เรื่อง การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านสมอง (EF) ของเด็กปฐมวัย
ชื่อผู้วิจัย คณะครูระดับปฐมวัย โรงเรียนพระตำหนักมหาราช สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๑
รายวิชาที่สอน ระดับชั้นอนุบาลปีที่ ๑-๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๗
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
การวิจัยในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายที่จะส่งเสริมทักษะทางสังคมของเด็กปฐมวัย ซึ่งอยู่ในช่วงอายุ ๓ ๖ ปี ชั้นอนุบาลปีที่ ๑-๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๗ โรงเรียนพระตำหนักมหาราช ได้มาโดยใช้วิธีการเลือกอย่างเจาะจง โดยผู้วิจัมีความสนใจที่ จะส่งเสริมทักษะสมอง EF หรือ Executive Function คือ ความสามารถที่เกิดจากการ ทำงานของสมองส่วนหน้าที่ช่วยให้คนเราสามารถควบคุม ความคิด อารมณ์พฤติกรรม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตนต้องการสำเร็จ โดยผู้วิจัยให้ความสำคัญกับเด็กที่มีอายุช่วง ๓-๖ ปี โดยจะส่งเสริมทักษะสมอง EF จากการได้ลงมือปฏิบัติจริงผ่านกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning เป็นกิจกรรมที่ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าในการรับรู้โดยอาศัย ประสบการณ์สิ่งแวดล้อม จนเกิดความเข้าใจ เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ มีความ สนุกสนาน ที่เน้นให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมได้ด้วยตนเอง กิจกรรมนี้ยังส่งเสริมให้เด็กรู้จักการทํางานรวมกับผู้อื่น การลงกระทํากิจกรรมเรียนรูดวยด้วยตนเอง ชวยใหเด็กเรียนรูอยางรอบคอบในด้านความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในการทำกิจกรรมน การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning เป็นกิจกรรมที่สามารถนำมาช่วยพัฒนาทักษะสมอง EF ทั้ง ๙ ด้านได้ที่เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุช่วง ๓-๖ ปี
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
๑. เพื่อเปรียบเทียบทักษะทางสมอง EF ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning ๒. เพื่อศึกษาผลการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning ที่มีผลต่อทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย
ขอบเขตของการวิจัย
ขอบเขตด้านตัวแปร
๑. ตัวจัดกระทำ ได้แก่ การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning
๒. ตัวแปรตาม ได้แก่ ทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ทั้ง ๙ ด้าน
ขอบเขตด้านเนื้อหา
จากการศึกษานี้ มีเนื้อหาที่ครอบคลุมในเรื่องการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning และทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัยทั้ง ๙ ด้าน ได้แก่ ๑) ความจำเพื่อใช้งาน ๒) ยั้งคิด ไตร่ตรอง ๓) ยืดหยุ่นความคิด ๔) จดจ่อ ใส่ใจ ๕) ควบคุมอารมณ์ ๖) ติดตาม ประเมินตนเอง ๗) ริเริ่มและลงมือทำ ๘) วางแผน จัดระบบ ดำเนินการ ๙) มุ่งเป้าหมาย
วิธีดำเนินการวิจัย
๑. กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นเด็กปฐมวัย ชาย - หญิง อายุระหว่าง ๓ ๖ ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในอนุบาลปีที่ ๑-๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๗ ของโรงเรียนพระตำหนักมหาราช จำนวน ๖๔ คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกเจาะจง
๒. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
๒.๑ แผนการจัดกิจกรรมกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning
๒.๒ แบบสังเกตพฤติกรรมทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ทั้ง ๙ ด้าน
๓. การเก็บรวบรวมข้อมูล
๓.๑ ระยะก่อนการจัดกิจกรรม ได้ดําเนินการสังเกตพฤติกรรมทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ทั้ง ๙ ด้าน การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning โดยนําสังเกตพฤติกรรมทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ทั้ง ๙ ด้าน ไปใช้สังเกตพฤติกรรมเด็กจำนวน ๖๔ คน
๓.๒ นําผลจากแบบสังเกตพฤติกรรมทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ทั้ง ๙ ด้าน ไปตรวจให้คะแนน และนําคะแนนมาวิเคราะห์ค่าทางสถิติ
๓.๓ ระยะทําการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning ได้ทําการจัดกิจกรรมในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๗ ตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๖๗ ถึง เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ เป็นระยะเวลา ๘ สัปดาห์ ซึ่งทําการสอนทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี ในช่วงเวลาตั้งแต่ ๐๙.๐๐ ๑๐.๔๕ น. รวมวันละ ๔๕ นาที
๓.๔ ระยะหลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning หลังจากกลุ่มตัวอย่างได้รับการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning ครบกําหนดแล้ว ได้ทําการสังเกตพฤติกรรมทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ทั้ง ๙ ด้าน หลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning (Posttest) โดยนําแบบสังเกตพฤติกรรมทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ทั้ง ๙ ด้าน ชุดเดิมไปใช้สังเกตพฤติกรรมเด็กจำนวน ๖๔ คน
๓.๕ หลังจากนั้นนํานําผลจากแบบสังเกตพฤติกรรมทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ทั้ง ๙ ด้าน ไปตรวจให้คะแนน และนําคะแนนมาวิเคราะห์ค่าทางสถิติ
๓.๖ นําผลคะแนนจากแบบสังเกตพฤติกรรมทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ทั้ง ๙ ด้าน ทั้งก่อนการทดลอง (Pretest) และหลังการทดลอง (Posttest) ไปทําการวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป
๔. การวิเคราะห์ข้อมูล
๔.๑ หาค่าสถิติพื้นฐานของคะแนนจากการประเมินเชิงปฏิบัติการ แบบทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ทั้ง ๙ ด้าน ก่อนและหลังการทดลอง โดยนำข้อมูลไปหาค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
๔.๒ เปรียบเทียบคะแนนการประเมินเชิงปฏิบัติการ แบบทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ทั้ง ๙ ด้าน และหลังการทดลอง โดยวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
ผลการวิจัย
เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ในรูปแบบ Active Learning ที่เพื่อส่งเสริมทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ทั้ง ๙ ด้าน มีคะแนนหลังการจัดกิจกรรมสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรม จากการสังเกตพฤติกรรมของเด็กปฐมวัยพบว่า ด้านจดจ่อใสใจมีคะแนนการเปลี่ยนแปลงสูงที่สุด ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากที่เด็กได้ลงมิแปฏิบัติด้วยตนเอง ส่งผลให้เด็กได้ฝึกการจดจ่อใส่ใจ อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับกิจกรรมที่อยู่ตรงหน้า เกิดความ เพลิดเพลิน ผ่อนคลาย จึงทำให้ทักษะสมองด้านจดจ่อใส่ใจได้รับการการพัฒนามากที่สุด