ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

แบบรายงานวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) ฉบับนี้ เป็นการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD (Student Teams Achievement Divisions) ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของโพลยา เพื่อพัฒนาทัก

ผลงานที่เป็นแบบอย่างที่ดี (Best Practices)หรือนวัตกรรม

ชื่อเรื่อง : การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ (STAD) ร่วมกับ

กระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของโพลยา เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้เรื่องทฤษฎีบทพีทาโกรัส

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภายใต้โมเดล PAR-SAPS

ผู้เสนอผลงาน : นางสาวเอื้อมพร พรมสุคนธ์

ตำแหน่ง : ครูชำนาญการ อันดับ คศ.2 โรงเรียนปากจาบวิทยา

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๓

ปีการศึกษา : 2567

1. ความสำคัญของผลงานหรือนวัตกรรมที่นำเสนอ

1.1 ความเป็นมาและสภาพปัญหา

คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เนื่องจากคณิตศาสตร์ช่วยให้มนุษย์มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและถี่ถ้วน ช่วยในการคาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ คณิตศาสตร์ยังเป็นเครื่องมือในการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อื่น ๆ อันเป็นรากฐานในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของชาติให้มีคุณภาพและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ทัดเทียมกับนานาชาติ การศึกษาคณิตศาสตร์จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในยุคโลกาภิวัตน์ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, 2560 หน้า 1)

ปัญหาทางคณิตศาสตร์มักเป็นสถานการณ์หรือคำถามที่มีเนื้อหาสาระและกระบวนการ หรือความรู้ที่ผู้เรียนไม่คุ้นเคยมาก่อนหากไม่ผ่านการศึกษาค้นคว้าอย่างมาก การหาคำตอบจะต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ทางคณิตศาสตร์และศาสตร์อื่น ๆ ประกอบกับความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการตัดสินใจเลือกใช้วิธีการ ดังนั้น การจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้นั้นไปปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เฉกเช่นเดียวกับการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะในศตวรรษที่ 21 นั้น ซึ่งสิ่งแรกที่ควรคำนึงถึง คือ ผู้เรียนควรมีโอกาสในการลงมือทำ ค้นหาวิธีการ วางแผน และสรุปองค์ความรู้นั้น ๆ ได้ด้วยตนเอง มากกว่าที่จะสอนให้ผู้เรียนได้รู้ถึงคำตอบของปัญหานั้นในทันที โดยไม่พยายามส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นพบรูปแบบหรือวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตนเอง กล่าวคือ ไม่เน้นทักษะกระบวนการคิดของนักเรียนนั่นเอง

จากการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนปากจาบวิทยา ที่ข้าพเจ้าได้ทำการจัดการเรียนการสอนอยู่นั้น พบว่า นักเรียนมีปัญหาในด้านการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในบทเรียนเรื่องการหารากที่สองของจำนวนเต็ม ซึ่งเป็นเนื้อหาหลักและเนื้อหาสำคัญอย่างมากในการเรียนเพื่อเชื่อมโยงความรู้ไปใช้ในระดับชั้นเรียนที่สูงขึ้น อีกทั้งบทเรียนดังกล่าวยังคงต้องอาศัยความรู้พื้นฐานอย่างมากในการเรียนรู้ และมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งผลที่พบก็คือ นักเรียนไม่สามารถแก้ไขโจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ตั้งแต่โจทย์ในระดับขั้นพื้นฐานไปจนถึงโจทย์ในระดับการประยุกต์และนำไปใช้ ข้าพเจ้าคิดว่า เกิดจากกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่ผ่านมายังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้นักเรียนไม่สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง ไม่สามารถทำแบบทดสอบกลางภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ได้ในระดับการผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 ของคะแนนเต็ม ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ นักเรียนไม่สามารถต่อยอดความรู้ได้ทำให้การเรียนในระดับต่อไปหรือในบทเรียนต่อไปนั้นเกิดความไม่เข้าใจและยากลำบากในการเรียน อีกทั้งนักเรียนยังมีเจตคติที่ไม่ดีต่อรายวิชาคณิตศาสตร์อีกด้วย ส่งผลต่อเนื่องให้นักเรียนไม่เปิดใจและไม่ชอบที่จะเรียนรู้หรือศึกษาค้นคว้าหาความรู้ที่เกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์ ข้าพเจ้าจึงได้แก้ปัญหาดังกล่าวโดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ (STAD) ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของโพลยา เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้เรื่อง ทฤษฎีบทพีทาโกรัสของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภายใต้โมเดล PAR-SAPS

1.2 แนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนา

จากความเป็นมาและสภาพปัญหาดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้น ครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์จะต้องร่วมกันพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ให้ดีขึ้น สอดคล้องกับ ศศิธร พงษ์โภคา และ อุบลวรรณ ส่งเสริม (2558) ที่ได้ระบุว่า การเรียนรู้ผ่านนวัตกรรมวิธีสอนแบบต่าง ๆ และกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมพัฒนาให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้นและทำให้การจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนนั้นบรรลุตามเป้าหมายหรือจุดประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ได้ ข้าพเจ้าจึงได้ศึกษาค้นคว้าเทคนิควิธีการสอนในแบบต่าง ๆ พบว่า การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD (Student Teams Achievement Divisions) ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยให้ผู้เรียนที่มีความสามารถแตกต่างกัน ทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน โดยจะประกอบไปด้วย ผู้เรียนที่เรียนเก่ง 1 คน ผู้เรียนที่เรียนปานกลาง 2-3 คน และผู้เรียนที่เรียนอ่อน 1 คน การจัดการเรียนการสอนในเทคนิคดังกล่าวนั้นจะช่วยให้ผู้เรียนมีความร่วมมือกันในการทำงานภายในกลุ่ม และทำให้ผู้เรียนได้มีโอกาสร่วมกันอธิบายความรู้ไปยังผู้เรียนที่เรียนอ่อนให้เข้าใจเนื้อหาไปด้วย เทคนิคนี้ยังครอบคลุมไปถึงการสร้างชิ้นงานเพื่อเป็นผลงานของกลุ่มต่อไปอีกด้วย นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังได้ใช้วิธีการสอนหรือเทคนิคดังกล่าวรวมกับกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของโพลยาอีกด้วย ซึ่งกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของโพลยานั้น ประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ทำความเข้าใจปัญหา (Understanding the Problem) ขั้นที่ 2 วางแผนการแก้ปัญหา (Devising a plan) ขั้นที่ 3 ดำเนินการแก้ปัญหา (Carrying out the plan) และขั้นที่ 4 ตรวจสอบคำตอบ (Looking back) และกระบวนการจัดการเรียนการสอนของข้าพเจ้าทั้งสิ้นยังได้ดำเนินการภายใต้กรอบโมเดล PAR-SAPS ซึ่งเป็นโมเดลต้นแบบที่ดีของการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) อีกด้วย

2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน

2.1 วัตถุประสงค์

1. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน (ค22101) เรื่อง ทฤษฎีบทพีทาโกรัส ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

2. เพื่อสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนในรายวิชาคณิตศาสตร์

2.2 เป้าหมาย

1. เชิงปริมาณ

- นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 13 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567โรงเรียนปากจาบวิทยา อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ ได้รับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้เรื่อง ทฤษฎีบทพีทาโกรัสร้อยละ 100

2. เชิงคุณภาพ

- นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน

(ค22101) เรื่อง ทฤษฎีบทพีทาโกรัส สูงขึ้นในระดับการผ่านเกณฑ์ร้อยละ 50 ของคะแนนเต็ม

- นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนในวิชาคณิตศาสตร์

3. กระบวนการวิธีการดำเนินงาน (วิธีการพัฒนา Best Practice และการใช้ Best Practice )

3.1 การออกแบบผลงาน/นวัตกรรม

ขั้นตอนที่ 1 ศึกษา/ค้นคว้า

1. ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรุง พุทธศักราช 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รวมถึงหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนปากจาบวิทยา

2. ศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

3. ศึกษารูปแบบและวิธีการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดของกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD (Student Teams Achievement Divisions)

4. ศึกษารูปแบบและวิธีการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดของกระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของโพลยา

5. ศึกษารูปแบบและวิธีการจัดการเรียนการสอนภายใต้โมเดล PAR-SAPS และได้จัดทำสรุปการค้นคว้าดังแผนภาพต่อไปนี้

โพสต์โดย เอื้อมพร พรมสุคนธ์ : [5 เม.ย. 2568 (16:48 น.)]
อ่าน [104] ไอพี : 203.172.224.97
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,486 ครั้ง
เคี้ยวมาก สุขภาพดี
เคี้ยวมาก สุขภาพดี

เปิดอ่าน 11,230 ครั้ง
บัตรประชาชนทายรัก
บัตรประชาชนทายรัก

เปิดอ่าน 20,965 ครั้ง
ดื่มเบียร์ทุกวัน ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นได้
ดื่มเบียร์ทุกวัน ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นได้

เปิดอ่าน 53,565 ครั้ง
รายละเอียดเกณฑ์วิทยฐานะ(ใหม่) ใช้บังคับ 1 ต.ค.51
รายละเอียดเกณฑ์วิทยฐานะ(ใหม่) ใช้บังคับ 1 ต.ค.51

เปิดอ่าน 12,944 ครั้ง
"นอสตราดามุสหญิง" เมืองไทย
"นอสตราดามุสหญิง" เมืองไทย

เปิดอ่าน 17,483 ครั้ง
รู้ก่อนสมัครงาน...!! คุณเหมาะกับการทำงานในองค์กรแบบไหน
รู้ก่อนสมัครงาน...!! คุณเหมาะกับการทำงานในองค์กรแบบไหน

เปิดอ่าน 118,377 ครั้ง
สดุดี ‘ครูทองล้อม’ เกษียณกว่า 20 ปี ยังมาสอนเลข แต่งเพลงให้เด็กจำ ผ่านยกห้อง
สดุดี ‘ครูทองล้อม’ เกษียณกว่า 20 ปี ยังมาสอนเลข แต่งเพลงให้เด็กจำ ผ่านยกห้อง

เปิดอ่าน 4,421 ครั้ง
แนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
แนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 14,470 ครั้ง
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน

เปิดอ่าน 13,408 ครั้ง
3 เรื่องที่ต้องรู้ "ตั้งเป้ารวยก่อนแก่"
3 เรื่องที่ต้องรู้ "ตั้งเป้ารวยก่อนแก่"

เปิดอ่าน 29,873 ครั้ง
มาค้นหาไฟล์ใหญ่ๆในฮาร์ดดิสก์กันเถอะ
มาค้นหาไฟล์ใหญ่ๆในฮาร์ดดิสก์กันเถอะ

เปิดอ่าน 24,650 ครั้ง
ระวัง 5 สารพิษใกล้ตัว
ระวัง 5 สารพิษใกล้ตัว

เปิดอ่าน 16,756 ครั้ง
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

เปิดอ่าน 25,422 ครั้ง
เมฆสีรุ้ง
เมฆสีรุ้ง

เปิดอ่าน 46,897 ครั้ง
การเคาะปอดเพื่อระบายเสมหะในเด็กเล็ก
การเคาะปอดเพื่อระบายเสมหะในเด็กเล็ก

เปิดอ่าน 21,723 ครั้ง
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้
เปิดอ่าน 15,540 ครั้ง
พระสรัสวดี
พระสรัสวดี
เปิดอ่าน 25,545 ครั้ง
4 ข้อควรทำคลายบาดเจ็บจากกีฬา
4 ข้อควรทำคลายบาดเจ็บจากกีฬา
เปิดอ่าน 17,807 ครั้ง
ขนุน 8 เดือนติดผล เร็วกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว!
ขนุน 8 เดือนติดผล เร็วกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว!
เปิดอ่าน 32,285 ครั้ง
ล้างผักผลไม้สะอาดปลอดโรค
ล้างผักผลไม้สะอาดปลอดโรค

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ