู ้สึกการสะเทือนอารมณ์
ใช้เวลาเป็นการกำหนดขอบเขตแสดงจุดเริ่มต้นและการจบการใช้เสียงวาดลวดลายต่างๆ ลงไปบนช่องว่างของเวลา
ประดุจจิตรกรกำลังใช้ปลายพู ่กันวาดลายเส้นอยู ่บนผืนผ้าใบความงามของเสียงแต่ล่ะเสียงความปราณีตของ
อารมณ์แต่ล่ะอารมณ์จะถูกถ่ายทอดมายังผู้ฟังซึงจำเป็นต้องมีภูมิความรู้ในการฟังดนตรีเป็นย่างดี
การศึกษาดนตรี จำเป็นต้องมีพื ้นฐานและองค์ประกอบการศึกษาหลายด้าน เช่น ในด้านสังคมศาสตร์
และมนุษย์ศาสตร์ การศึกษาในแง่ของประวัติศาสตร์เกี ่ยวกับประวัติความเป็นมาของเผ่าพันธ์มนุษย์แต่ล่ะเผ่า
การศึกษาในแง่ภูมิศาสตร์เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่สภาพภูมิประเทศตลอดถึงทรัพยากรวัสดุต่างๆที่หาได้งายในแต่
ล่ะสภาพท้องถิ่นหรือการศึกษาในแง่ของภาษาศาสตร์ที่จำเป้นมากในการเรียนดนตรี เช่นคนภาคกลางไปฟังดนตรี
พื ้นเมืองหรือหมอลำทางอีสานส่วนใหญ่ฟังไม่ค่อยได้ เพราะอุปสรรคเรื ่องภาษา ถ้าต้องการสึกษาดนตรีทั ่วโลกที่
จำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาทั่งโลกเช่นเดียวกัน พิชัย ตุ้งประโคน (2513 : 78 อ้างถึงในบนทางเดินชีวิต, 2510 : 12)
ดนตรีเป็นศาสตร์อย่างหนึ ่ง มีโครงสร้างใหญ่ เช่น เดียวกับภาษาศาสตร์ คือมีภาษาพูด(ใช้วิธีการต่างๆ
กันหลายวิธี เช่นการบรรเลงด้วยการใช้เสียงจากร่างกาย เช่น การร้องเพลงหรือการพูดเป็นทำนองดนตรี หรือการ
บรรเลงด้วยเครื่องดนตรี) มีภาษาเขียน ใช้สัญลักษณ์โดยทั่วไปเรีบกว่า" โน้ต" เช่นเดียวกับสัญลักษณ์ทางภาษาที่
มีตัวอักษร พยัญชนะ สระและมีหลักไวยากรณ์ สำหรับข้อบังคับกฎเกณฑ์ต่างๆ เช่น Harmonic ในดนตรีสากล
และใช้กลอน( counter point) ในดนตรีไทย นอกจากนี ้ก็มีประวัติดนตรี(History Of Music) เช่นเดียวกับ
ประวัติความเป็นมาของภาษาต่างๆ พิชัย ตุ้งประโคน (2513 : 78 อ้างถึงในบนทางเดินชีวิต, 2510 : 12)
ชุดฝึกทักษะช่วยสอนสามารถสนองความต้องการในการเรียนรู ้ที ่คำนึงถึงความแตกต่าง ระหว่างบุคคลได้
อย่างดี และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนตามเวลาที่สะดวก ตามความสนใจของ ผู้เรียน และที่สำคัญที่สุดคือ ชุดฝึก
ทักษะช่วยสอนมีการประเมินผลในตนเอง เพื ่อให้ผู ้เรียนเห็น ผลสำเร็จ เห็นความเจริญกาวหน้าของตนในการ
เรียนรู ้ในแต่ละตอน แต่ละหน่วยการเรียนสามารถ เรียนได้ด้วยตนเอง นอกจากนี ้ชุดฝึกทักษะสอนยังสามารถช่วย
แกปัญหาการขาดแคลนผู ้สอนได้ด้วย เพราะสามารถใช้สอนแทนครูและสอนผู ้เรียนได้จำนวนมาก ๆในเวลาเดียว
กน (บูรณะ สมชัย, 2542 : 14)
เว็บไซต์ (อังกฤษ: website, web site หรือ site) หมายถึง หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ ่งเชื ่อมโยงกันผ่าน
ทางไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนใหญ่จัดทำขึ ้นเพื ่อนำเสนอข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ โดยถูกจัดเก็บไว้ในเวิลด์ไวด์เว็บ หน้าแรก
ของเว็บไซต์ที ่เก็บไว้ที ่ชื ่อหลักจะเรียกว่า โฮมเพจ เว็บไซต์โดยทั่วไปจะให้บริการต่อผู้ใช้ฟรี แต่ในขณะเดียวกันบาง
เว็บไซต์จำเป็นต้องมีการสมัครสมาชิกและเสียค่าบริการเพื ่อที่จะดูข้อมูล ในเว็บไซต์นั ้น ซึ ่งได้แก่ข้อมูลทางวิชาการ
ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ หรือข้อมูลสื ่อต่าง ๆ ผู ้ทำเว็บไซต์มีหลากหลายระดับ ตั ้งแต่สร้างเว็บไซต์ส่วนตัว จนถึง
ระดับเว็บไซต์สำหรับธุรกิจหรือองค์กรต่าง ๆ การเรียกดูเว็บไซต์โดยทั่วไปนิยมเรียกดูผ่านซอฟต์แวร์ในลักษณะของ
เว็บเบราว์เซอร์
ในการจัดทำเว็บไซต์ใหม่ขึ ้นมาหนึ ่งเว็บไซต์นั ้น สิ ่งที ่จำเป็นอย่างยิ ่งคือการกำหนดวัตถุประสงค์ของการ
จัดทำให้ชัดเจน เพื ่อเป็นแนวทางในการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ ซึ ่งสามารถแบ่งประเภทของเว็บไซต์ออกเป็น
9 ประเภท ดังนี้
1. เว็บไซต์ส่วนตัว (Personal website) เป็นเว็บที ่สร้างขึ ้นเพื ่อเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูล
เกี่ยวกับส่วนตัว การศึกษา การงาน ความสนใจ เป็นต้น
2. เว็บไซต์เพื ่อธุรกิจการค้า (Business/Marketing website) เว็บไซต์นี ้มีจุดประสงค์ เพื ่อการค้าขาย
สินค้า การโฆษณาสินค้า การส่งเสริมการขาย ในเว็บไซต์จะมีข้อมูลของสินค้า ราคาและการบริการต่าง ๆ ซึ ่งใน
ปัจจุบันตลาดประเภทนี้กำลังใช้กันมากขึ้น
3. เว็บไซต์ที่เสนอข่าวประจำวัน (Current website) เป็นเว็บที่เสนอข้อมูลประเภทข่าว ซึ่งจะเปลี่ยนไป
เป็นประจำวัน เช่น เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เดลินิวส์ เป็นต้น
4. เว็บไซต์ส่งเสริมการบริการเป็นสื ่อกลางของข้อมูล (Share Information website) เป็นเว็บที ่มี
จุดประสงค์ที่จะใช้เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล เป็นต้น
5. เว็บการศึกษา (Education website) เป็นเว็บที ่สร้างขึ ้นเพื ่อการศึกษา ที ่มีนโยบายในการเผยแพร่
ความรู้ และให้โอกาสในการค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อการศึกษา บุคคลที่สนใจโดยทั่วไป รวมถึงนักเรียน นิสิต นักศึกษา
ด้วย นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนรู้ทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
6. เว็บบันเทิง (Entertainment website) เป็นเว็บที่นำเสนอเสนอเนื้อหาด้านบันเทิง และให้บริการต่าง
ๆ เพื่อเสริมสร้างความบันเทิง เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ ดารา กีฬา ความรัก บทกลอน การ์ตูน เรื่องขำขัน รวมถึงการ
ให้บริการดาวน์โหลดสื่อชนิดต่าง ๆ เป็นต้น
7. เว็บองค์กรที ่ไม่แสวงหาผลกำไร (None-profit organization website) เป็นเว็บที ่สร้างขึ ้นโดยกลุ่ม
บุคคลหรือองค์กรต่าง ๆ ที ่มีนโยบายในการสร้างสรรค์ที ่ช่วยเหลือสังคม โดยที ่ไม่หวังผลกำไรหรือค่าตอบแทน ซึ่ง
กลุ ่มบุคคลหรือองค์กรเหล่านี ้ได้แก่ สมาคม ชมรม มูลนิธิ และโครงการต่าง ๆ โดยอาจมีจุดประสงค์เฉพาะที่
แตกต่างกัน เช่น เพื ่อทำความดี สร้างสรรค์สังคม พิทักษ์สิ ่งแวดล้อม ปกป้องสิทธิมนุษยชน รณรงค์ไม่ให้สูบบุหรี่
เป็นต้น
8. เว็บไซต์ที ่จำกัดเฉพาะสมาชิก (Registrational website) เป็นเว็บไซต์ที ่บริการเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ผู ้ที ่จะใช้ต้องลงทะเบียนตามราคาที่กำหนดโดยบัตรเครดิต หรือผ่านธนาคาร ผู ้ให้บริการจึงจะให้หมายเลขสมาชิก
และรหัสผ่าน แต่การขายสินค้าหรือบริการใด ๆ ของเว็บไซต์เหล่ำนี ้ จะเชิญชวนผู ้ที ่สนใจโดยมีตัวอย่างสินค้าหรือ
บริการให้ศึกษาบางส่วนจนพอใจด้วย
9. เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อชักชวนหรือโฆษณาชวนเชื่อ (Persuasive website) เป็นเว็บที่เชิญชวนหรือชัก
นำให้เห็นคล้อยตามในเรื่องที่ผู้สร้างต้องการ
การจัดการเรียนการสอนที่เป็นไปเพื่อการพัฒนาทักษะด้านการอ่านโน้ตดนตรีสากล ซึ ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ
ที ่ส่งผลต่อการปฏิบัติเครื ่องดนตรี ในการสอนที ่ผ่านมาผู ้วิจัยพบว่านักเรียนส่วนใหญ่ยังขาดทักษะในด้านการอ่าน
โน้ตดนตรีสากล คือนักเรียนชั ้นมัธยมศึกษาปีที ่ 4 เช่น นักเรียนอ่านโน้ตดนตรีสากลไม่ออก ไม่รู ้จักสัญลักษณ์ทาง
ดนตรี อย่างเครื่องหมายแปลงเสียง กุญแจเสียงและระดับเสียง ทำให้นักเรียนบางคนไม่สามารถไล่โน้ตดนตรีสากล
ได้ครบทั้ง 7 ตัว จึงส่งผลต่อการเรียนวิชาพื้นฐาน ดนตรี-นาฏศิลป์ ทำให้ผลสัมฤทธิ์อยู่ในระดับต่ำ