กัญจน์ชญา เกษรสังข์
บทคัดย่อ (สำหรับเผยแพร่)
ในยุคศตวรรษที่ 21 การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศส่งผลให้ระบบการศึกษาต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน โดยการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) เป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นผ่านการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ บทความนี้นำเสนอแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกที่ผสานนวัตกรรมดิจิทัล เช่น การอภิปรายกลุ่ม การเรียนรู้ผ่านโครงการ การจำลองสถานการณ์ และการใช้ ICT เพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 อาทิ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การทำงานเป็นทีม และการเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมทั้งระบุบทบาทสำคัญของครูในฐานะผู้อำนวยความสะดวก ผู้กระตุ้น และผู้ประเมิน เพื่อส่งเสริมให้การเรียนรู้เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ความหมายของการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning)
การจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) คือแนวทางการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นในกระบวนการเรียนรู้ โดยการลงมือปฏิบัติจริง คิดวิเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ผู้เรียนจะมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้ เช่น การอภิปรายกลุ่ม การทำโครงการ การแก้ปัญหา และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ครูทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก สนับสนุน และให้คำแนะนำ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีความหมายและยั่งยืน การจัดการเรียนรู้เชิงรุกช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ตัวอย่างกิจกรรมการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning)
1.การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion): กิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ในประเด็นที่กำหนด โดยการแบ่งกลุ่มย่อย เพื่ออภิปราย ช่วยเสริมสร้างทักษะการฟัง การพูด และการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ ผู้เรียนจะได้ฝึกการแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล และเรียนรู้การเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างของผู้อื่น
2.การเรียนรู้ผ่านโครงการ (Project-Based Learning):ผู้เรียนจะได้ลงมือทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาวิชา โดยเริ่มจากการตั้งคำถาม ค้นคว้าหาข้อมูล วางแผน และดำเนินการจนเสร็จสิ้นโครงการกระบวนการนี้ช่วยพัฒนาทักษะการวางแผน การทำงานเป็นทีม และการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
3.การจำลองสถานการณ์ (Simulation): การสร้างสถานการณ์จำลองที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกตัดสินใจและแก้ไขปัญหาในบริบทที่กำหนด เช่น การจำลองสถานการณ์ทางธุรกิจ หรือสถานการณ์ทางสังคมต่างๆ ซึ่งช่วยเสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์และการตัดสินใจ
4.การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT Integration): การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอน เช่น การใช้แอปพลิเคชันเพื่อการศึกษา การเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือการใช้สื่อดิจิทัลต่างๆ ช่วยเสริมสร้างทักษะดิจิทัล และทำให้การเรียนรู้มีความน่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
บทบาทของครูในการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning)
1.ผู้อำนวยความสะดวก (Facilitator): ครูทำหน้าที่จัดเตรียมสภาพแวดล้อมและทรัพยากรที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เช่น สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย การจัดห้องเรียนที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วม และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลและแหล่งเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.ผู้กระตุ้น (Motivator): ครูมีบทบาทในการกระตุ้นให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้โดยการตั้งคำถามที่ท้าทาย การเชื่อมโยงเนื้อหากับประสบการณ์ของผู้เรียน และการส่งเสริมให้ผู้เรียน แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ เพื่อสร้างแรงจูงใจและความสนใจในการเรียนรู้
3.ผู้ประเมินและให้ข้อเสนอแนะ (Evaluator and Feedback Provider): ครูประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วิธีการประเมินที่หลากหลาย เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ และการตรวจผลงาน พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถปรับปรุงและพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป: การจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning)
การจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) เป็นแนวทางการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนมีบทบาท
สำคัญในการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ผ่านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น การอภิปราย การทำโครงการ การแก้ปัญหา และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้สอนทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก สนับสนุน และให้คำแนะนำ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีความหมายและยั่งยืน การเรียนรู้เชิงรุกช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และการเรียนรู้ตลอดชีวิต